×

ครม. ต่ออายุ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เพิ่ม 1 เดือน ย้ำการผ่อนปรนมาตรการ ต้องคำนึงถึงปัจจัยทางสาธารณสุขเป็นหลัก

โดย THE STANDARD TEAM
28.04.2020
  • LOADING...

วันนี้ (28 เมษายน) ศ.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 1 เดือน โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 – 31 พฤษภาคม 2563 ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ หลังจาก พ.ร.ก. ฉุกเฉินฉบับเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายน 2563

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นควรดำรงมาตรการหรือข้อกำหนดที่ปฏิบัติอยู่ในขณะนี้ ประกอบด้วย 4 มาตรการ ดังนี้

  • จำกัดการเข้าราชอาณาจักรทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ (สำหรับทางอากาศ ให้ขยายระยะเวลาการห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราวออกไปอีก 1 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 – 31 พฤษภาคม 2563)
  • ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น
  • งดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดโดยไม่จำเป็น
  • ห้ามประชาชนเข้าไปในพื้นที่ หรือสถานที่ซึ่งมีคนจำนวนมากไปทำกิจกรรมร่วมกัน และเสี่ยงต่อการแพร่โควิด-19 เป็นการชั่วคราว

 

ขณะเดียวกัน ที่ประชุม ครม. ยังให้กระทรวงการต่างประเทศเร่งรัดตรวจสอบและรวบรวมจำนวนคนไทยในต่างประเทศที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย (ซึ่งจะมีจำนวนมากขึ้นเนื่องจากมีตัวเลขคนไทยตกค้างในต่างประเทศสะสม) ให้ได้จำนวนที่ชัดเจน และประสานงานกับสำนักงานประสานงานกลางของ ศบค. เตรียมการรองรับกลุ่มบุคคลดังกล่าวเดินทางกลับประเทศเพื่อเข้าสู่มาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด

 

สำหรับการปฏิบัติงานในห้วงต่อไป เพื่อเป็นการผ่อนคลายมาตรการบังคับใช้กฎหมายบางอย่างให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติขึ้น และเพื่อเป็นการลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านความมั่นคงภายใต้ความปลอดภัยของประชาชน สำนักงานประสานงานกลางจะได้ร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ปรึกษาด้านธุรกิจ ศบค. ภาคธุรกิจและทุกภาคส่วนร่วมกันกำหนดมาตรการผ่อนคลาย ตามแนวทางดังนี้

 

  1. การผ่อนคลายมาตรการในการบังคับใช้อำนาจตามพระราชกำหนดฯ จะต้องดำเนินการโดยคำนึงถึงปัจจัยทางด้านการสาธารณสุขเป็นหลัก และนำปัจจัยด้านอื่นๆ มาใช้ประกอบการพิจารณา อาทิ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ และปัจจัยด้านสังคม

 

  1. การดำเนินมาตรการผ่อนคลายให้พิจารณาจากประเภทของกิจกรรมที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในลำดับแรก และมีการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนดควบคู่กันไปด้วยอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ จะต้องจัดเจ้าหน้าที่ และ/หรือใช้เทคโนโลยีเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนดอย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ ภายหลังการประเมินผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินการตามวงรอบ หากพบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มที่ภาครัฐสามารถควบคุมได้ดีขึ้น จะพิจารณากำหนดมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม แต่หากพบว่ามีการฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด หรือสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น ให้ยกเลิกมาตรการผ่อนคลายในทันที

 

  1. ในช่วงที่มีการดำเนินมาตรการผ่อนคลาย จะต้องเร่งรัดการตรวจโควิด-19 ให้กับประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง อาทิ กลุ่มสาขาอาชีพบริการ กลุ่มแรงงานต่างด้าว และมีการใช้เทคโนโลยีติดตามเพื่อตรวจตรากิจกรรมควบคู่กันไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อควบคุมและป้องกันมิให้โรคโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดได้อีก

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising