×

6 ร้านแนะนำในงาน Brunch POP/Up Table | Sensations: The Healing Power of Food

17.10.2022
  • LOADING...
Brunch POP/Up Table | Sensations: The Healing Power of Food

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • ทุกคนจะได้พบมื้อคอลแลบพิเศษจาก ‘เชฟไทกิแห่ง Homeburg x Nana Coffee Roasters’ ตามด้วย ‘เชฟแท็ปแห่ง CODA x Peace Oriental Teahouse’ และปิดท้ายด้วย ‘เชฟติ๋ม กนิษฐา แห่ง Roast/Ocken x เชฟกรณ์ Head Roaster แห่ง Roots’

เตรียมพบกับ 6 ร้านอาหารแนะนำ ที่จะมาจับคู่กันรังสรรค์มื้อสุดพิเศษให้ทุกคนชิมในอีเวนต์ Brunch POP/Up Table | Sensations: The Healing Power of Food ที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง #GrabThumbsUp และ THE STANDARD POP แถมอีเวนต์นี้จะเกิดขึ้นเพียง 3 วันเท่านั้น!

 

โดย #GrabThumbsUp จาก GrabFood คือโครงการคัดสรรร้านอร่อยจากทั่วประเทศที่ผ่านเกณฑ์ทั้งในด้านรสชาติอาหาร ชื่อเสียง และความนิยมวัดจากยอดสั่งอาหาร รวมถึงคะแนนความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ยังต้องผ่านการพิจารณาและรับรองจากผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารอีกด้วย

 

ฉะนั้นงานนี้ใครอยากลองชิมฝีมือเชฟชื่อดังที่ต้องมาจับคู่รังสรรค์คอร์สเมนูพิเศษร่วมกับร้านอาหารและเครื่องดื่มสุดสเปเชียลต้องห้ามพลาด เพราะทุกคนจะได้พบกับอาหารสุดพิเศษที่เราเชื่อว่าหาไม่ได้จากที่ไหน เนื่องจากเป็นการจับคู่ประชันความแตกต่างที่ผลลัพธ์กลับลงตัวน่าชิม แล้วใครจะรู้อีกว่าการคอลแลบนี้อาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว!

 

ทุกคนจะได้พบมื้อคอลแลบพิเศษจาก ‘เชฟไทกิแห่ง Homeburg x Nana Coffee Roasters’ ตามด้วย ‘เชฟแท็ปแห่ง CODA x Peace Oriental Teahouse’ และปิดท้ายด้วย ‘เชฟติ๋ม กนิษฐา แห่ง Roast/Ocken x เชฟกรณ์ Head Roaster แห่ง Roots’

 

หากใครอยากรู้ว่าการจับคู่กันของ 6 ร้านนี้จะออกมาเป็นเมนูหน้าตาน่ากิน น่าลิ้มลองมากแค่ไหน มาอ่านรีวิวเพื่อทำความรู้จักแต่ละร้านได้เลย แล้วเตรียมจองที่นั่งไปพิสูจน์กันว่าพวกเขาจะชูความโดดเด่นของตัวเองให้ลงตัวพร้อมกันได้อย่างไร

 

สำรองที่นั่งได้แล้ววันนี้ที่ #GrabThumbsUp x THE STANDARD POP | Brunch POP/Up Table

 

[IN PARTNERSHIP WITH #GrabThumbsUp]

 

Brunch POP

1. Homeburg

‘เชฟไทกิ-รัตนพงศ์ ซูโบต้า’ เจ้าของร้านอาหารสไตล์เชฟส์ เทเบิล ‘Homeburg’ ที่เปิดรับเพียงรอบละ 4 ที่นั่ง เขาเริ่มสนใจการทำเมนูเบอร์เกอร์จริงจังหลังกลับมาจากสหรัฐอเมริกา และพบว่าเบอร์เกอร์ที่อร่อยในกรุงเทพฯ ยังมีไม่มาก เชฟจึงเริ่มพัฒนาสูตรของตัวเองและเปิดร้านเล็กๆ ที่มีเพียง 4 ที่นั่ง ซึ่งร้านมีกฎว่าเมื่อกินเสร็จแล้วจะจ่ายเงินเท่าไรก็ได้ แลกกับให้ความคิดเห็นเป็นการตอบแทน

 

เชฟไทกิหลงใหลศาสตร์ในการทำอาหารที่จะช่วยให้ทุกเมนูที่เขาเสิร์ฟออกมาสมบูรณ์แบบและอร่อย ด้วยการใช้เครื่องมือ วิทยาศาสตร์ และการชั่งตวงวัดที่แม่นยำหลักจุดทศนิยม เพื่อสร้างรสชาติอันคงที่และความสมบูรณ์แบบสุดคราฟต์ที่ใครกินก็ติดใจ ซึ่งทุกคนจะสัมผัสได้ตลอดการนั่งชมผ่านเคาน์เตอร์บาร์เสิร์ฟอาหารที่รับเพียงรอบละ 4 ที่นั่งเช่นเดิม

 

Homeburg เปิดอยู่ในซอยสุขุมวิท 51 ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 3 ของอาคารเดียวกับร้านอาหารจีน โดยทางขึ้นจะอยู่ด้านหลัง

 

Brunch POP

2. Nana Coffee Roasters

Nana Coffee Roasters ร้านกาแฟสเปเชียลตี้ที่จริงจังกับกาแฟตั้งแต่ขั้นตอนการคัดสรรเมล็ด คั่วเมล็ด ก่อนนำมาชงเสิร์ฟให้ทุกคนถึงมือ โดยปัจจุบันร้านมีทั้งหมด 3 สาขาให้คอกาแฟแวะไปนั่งจิบได้ในบรรยากาศที่แตกต่างกัน พร้อมมีทีมบาริสต้ามือรางวัลที่เข้าใจเรื่องกาแฟอย่างดีคอยต้อนรับและแนะนำเมล็ดใหม่ๆ ให้ทุกคนลอง

 

เมล็ดกาแฟของที่นี่น่าสนใจตรงที่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งจากในและต่างประเทศ ร้านจะนำมาคั่วเองเพื่อให้ได้ระดับที่ต้องการในการทำเป็นเมนูพิเศษต่างๆ หรือใครจะเลือกดื่มแบบ Single Origin ผ่านการดริปหรือเครื่องเอสเพรสโซก็ได้

 

เมนูแนะนำของร้าน เช่น ‘H-A-N 3’ มีแรงบันดาลใจมาจากคาแรกเตอร์ของ Nana Coffee Roasters ทั้ง 3 สาขา ได้แก่ ซอยอารีย์ 4, เลียบทางด่วนรามอินทรา และสาขาบางนา จึงได้ออกมาเป็นเครื่องดื่ม 3 ชั้นที่นำสีประจำแต่ละสาขามาสร้างสรรค์เป็นเมนูกาแฟ เริ่มจากชั้นล่างสุดเป็นเอิร์ลเกรย์เยลลี่ ตามด้วยลาเต้ ปิดท้ายด้วยฟองนมนุ่มละมุน

 

หรือ ‘Kanda’ เมนูซิกเนเจอร์ของทุกสาขา เป็นกาแฟไนโตรผสมชาผลไม้สกัดเย็น เมื่อดื่มแล้วจะได้ทั้งความสดชื่นและความหอมนุ่ม เหมาะสำหรับคนไม่ชอบดื่มกาแฟที่เข้มหรือเปรี้ยวจนเกินไป

 

Brunch POP

Homeburg x Nana Coffee Roasters

เมื่อเชฟส์ เทเบิล อาหารคาว ‘ไทกิ-รัตนพงศ์ ซูโบต้า’ แห่ง Homeburg ผู้จริงจังและพิถีพิถันเรื่องการทำอาหารถึงหลักจุดทศนิยม ต้องมารังสรรค์คอร์สเมนูพิเศษร่วมกับ ‘Nana Coffee Roasters’ ร้านกาแฟสเปเชียลตี้ที่จริงจังและพิถีพิถันทุกขั้นตอนไม่แพ้ใคร โดยเฉพาะเรื่องกาแฟ

 

ความแตกต่างอย่างสุดขั้วที่จะผสมผสานกันอย่างลงตัวครั้งนี้ จะทำให้เกิดเป็นเมนูอาหารหน้าตาแบบไหนรอให้ทุกคนลิ้มลอง สามารถตามไปพบกันได้ในงานสุดพิเศษ Brunch POP/Up Table | Sensations: The Healing Power of Food วันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 เวลา 11.00-13.00 น. บัตรราคา 2,500 บาท

 

ซื้อบัตรได้ที่ #GrabThumbsUp x THE STANDARD POP | Brunch POP/Up Table

 

Brunch POP

3. CODA

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งที่เกิดจากความรักในการทำอาหารของ ‘เชฟแท็ป-ศุภสิทธิ์ ก๊กผล’ ผู้เติบโตมาพร้อมกิจการร้านอาหารทะเลของครอบครัว เชฟจึงหยิบความทรงจำตั้งแต่สมัยเด็กจนเติบโตมาเป็นแรงบันดาลใจในการให้กำเนิดร้านแห่งนี้ ที่ตั้งใจนำอาหารกลิ่นอายไทย-จีนมาตีความใหม่ในรูปแบบตัวเอง โดยที่รสชาติยังคงจัดจ้าน ชัดเจน และเต็มไปด้วยเรื่องราวในทุกๆ คำ

 

เชฟแท็ปเชี่ยวชาญการทำอาหารด้วยเทคนิคสมัยใหม่ที่ไม่จำกัดทวีป เพราะเขาหยิบทุกอย่างระหว่างเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในร้านอาหารดังๆ มาใช้รังสรรค์อาหารทุกเมนู พร้อมการเน้นใช้วัตถุดิบอาหารทะเลเป็นหลัก เพื่อนำเสนอความเป็นตัวตนและรสชาติที่เชฟเติบโตมากับมัน

 

เมนูแนะนำจาก CODA คือ ‘Tiger Prawn’ อาหารเรียกน้ำย่อยก่อนเข้าสู่จานหลักที่เชฟใช้กุ้งลายเสือจากบ้านเกิดในมหาชัย นำมารมควัน ย่างบนกระทะ และหั่นเต๋า ก่อนเสิร์ฟมาพร้อมน้ำยำในรูปแบบซอร์เบต เพิ่มความหอมมันด้วยกะทิ เวลากินแล้วช่วยเรียกความสดชื่นให้อยากกินจานถัดไปแน่นอน

 

CODA เปิดอยู่บนถนนวิทยุ ในโครงการสินธร วิลเลจ

 

Brunch POP

4. Peace Oriental Teahouse

ร้านชาสเปเชียลตี้ที่อยากเสิร์ฟชาสไตล์ตะวันออกแบบร่วมสมัย ให้ทุกคนมานั่งจิบได้ทุกวันในบรรยากาศผ่อนคลาย ใบชาที่ร้านตามหาและคัดเลือกมาใช้จึงนำมาจากหลายแหล่ง ทั้งในประเทศญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน และไทย ก่อนจะนำมาชงด้วยวิธีที่เหมาะสมกับใบชาและเมนูนั้นๆ เพื่อดึงคาแรกเตอร์ของชาแต่ละสายพันธุ์มาให้ทุกคนสัมผัสผ่านรสชาติและความหอม อย่างเช่น ‘วิธีกงฟู’ ที่เป็นการชงชาแบบดั้งเดิมของชาวจีน จะเหมาะกับชาร้อน และมีเทคนิคการแช่ใบชาก่อนดื่มที่ไม่เหมือนใคร

