ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ จะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2.25% ตามที่ได้ส่งสัญญาณไว้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีทิศทางฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่เงินเฟ้อยังมีความเสี่ยงที่จะเร่งสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ กนง. ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy Space) สำหรับอนาคต
รายงานของศูนย์วิจัยฯ ระบุว่า แม้ว่าเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้ลดลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 22 เดือนที่ 0.23%YoY สะท้อนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อ่อนแรงลงอย่างมาก อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อที่ปรับลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจัยฐานที่สูงในปีก่อนหน้า ขณะที่ทิศทางเงินเฟ้อในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ยังคงเผชิญความเสี่ยงที่จะพลิกกลับมาเร่งสูงขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์และการส่งผ่านต้นทุนจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค โดยปัญหาสภาพอากาศที่รุนแรงจากเอลนีโญ และปัญหาความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าได้
นอกจากนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะยังคงเผชิญความเสี่ยงจากปัญหาการเมืองในประเทศ และจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแรงลง แต่เศรษฐกิจไทยก็ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่าจะขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ กนง. มีแนวโน้มที่จะยังเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อในการประชุม กนง. ที่จะถึงนี้ อนึ่ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy Space) สำหรับอนาคต หากมีสถานการณ์ที่ส่งผลให้ กนง. จำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในระยะข้างหน้า
จากปัจจัยข้างต้นทำให้ศูนย์วิจัยฯ คาดว่า กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง. วันที่ 2 สิงหาคมนี้อีก 0.25% โดยอาจเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งสุดท้ายในรอบวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นนี้ และในกรณีที่เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 ตามที่คาดการณ์ไว้ กนง. มีแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25% ไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นปี 2566 นี้
ด้านกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประเมินว่า กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 2.25% ในการประชุมวันที่ 2 สิงหาคมนี้ จากความกังวลชัดเจนเรื่องแนวโน้มเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังอยู่ในระดับสูง และความเสี่ยงด้านขาขึ้นของการเติบโตภายในประเทศ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ แม้ปัจจัยทางการเมืองในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนสูงและยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ธนาคารกรุงไทยคาดการณ์ว่า กนง. จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 2.25% ตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่ยังมีความเสี่ยงสูง รวมถึงความต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy Space) ทั้งนี้ ยังต้องติดตามว่า กนง. จะมีการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินในอนาคตอย่างไรบ้าง โดยหากมีการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังไม่สิ้นสุด ก็มีความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อาจไปจบที่ระดับ 2.50%
ทั้งนี้ ในกรณีที่ กนง. ส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อที่ชัดเจน ธนาคารประเมินว่า มีโอกาสที่เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นบ้าง แต่จะยังไม่กลับมาเป็นเทรนด์แข็งค่าชัดเจน จนกว่าจะเห็นความชัดเจนของการโหวตเลือกนายกฯ และการจัดตั้งรัฐบาลผสม โดยมองกรอบค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ที่ 33.75-34.75 บาทต่อดอลลาร์
