ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เริ่มส่งสัญญาณเลิกใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบแล้ว หลังใช้มานานกว่า 7 ปี ดันเงินเยนแข็งค่าอย่างรวดเร็ว เหตุเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมายต่อเนื่อง 16 เดือนติด ส่วนดัชนี TOPIX Banks Index ปรับตัวขึ้นราว 4.7% นับเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 15 ปี
วันนี้ (11 กันยายน) เงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 146 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นแตะ 0.7% จากระดับ 0.650% ในช่วงสุดสัปดาห์ สู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี หรือตั้งแต่เดือนมกราคม 2014
การตอบรับของตลาดเกิดขึ้นหลังจาก คาซุโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ให้สัมภาษณ์กับ โยมิอุริ ชิมบุน (Yomiuri Shimbun) หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นญี่ปุ่น เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (9 กันยายน) โดยระบุว่า การยกเลิกนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบจะ ‘เป็นทางเลือกหนึ่ง’ หาก BOJ มั่นใจเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นยังคงสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ 2% มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 ทำให้รายงานของสื่อบางฉบับจึงเริ่มเดิมพันว่า BOJ จะยกเลิกนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ อุเอดะยังได้รับรายงาน ซึ่งบอกเป็นนัยว่า มีความเป็นไปได้ที่ BOJ อาจมีข้อมูลเพียงพอภายในสิ้นปีนี้ ยิ่งเป็นการส่งเสริมการคาดเดาที่ว่า BOJ อาจยกเลิกนโยบายดอกเบี้ยติดลบดังกล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ใช้อัตราดอกเบี้ยที่ติดลบ 0.1% มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 หรือใช้มากว่า 7 ปีแล้ว
ส่วนดัชนี TOPIX Banks Index ก็ปรับตัวขึ้นราว 4.7% นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2008 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นโดยปกติแล้วจะช่วยสนับสนุนผลกำไรของสถาบันการเงิน
อ้างอิง: