×

เปิดเบื้องหลังเคล็ดลับไวน์แคลอรีต่ำ เทรนด์ใหม่ที่ดื่มได้แบบไม่รู้สึกผิด

23.11.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • ไวน์ที่มีแคลอรีต่ำตามธรรมชาตินั้นจะมีความดราย (Dry) อันเกิดจากระดับน้ำตาลที่ต่ำมากๆ ส่งผลให้รู้สึกฝาดลิ้นเบาๆ โดยมักมีแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 10%
  • ไวน์แคลอรีต่ำจากธรรมชาติมักผลิตในย่านที่มีอากาศหนาวเย็น อันเนื่องจากองุ่นที่โตในอากาศหนาวเย็นจะไม่หวานและมีน้ำตาลที่ต่ำ
  • แอลกอฮอล์ต่อกรัมมี 7 แคลอรี ดังนั้นเมื่อเราดื่มไวน์ที่ระบุว่ามีระดับแอลกอฮอล์ 12% ในแก้ว 5 ออนซ์ ก็แปลว่าเรากำลังรับเอาแอลกอฮอล์เปล่าๆ เข้าไปราว 14 กรัม แปลว่ารับแคลอรีเข้าไปเรียบร้อยเกือบ 100 แคลอรี (วิ่งรอบสนามรอบหนึ่งยังไม่คุ้มเลย!)
  • ในการผลิตสปาร์กลิงไวน์ ก่อนจะถึงขั้นตอนปิดฝาขวด มีการเติมน้ำตาลใส่เข้าไป ซึ่งในภาษาผลิตไวน์เขาเรียกว่า ‘Dosage’ ดังนั้นยิ่ง Dosage น้อยเท่าไร ไวน์ก็มีความดรายยิ่งขึ้นเท่านั้น และโดยปกติแล้วความดรายเรียงได้ไปตั้งแต่ บรุต (Brut) ที่มีความหวานต่ำสุด ไปจนถึงดราย (Dry) และหวาน (Sweet)

ก่อนหน้านั้นเราเคยกล่าวถึงไวน์แคลอรีต่ำกันมาบ้างว่าเป็นเทรนด์ใหม่น่าจับตามองโดยเฉพาะช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองที่ทั้งออฟฟิศและผองเพื่อนต่างเป็นต้องฉลองให้กับการผ่านพ้นมาได้อีกปี

 

แต่เมื่อนึกถึงแคลอรีที่รับเข้าไปขณะชนแก้วกับเพื่อนซี้ คุณอาจรู้สึกห่อเหี่ยวจนเริ่มหันมองน้ำเปล่าขึ้นมาแทน แต่เนื่องด้วยไวน์นั้นมีไว้ดื่ม หาใช่ตั้งโชว์สวยๆ ในตู้ ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจโลกของไวน์แคลอรีต่ำขึ้นมาอีกหน่อยกันดีกว่า เพราะรู้ไหมว่าสามารถผลิตได้แบบตามธรรมชาติ หรือผ่านกรรมวิธีที่ทำให้แคลอรีต่ำได้ (เพราะใครจะอยากดื่มไปกะปริมาณไปจนหมดสนุกกันล่ะ)

 

 

Photo: giphy.com

 

ไวน์แคลอรีต่ำตามธรรมชาติ

ไวน์ที่มีแคลอรีต่ำตามธรรมชาตินั้นจะมีความดราย (Dry) อันเกิดจากระดับน้ำตาลที่ต่ำมากๆ ส่งผลให้รู้สึกฝาดลิ้นเบาๆ และไวน์แคลอรีต่ำนี้มักมีแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 10% ซึ่งไวน์แคลอรีต่ำจากธรรมชาติมักผลิตในย่านที่มีอากาศหนาวเย็น อันเนื่องจากองุ่นที่โตในอากาศหนาวเย็นจะไม่หวานและมีน้ำตาลที่ต่ำ ส่งผลให้มีปริมาณยีสต์ในการหมักไวน์ลดลง จึงส่งผลให้เกิดแอลกอฮอล์ในปริมาณต่ำนั่นเอง และแอลกอฮอล์ต่อกรัมมี 7 แคลอรีด้วยกัน ดังนั้นเมื่อเราดื่มไวน์ที่ระบุว่ามีระดับแอลกอฮอล์ 12% ในแก้ว 5 ออนซ์ ก็แปลว่าเรากำลังรับเอาแอลกอฮอล์เปล่าๆ เข้าไปราว 14 กรัม แปลว่ารับแคลอรีเข้าไปเรียบร้อยเกือบ 100 แคลอรี (วิ่งรอบสนามรอบหนึ่งยังไม่คุ้มเลย!)

 

 

Photo: giphy.com

 

แคลอรีที่อยู่ในไวน์นั้นมักมาจากน้ำตาล เมื่อองุ่นมีปริมาณน้ำตาลสูง จนยีสต์กินน้ำตาลไม่หมด จึงเกิดเป็นน้ำตาลที่อยู่ในแก้วไวน์ที่คุณกำลังดื่มนั่นเอง และน้ำตาล 1 กรัมมีจำนวนแคลอรี 4 แคลอรีด้วยกัน เมื่อเราดื่มไวน์ที่มีน้ำตาลสูง จึงทำให้เรารับแคลอรีเพิ่มขึ้นไปด้วย Frank Schieber ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย South Dakota ระบุถึงน้ำตาลในไวน์เอาไว้ดังนี้

 

ไวน์ขาวแบบดราย: มีน้ำตาล 1-2 กรัมต่อลิตร

ไวน์แดงแบบดราย: มีน้ำตาล 2-3 กรัมต่อลิตร

ไวน์กึ่งดราย: มีน้ำตาล 10-30 กรัมต่อลิตร

พอร์ตไวน์และเชอร์รี: มีน้ำตาล 50-150 กรัมต่อลิตร

ไวน์ขนมหวาน: มีน้ำตาล 100-200 กรัมต่อลิตร

ไวน์หวาน: มีน้ำตาลสูงกว่า 30 กรัมต่อลิตร

 

ไวน์ขาวจากพันธุ์องุ่นกรูเนอร์ เฟลต์ลีเนอร์ (Grüner Veltliner), มุสกาเดต์ (Muscadet) และรีสลิงแบบดราย หรือที่ฉลากระบุไว้ว่า ‘Trocken’ นั้นเป็นไวน์ขาวแคลอรีต่ำจากธรรมชาติ เช่นเดียวกับไวน์แดงอย่าง บาร์เบรา (Barbera), กาเมย์ (Gamay) และปิโนต์ นัวร์แอลกอฮอล์ต่ำ

 

 

Photo: giphy.com

 

แล้วสปาร์กลิงไวน์ล่ะ

สปาร์กลิงไวน์ก็มีแอลกอฮอล์ต่ำได้เหมือนกัน แต่ก่อนจะพูดถึงแคลอรีในไวน์ซ่าแก้วโปรด ควรทำความเข้าใจกันสักนิดก่อนว่าเจ้าสปาร์กลิงไวน์นี้ผลิตอย่างไร

 

อย่างแรกเลย ผู้ผลิตไวน์ก็รังสรรค์เปลี่ยนน้ำองุ่นให้กลายเป็นไวน์ตามปกติ แต่ก่อนจะถึงขั้นตอนปิดฝาขวด มีการเติมน้ำตาลใส่เข้าไป (ในภาษาผลิตไวน์เขาเรียกว่า ‘Dosage’) ดังนั้น ยิ่ง Dosage น้อยเท่าไร ไวน์ก็มีความดรายยิ่งขึ้นเท่านั้น และโดยปกติแล้วความดรายนั้นเรียงได้ตั้งแต่ บรุต (Brut) ที่มีความหวานต่ำสุด ไปจนถึงดราย และหวาน (Sweet)

 

ทั้งนี้การเติมน้ำตาล หรือ Dosage ที่ว่านั้นสามารถดึงเอารสชาติของไวน์ออกมาได้ดียิ่งขึ้น แต่เมื่อมาถึงสปาร์กลิงไวน์ที่แคลอรีต่ำ ขั้นตอนนี้จึงข้ามไปได้เลยเพื่อสร้างไวน์ที่มีแคลอรีต่ำนั่นเอง

 

 

Photo: giphy.com

 

เทรนด์ที่กำลังมา

ทั้งนี้ทั้งทางยุโรปและอเมริกาเองต่างเริ่มเห็นความสำคัญถึงการสร้างความเข้าใจถึงการบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไป ซึ่งทาง IWSR บริษัทวิจัยทางการตลาดด้านการดื่มเผยข้อมูลว่า ทั่วโลกกำลังหันมาสนใจดื่มอย่างรักษาสุขภาพมากขึ้น ซึ่งทางเลือกที่น่าจะดีที่สุดสำหรับนักดื่มทั้งหลายก็คือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำหรือไร้แอลกอฮอล์ นอกจากนั้นยังเผยอีกว่า ผู้บริโภคเช่นเราๆ เริ่มหันมาดื่มแอลกอฮอล์คู่ไปกับน้ำเปล่าหรือโซดากันมากขึ้นแทนน้ำหวาน เช่นเดียวกับการหันมาดื่มสิ่งที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด และเริ่มเบือนหน้าหนีสิ่งสังเคราะห์ต่างๆ ในอาหารเครื่องดื่มที่บริโภคกันมากขึ้น

 

ในฝั่งตะวันตกเริ่มมีไวน์แคลอรีต่ำออกมาให้เห็นเยอะขึ้น บ้างอยู่ในตลาดมาแล้วกว่า 5 ปี อย่างไวน์ของ เบเทนนี แฟรงเคิล (Bethenny Frankel) นักแสดงหญิงในซีรีส์ The Real Housewives of New York City ที่ทำการตลาดอย่างหนักจนคนพูดถึงจากการใช้องุ่นพันธุ์ที่คนอเมริกันคุ้นเคยอย่าง คาเบอร์เน็ต โซวิญง, ชาร์ดอนเนย์ หรือ ปิโนต์ นัวร์ เป็นต้น

 

ส่วนข้ามฟากมาแถวนิวซีแลนด์ ก็มีแบรนด์อย่าง Brancott Estate ที่นำเทรนด์นี้อยู่ในแถบนี้ โดยมีทั้งไวน์แคลอรีต่ำแบบ โซวิญง บลองก์ และ ปิโนต์ กริจิโอ ที่เน้นกระบวนการผลิตให้ไวน์มีแคลอรีต่ำกว่า โซวิญง บลองก์ และ ปิโนต์ กริจิโอเดิมถึง 20% ทำให้ไวน์มีเพียง 88 แคลอรีเมื่อรินใส่แก้ว 5 ออนซ์เท่านั้น โดยมีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 10% ทำให้ดื่มได้เรื่อยๆ ไม่รีบหน้าแดงไปเสียก่อนด้วย

 

ช่วงเทศกาลใกล้เข้ามาแบบนี้ การมีตัวเลือกให้ดื่มเพิ่มขึ้น (ให้ดื่มสลับกับน้ำเปล่า) ถือว่าไม่เลวเลย แต่บ้านเราจะมีกับเขาเมื่อไร ต้องคอยติดตาม

ภาพประกอบ: Pichamon W.

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

FYI
  • หากไม่อยากลุกออกจากบ้านให้วุ่นวาย สามารถช้อปปิ้งไวน์ออนไลน์ได้แล้วที่นี่
  • ผู้บรรลุนิติภาวะควรดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ และไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหากบริโภคแอลกอฮอล์
  • หมายเหตุ: สุราเป็นเหตุก่อมะเร็ง เซ็กซ์เสื่อม ก่อให้พิการและเสียชีวิต เป็นเหตุทะเลาะวิวาทและอาชญากรรม สามารถทำร้ายครอบครัวและทำลายสังคมได้
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X