 

เครื่องดื่มที่ร้านแนะนำก็เริ่มจากชาแบบใสอย่าง ‘Sencha (เซ็นฉะ)’ เป็นชายอดนิยมในคนญี่ปุ่น เพราะเหมาะดื่มในชีวิตประจำวัน โดยใบชานี้ร้านก็เลือกเองจากไร่ชาในญี่ปุ่นด้วย หากเป็นชาร้อนแนะนำ ‘Roasted Tieguanyin’ เป็นชาจีนที่ชงด้วยวิธีกงฟู ต้องเริ่มดื่มจากการแช่และเทน้ำแรกทิ้ง ก่อนเติมน้ำร้อนใหม่อีกครั้งเพื่อจิบความหอมและรสชาติชา

 

Peace Oriental Teahouse มีทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ ซอยสุขุมวิท 49, G Tower, King Power รางน้ำ, โครงการเวลา หลังสวน, The PARQ พระราม 4 และซอยอารีย์ 1 

 

Brunch POP

CODA x Peace Oriental Teahouse

เมื่อเชฟอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งสมัยใหม่ ‘เชฟแท็ป-ศุภสิทธิ์ ก๊กผล’ เจ้าของร้านอาหาร CODA ต้องมารังสรรค์คอร์สเมนูพิเศษร่วมกับทีม ‘Peace Oriental Teahouse’ ร้านชาสเปเชียลตี้ร่วมสมัยที่ใส่ความครีเอทีฟลงไปในทุกเมนูไม่แพ้กัน อาหารที่พวกเขาร่วมมือกันจะออกมาหน้าตาและรสชาติน่าสนใจมากขนาดไหน สามารถพบกันได้ในงาน Brunch POP/Up Table | Sensations: The Healing Power of Food วันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 เวลา 11.00-13.00 น. บัตรราคา 2,500 บาท

 

ซื้อบัตรได้ที่ #GrabThumbsUp x THE STANDARD POP | Brunch POP/Up Table

 

Brunch POP

5. Roast/Ocken

ร้านอาหารเช้าถึงสายสไตล์ All Day Dining ที่หลายคนชอบแวะมาเป็นประจำ เพราะที่นี่พร้อมเสิร์ฟเมนูคอมฟอร์ตฟู้ดให้นั่งชิมคู่กับกาแฟแก้วโปรด อีกทั้งมีครบทั้งอาหารคาว ของหวาน และเครื่องดื่มอื่นๆ สำหรับทุกคนในทุกๆ วัน โดยเมนูของร้านจะได้รับการรังสรรค์มาอย่างดี ผ่านฝีมือของ Executive Chef ‘Johnny Liu’ ที่เป็นผู้ดูแลอาหารของ Roast ทุกสาขา ซึ่งเขาจะเน้นการปรุงรสชาติและวัตถุดิบให้เข้าใจง่าย ทว่าเต็มไปด้วยความสมดุลและกินอร่อย เข้ากับทุกคน

 

เมนูแนะนำจากร้าน อย่างเช่น ‘Eggs Benedict’ เสิร์ฟไข่เบเนดิกต์มาพร้อมแซลมอนรมควันและแฮม ท็อปมาบนครัวซองต์โทสต์ที่ปิ้งจนกรอบ กินคู่กับผักสลัด ‘Blueberry Ricotta Pancakes’ เมนูของหวานสำหรับคนชอบแพนเค้ก เพราะร้านเสิร์ฟแพนเค้กชิ้นโตมาให้พร้อมครีมชีสและบลูเบอร์รีซอส ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่ม ‘Iced Espresso Latte’ ที่เสิร์ฟกาแฟเอสเพรสโซในรูปแบบก้อนน้ำแข็ง ก่อนให้เราเทนมลงไปเพื่อดื่มเป็นเมนูลาเต้เย็น

 

Roast มีทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่ The Commons ทองหล่อ, เอ็มควอเทียร์ และเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีเจ้าของเดียวกับ Ocken ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งบรรยากาศสบายๆ ในย่านสาทร

 

Brunch POP

6. Roots

ร้านกาแฟสเปเชียลตี้ที่ตั้งใจใช้เมล็ดกาแฟจากในประเทศไทยเท่านั้น นำมาเสิร์ฟให้ทุกคนจิบด้วยคอนเซปต์ Cup to Farm ที่อยากให้ทุกคนได้ลิ้มลองกาแฟจากเกษตรกรที่ตั้งใจ และในขณะเดียวกันก็เป็นการผลักดันให้คนปลูกกาแฟไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย Roots จึงใช้เมล็ดกาแฟผลัดเปลี่ยนแหล่งปลูกไปเรื่อยๆ ทุกเดือน เพื่อให้ทุกคนแวะมาชิมกาแฟรสชาติใหม่ๆ ได้ทุกวัน โดยสามารถเลือกได้ทั้งการดื่มแบบดริปหรือเอสเพรสโซ

 

นอกจากนี้ Roots จะมีเมนูพิเศษในทุกๆ เดือนให้ลองด้วย เกิดจากการให้บาริสต้าแต่ละสาขาคิดเมนูใหม่ขึ้นมาประชันความสร้างสรรค์กัน โดยเมนูที่ชนะเลิศจะได้วางขายในร้านทุกสาขาให้ทุกคนได้ลอง

 

ส่วนเมนูแนะนำของร้านก็มีทั้งเครื่องดื่ม ขนม และอาหาร ได้แก่ ‘Cretzel’ ขนมฟิวชันจากครัวซองต์และเพรตเซล เพราะร้านใช้แป้งครัวซองต์กรอบๆ หอมๆ มาทำเป็นเพรตเซลให้ลองกินคู่กับกาแฟนม ‘Burger’ เป็นเมนูเหมาะกินเป็นอาหารเช้า เพราะหั่นเบคอนชิ้นหนามาให้กินพร้อมไข่ดาว ซอสฮอลแลนเดส ชีส ก่อนประกบด้วยขนมปังนุ่มๆ ตามด้วย ‘Drip Coffee’ ที่ร้านใช้เมล็ดจากเกษตรกรบนดอยสามหมื่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน

 

Roots ปัจจุบันมี 8 สาขา ได้แก่ The Commons ทองหล่อ, The Commons ศาลาแดง, อาคารภิรัชทาวเวอร์ แอท สาทร, ลาซาล, เอ็มควอเทียร์, ไบเทค บางนา, ประตูผี และเซ็นทรัลเวิลด์

 

Brunch POP

Roast/Ocken x Roots

เมื่อเชฟติ๋ม กนิษฐา จาก ‘Roast/Ocken’ ร้านอาหารมื้อสายสไตล์อเมริกันคอมฟอร์ตฟู้ด ต้องมาร่วมรังสรรค์คอร์สเมนูพิเศษจับคู่กับเมนูเครื่องดื่มสร้างสรรค์โดยเชฟกรณ์ Head Roaster แห่ง ‘Roots’ ร้านกาแฟสเปเชียลตี้ที่หลายคนชอบแวะมานั่งจิบกาแฟมื้อสาย เมนูที่พวกเขาร่วมมือกันสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเสิร์ฟในอีเวนต์พิเศษนี้จะน่าสนใจแค่ไหน หากใครไม่อยากพลาดคอลแลบสุดพิเศษระหว่าง 2 ร้านนี้ที่จะเกิดขึ้นครั้งเดียว สามารถพบกันได้ในงาน Brunch POP/Up Table | Sensations: The Healing Power of Food วันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 เวลา 11.00-13.00 น. บัตรราคา 2,300 บาท

 

ซื้อบัตรได้ที่ #GrabThumbsUp x THE STANDARD POP | Brunch POP/Up Table

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising