มินา แอนดรีวา โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรป แถลงว่า รัฐสมาชิกในสหภาพยุโรปเห็นชอบในหลักการที่จะเลื่อนกำหนดเวลาออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) ซึ่งเดิมคือวันที่ 31 ตุลาคมนี้ออกไป แต่ยังไม่มีกำหนดเวลาใหม่ที่ชัดเจน เพราะต้องรอการหารือครั้งต่อไปในเร็ววันนี้ หลังจาก ซาจิต จาวิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร ยอมรับว่า กำหนดเส้นตายเดิมนั้นไม่สามารถเป็นไปได้แล้ว
ขณะที่ก่อนหน้านี้ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร แสดงท่าทีว่า ต้องการให้เลื่อนกำหนดวัน Brexit ออกไปในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น โดยเขาหวังว่า กำหนดการใหม่จะเป็นวันที่ 15 หรือ 30 พฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม หากสหภาพยุโรปให้เลื่อนเส้นตาย Brexit ออกไปอีก 3 เดือน จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2020 เขาก็จะเสนอให้มีการยุบสภาและจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 12 ธันวาคม ด้วยความหวังว่า พรรคคอนเซอร์เวทีฟของเขาจะได้รับที่นั่งในสภามากกว่าเดิม เพื่อผลักดันประเด็น Brexit ให้ลุล่วงได้ง่ายขึ้น
คาดว่า จอห์นสันจะเสนอให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันจันทร์หน้า (28 ตุลาคม) โดยเขาจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาล่าง หรือ House of Commons ถึง 2 ใน 3 จากเสียงสมาชิกทั้งหมดตามกฎหมายที่มีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากเสียงสนับสนุนไม่มากพอ รัฐบาลอาจใช้วิธีออกกฎหมายใหม่ให้กำหนดวันเลือกตั้งอย่างชัดเจน แล้วเสนอกฎหมายนี้ต่อสภาอีกครั้ง โดยวิธีนี้จะใช้เสียงอย่างต่ำกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาล่างที่มีอยู่ นอกจากนี้การเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นได้ ถ้าสภาลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล และฝ่ายค้านไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ในเวลาที่กำหนด
แต่ เจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคเลเบอร์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน บอกว่า จะเห็นชอบให้มีการเลือกตั้งทั่วไปได้ก็ต่อเมื่อมีการประกันว่าจะไม่เกิด Brexit แบบไร้ข้อตกลง หรือ No-Deal Brexit เท่านั้น โดยเขาเห็นว่า ข้อตกลงล่าสุดของจอห์นสันยังมีโอกาส ทำให้เกิด No-Deal Brexit ได้อยู่ ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆ มีทั้งท่าทีที่สนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง สนับสนุนให้มีการทำประชามติรอบสอง หรืออยู่ระหว่างการรอกำหนดท่าที
ภาพ: Getty
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
