รายงาน ส.ว. บราซิลระบุ การกระทำของประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร เข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากกรณีบริหารวิกฤตโควิดล้มเหลว

วันนี้ (21 ตุลาคม) จากรายงานของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) บราซิลฉบับหนึ่ง ที่ตรวจสอบการทำงานของประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร พบว่า การกระทำของเขาเข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากกรณีบริหารวิกฤตโควิดล้มเหลว เป็นเหตุให้ชาวบราซิลเสียชีวิตมากกว่า 600,000 ราย มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก เป็นรองแค่สหรัฐอเมริกา

รายงานที่มีเนื้อหาเกือบ 1,200 หน้านี้ระบุว่า การกระทำของโบลโซนาโรเข้าข่ายเป็นการกระทำของคนที่อ้างว่าตนเป็นคนที่ความรู้ความสามารถและชักจูงผู้คนไปในทิศทางที่ผิด ปลุกระดมผู้คน ตลอดจนการใช้งบประมาณในทางที่มิชอบ และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติจากการบริหารจัดการวิกฤตล้มเหลว

จากสถานการณ์ความตึงเครียดและแรงกัดดันทางการเมือง ส่งผลให้ประชาชนชาวบราซิลจำนวนมากต่างรวมตัวกันประท้วงและเรียกร้องให้โบลโซนาโรก้าวลงจากตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเบื้องต้นเขายังให้การปฏิเสธว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมยืนยันว่าเขาและรัฐบาลทำในสิ่งที่ถูกต้องและดำเนินการอย่างทันท่วงที

ทางด้าน โอมาร์ อาซิส ส.ว. บราซิล ที่นั่งเก้าอี้คณะกรรมการตรวจสอบ ระบุว่ารายงานดังกล่าวเพียงพอที่จะนำตัวโบลโซนาโรมารับโทษทางกฎหมาย ในขณะที่ ออกุสโต อะราส อัยการสูงสุดกล่าวว่า เราจำเป็นต้องวิเคราะห์และตรวจสอบรายงานฉบับดังกล่าวอย่างละเอียดรอบคอบ โดยหลายฝ่ายกังวลว่าอะราสจะปกป้องประธานาธิบดีโบลโซนาโรจากข้อกล่าวหาดังกล่าว

อาซิสระบุว่า “ถ้าอัยการสูงสุดนิ่งเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เราจะยื่นเรื่องต่อศาลสูงสุด และอาจรวมถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ที่เฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เราจะเดินหน้าสร้างแรงกดดัน เพื่อนำไปสู่การสร้างหลักประกันว่าความยุติธรรมที่แท้จริงจะเกิดขึ้นในสังคมบราซิล”

คาดว่าจะมีการลงมติเกี่ยวกับรายงานฉบับดังกล่าวภายในสมาชิกวุฒิสภาในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ก่อนที่จะส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด โดยบราซิลมีกำหนดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งสำคัญในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2022

บทความที่เกี่ยวข้อง: