×

THE INTERVIEW: เปิดมุมมอง 6 สาว BNK48 ยูนิต Next Girls ผ่านซิงเกิลรอง Kurumi to Dialogue

18.04.2024
  • LOADING...
Kurumi to Dialogue

HIGHLIGHTS

  • Kurumi to Dialogue – แล้ว…ต้องทำยังไงล่ะ? คือซิงเกิลรองจากไอดอลกรุ๊ป BNK48 ยูนิต Next Girls โดยได้ แพนด้า ผู้คว้าอันดับที่ 33 จากงาน General Election ครั้งที่ 4 มารับตำแหน่งเซ็นเตอร์ 
  • แพนด้าเล่าว่าเธออยากได้เพลงที่มีสไตล์ดนตรีที่แปลกใหม่ไปจากผลงานก่อนหน้าของ BNK48 ขณะเดียวกันก็ต้องมีเนื้อหาที่เหมาะสมกับสมาชิกคนอื่นๆ ที่อายุน้อยกว่า เธอจึงตัดสินใจเลือก Kurumi to Dialogue มาเป็นเพลงของยูนิต Next Girls ครั้งนี้ 
  • ปาล์มมี่เล่าว่าสมาชิก BNK48 รุ่นใหม่ทุกคนต่างมีความตั้งใจและความสามารถที่หลากหลาย จึงอยากให้ทุกคนลองเปิดใจและเข้ามาทำความรู้จักกับ BNK48 รุ่นใหม่ๆ

เปิดตัวออกมาครบทั้ง 3 เพลงแล้ว สำหรับไอดอลกรุ๊ป BNK48 ที่กลับมาพร้อมซิงเกิลหลักที่ 16 Kiss Me! และสองเพลงรองอย่าง Dare no Koto wo Ichiban Aishiteru? – ที่หนึ่งตรงนั้น เป็นฉันได้ไหม? จากยูนิต Under Girls และ Kurumi to Dialogue – แล้ว…ต้องทำยังไงล่ะ? จากยูนิต Next Girls ที่มาพร้อมกับสไตล์ดนตรีที่โดดเด่นและแตกต่างกันไป เพื่อให้แฟนๆ ได้เห็นแง่มุมที่แปลกใหม่และเติบโตขึ้นในทุกด้านของสมาชิกทุกคน 

.

วันนี้ THE STANDARD POP มีโอกาสเปิดบ้านต้อนรับ 6 สมาชิกจาก BNK48 ยูนิต Next Girls นำโดย แพนด้า-จิดาภา แช่มช้อย (เซ็นเตอร์), มีน-ณัฐธันยา ดุลยพล, มารีน-กชพร พรโชคชัย, ปาล์มมี่-ปุญญิสา แก้วสว่าง, เอ็มมี่-อรณิชชา พรหมสุภา และ แจนรี่-กัลยารัตน์ ปั้นพิพัฒน์ ที่มาร่วมพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงานของเพลง Kurumi to Dialogue และมุมมองของพวกเธอที่มีต่อ BNK48 ในปัจจุบัน รวมถึงข้อความที่อยากส่งมอบให้กับแฟนๆ ที่คอยซัพพอร์ตและส่งให้พวกเธอได้มาเป็นส่วนหนึ่งของเพลงนี้ 

 


บทความที่เกี่ยวข้อง: 


 

 

 

หลังจากจบงาน General Election ได้ไม่นาน แพนด้าเคยเล่าว่ามีสองเพลงที่อยากได้คือ Aishuu no Trumpeter กับ Teacher Teacher ของ AKB48 แต่ในที่สุดแพนด้าก็เลือกเพลง Kurumi to Dialogue มาเป็นเพลงของ Next Girls ที่มาที่ไปในการเลือกเพลงนี้เป็นอย่างไรบ้าง 

 

แพนด้า: ความจริงเพลงที่หนูอยากได้คือ Aishuu no Trumpeter ค่ะ เพราะด้วยความที่ดนตรีค่อนข้างเป็นแนวลีลาศไทย รู้สึกว่าเป็นแนวดนตรีที่แปลกใหม่ของ BNK48 ด้วยดนตรีที่น่าสนใจ แล้วก็ตรงกับ Traditional ไทย แต่ติดตรงที่ว่าความหมายเพลงอาจไม่เหมาะกับอายุไมเนอร์ของน้องๆ เพราะว่าใน Next Girls ก็มีน้องๆ ที่ค่อนข้างจะเด็กมากๆ แต่เราก็ยังอยากได้แนวเพลงที่แปลกใหม่ที่ BNK48 ไม่เคยทำ มีความเซ็กซี่ เพราะปกติจะเป็นแนวนักเรียนสดใส หรือแนวเพื่อความฝัน เราก็เลยต้องหาระหว่างตรงกลาง จนได้เพลง Kurumi to Dialogue เป็นเพลงของรุ่นพี่ AKB48 รุ่นที่ 1 Team A ด้วยค่ะ เพราะรู้สึกว่าชอบดนตรีมากๆ หลักๆ แล้วหนูเลือกจากดนตรีเป็นหลักค่ะ 

 

เพลงนี้แพนด้าได้รับหน้าที่แปลเนื้อเพลงภาษาไทยร่วมกับครูแมน (ตนุภพ โนทยานนท์) ด้วย ที่มาที่ไปเป็นอย่างไรบ้าง

 

แพนด้า: การได้มาร่วมแปลเพลงนี้เพราะด้วยเนื้อหาของเพลงต้นฉบับค่อนข้างที่จะแรง เราเลยจะแบ่งหน้าที่ค่อนข้างชัดเจน โดยครูแมนจะแปลเนื้อหาในภาพรวม  ส่วนหนูจะแปลเฉพาะท่อนที่มีความหมายค่อนข้างจะแรงมากๆ มีความสองแง่สองง่าม ก็ต้องแปลให้มันดูรู้สึกว่าเข้ากับวัฒนธรรมไทย แล้วก็ดูไม่แรงมาก ซึ่งครูแมนเขาค่อนข้างเป็นคนที่แปลเพลงดีมากๆ ค่ะ เป็นแนวบทกวี มีความโรแมนติก เขาจะมีคำที่สวย ส่วนหนูจะแปลเนื้อหาให้ออกมาเข้าใจง่ายมากขึ้น 

 

ส่วนเนื้อหาของเพลง Kurumi to Dialogue พูดถึงสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น สิ่งที่คนเราคิดอาจไม่ได้มีเฉพาะมุมเดียว มันอาจเป็นได้มากกว่านั้น เหมือนเหรียญหรือแอปเปิ้ลที่มีหลายด้าน ที่หมุนไปมันอาจจะมีมุมมองหรือสีที่แตกต่างกันไป เช่นเดียวกับคนเราที่ไม่สามารถดูแค่มุมเดียว ภายนอกน้องๆ ทุกคนเป็นคนสวย แต่ว่าข้างในนั้นพวกเราก็อาจเป็นเด็กสาวที่ขี้เล่น หรือว่าเป็นเด็กสาวที่เก่งทางวิชาการก็ได้ เพราะคนเราต่างมีแง่มุมที่ไม่เหมือนกัน 

 

 

หลังจากได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกรู้สึกอย่างไรกันบ้าง 

 

มีน: ตอนได้ฟังครั้งแรกรู้สึกว่าเพลงนี้มีความแปลกใหม่มากๆ คิดว่าเป็นเพลงที่ BNK48 ไม่เคยทำแนวนี้มาก่อน รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำเพลงนี้มากๆ แล้วพวกเราก็ตั้งใจกันมากๆ ค่ะ 

 

เอ็มมี่: ตอนแรกที่ฟังหนูคิดเหมือนพี่ด้าเลยว่าดนตรีดีมากจริงๆ เป็นแนวดนตรีที่ BNK48 ไม่เคยมีมาก่อน และเพลงนี้ก็ต่างจากเพลง วันใหม่ มากๆ ตอนนั้นยังเป็นเด็กเล็กอยู่เลย แต่ว่าพอได้มาเป็นส่วนหนึ่งของเพลงนี้ก็รู้สึกว่าเราได้ทำอะไรใหม่ขึ้น เราได้มีอินเนอร์ที่ใหม่ขึ้น ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ มากขึ้นค่ะ 

 

มารีน: ตอนแรกที่ได้ฟังก็รู้สึกว่าเป็นเพลงที่ลึกลับ น่าค้นหา มีความขี้สงสัยนิดหนึ่ง ในเพลงก็จะมีคำถามว่า ‘แล้ว ต้องทำยังไงล่ะ’ ชวนให้เราอยากเห็น เราจะเจออะไรข้างใน รู้สึกว่าเป็นเพลงที่น่าสนใจและแปลกใหม่มากๆ ค่ะ

 

นอกจากตัวเพลงที่มีความแปลกใหม่แล้ว การทำงานในมิวสิกวิดีโอครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง 

 

ปาล์มมี่: หนูรู้สึกว่าทั้งเนื้อเพลง ดนตรี แล้วก็มิวสิกวิดีโอมีความเป็นศิลปะ เน้นไปที่การตีความ ทั้งเนื้อเพลงตั้งแต่สัญญะของคำว่าวอลนัทที่เปิดพื้นที่ให้แต่ละคนได้ตีความ ส่วนในเรื่องของมิวสิกวิดีโอเราก็เน้นความเป็นวิชวล ความเป็นศิลปะ มีการเน้นไปที่สัญลักษณ์ของลูกวอลนัท มีการใช้เปรียบเทียบอดัมกับอีฟค่ะ ส่วนภาพก็จะเน้นไปที่เมมเบอร์ในลุคที่คนอาจยังไม่เคยเห็น หนูว่าเป็นมิวสิกวิดีโอที่โฟกัสที่ศิลปะแล้วก็การตีความในเรื่องของสัญญะค่ะ 

 

แจนรี่: สำหรับหนูเป็นการเข้าร่วมงาน General Election ครั้งแรกค่ะ ตอนแรกก็ไม่มีภาพในหัวเลยว่าจะเป็นเพลงแบบไหน แล้วลุคที่ออกมาจะเป็นอย่างไร แต่พอเป็นเพลงนี้จริงๆ ก็รู้สึกว่าเป็นอินเนอร์ที่แฟนคลับไม่ได้มีโอกาสได้เห็นบ่อยๆ เพราะว่าส่วนมากก็จะเป็นเพลงสดใส เพลงนี้มาในลุคเซ็กซี่ แล้วอินเนอร์ก็จะเป็นฟีลที่ดูลึกลับ ต้องไม่ยิ้มเท่าไร เก๊กๆ ไว้ ก็รู้สึกตื่นเต้นค่ะ เพราะไม่คิดว่าจะมีโอกาสให้คนได้เห็นลุคแบบนี้เท่าไร 

 

 

เมื่อสักครู่แพนด้าเล่าถึงเนื้อหาของเพลงคร่าวๆ แล้วว่า ‘สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น’ ถ้าลองเปรียบเทียบกัน มีเรื่องอะไรบ้างที่แต่ละคนมักจะถูกเข้าใจผิดบ่อยๆ หรือถูกตัดสินว่าเราเป็นแบบไหน อาจเพราะภาพลักษณ์ภายนอกหรือการรู้จักเราเพียงผิวเผิน แต่จริงๆ แล้วตัวตนของเราไม่ใช่แบบนั้น 

 

มีน: ของหนูจะเป็นบ่อยมากที่หลายๆ คนจะคิดว่าหนูเป็นคนเฟรนด์ลี คือหนูก็เฟรนด์ลีนะ แต่ว่าจริงๆ หนูเป็นคนเงียบๆ ค่ะ พูดไม่ค่อยเก่ง ชอบอยู่คนเดียวมากกว่า แต่คนภายนอกอาจมองว่าหนูเป็นคนที่สดใสร่าเริง แฮปปี้ เอเนอร์จี้เต็มร้อย แต่จริงๆ หนูเป็นคนเอเนอร์จี้น้อยมาก แต่หนูก็โอเคนะคะ รู้สึกดีที่หลายคนมองว่าหนูเป็นคนน่ารักค่ะ

 

แจนรี่: หนูจะคล้ายๆ กันแต่ว่าตรงข้ามกันนิดหน่อยค่ะ หนูเป็น Extrovert แต่เวลาเจอคนที่เป็น Extrovert มากกว่า หนูจะรู้สึกว่าอยากเป็นผู้ฟังมากกว่า อยากตั้งใจฟังว่าเขาพูดเรื่องอะไร จนบางทีเขาเข้าใจว่าหนูเป็น Introvert ไปเลย แต่จริงๆ หนูเป็นคน Extrovert มากๆ แต่พอเวลาเจอคนที่เป็น Extrovert มากกว่า หนูมักจะค่อยๆ ลดลงมาเป็น Introvert เล็กน้อยอะไรอย่างนี้ค่ะ

 

มารีน: สำหรับมารีนถ้าเกิดคนที่เพิ่งรู้จักกันครั้งแรก ส่วนใหญ่มักจะมองว่าหนูเป็นคนเรียบร้อย ด้วยความที่เราอาจยังไม่สนิทกันมาก แต่พอเริ่มรู้จักกันมากขึ้นทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เราเป็นคนติ๊งต๊องนะ (หัวเราะ) ซึ่งหนูก็รู้สึกว่าใช่ค่ะ หนูเป็นคนแปลกพอสมควร  

 

เอ็มมี่: ของหนูจะเคยถูกเพื่อนบอกว่าหนูเป็นคนหยิ่ง ทั้งๆ ที่เรารู้จักกันมานานแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วหนูเป็นคนที่เฟรนด์ลีมาก หนูเป็นคนที่เปิดรับกับทุกคนมากๆ สามารถพูดคุยได้หมด แต่หนูกลับโดนมองว่าเป็นคนหยิ่ง ซึ่งหนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม แต่หนูก็รู้ตัวว่าหนูไม่ได้เป็นคนแบบนั้น หนูเลยไม่ได้อะไรมากค่ะ เพราะเรารู้ตัวเองดีว่าเราเป็นคนอย่างไร

 

เราใช้คำว่าเป็นการ ‘ปล่อยวาง’ ได้ไหมนะ

 

เอ็มมี่: ได้ค่ะ  

 

แพนด้า: หนูว่าใช้คำว่าปล่อยวางได้นะคะ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ามนุษย์เราธรรมดามีรักก็ย่อมมีเกลียด เราก็ต้องเข้าใจว่าถ้าสมมติเขาอาจยังไม่ได้รู้จักเราดีพอ เราแค่ต้องรอเวลาว่าเขาจะเห็นเราที่เป็นเราจริงๆ ในสักวันหนึ่ง 

 

ปาล์มมี่: สำหรับหนูพอได้มาทำงานตรงนี้ หนูก็อยากให้บรรยากาศมีแต่เสียงหัวเราะ อยากให้มีแต่เอเนอร์จี้เยอะๆ หนูอยากจะทำหน้าที่ของหนูให้เต็มที่ พูดเก่ง คุยเก่ง เอ็นเตอร์เทนเก่ง บางคนเลยอาจคิดว่าหนูเป็นคนเอเนอร์จี้เยอะหรือเปล่า แต่จริงๆ แล้วหนูเป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียว เป็นคนที่คิดเยอะมากๆ ด้วยความที่หนูเป็นเพอร์เฟกชันนิสต์ด้วย หนูเลยพยายามทำให้ทุกอย่างมันโอเค ทำให้ภายในหนูเป็นคนที่คิดเยอะพอสมควร 

 

แพนด้า: สำหรับหนูถ้าเป็นน้องๆ BNK48 ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าพี่เป็นคนเงียบ แต่ถ้าดูจากภายนอก ดูผ่านฟีดบนอินสตาแกรม คนส่วนใหญ่ก็จะคิดว่าหนูเป็นคนเซ็กซี่ หนูเป็นคนแรง เป็นคนดุ ซึ่งหนูเป็นคนดุจริงค่ะ แต่หนูจะเป็นคนดุในบางเรื่อง อย่างเช่น บางคนก็อาจบอกว่าทำไมเราถึงไม่ค่อยมองกล้อง ไม่เล่นกล้องเลย ซึ่งเราขอบคุณมากๆ ที่รักและเอ็นดูพวกเรา แต่ว่าบางครั้งเวลาที่เราเดินผ่านห้างหรือสถานที่ต่างๆ เราก็ต้องเคารพและให้เกียรติสถานที่ด้วย บางครั้งเราเลยอาจเล่นเยอะไม่ได้  

 

หรืออย่างเหตุการณ์ล่าสุด ตอนที่น้องๆ ทุกคนต้องยื่นบัตรประชาชน ซึ่งบัตรประชาชนเป็นสิ่งที่เป็นความลับ แต่แฟนคลับบางคนก็ยังถ่ายรูปน้องๆ อยู่ ซึ่งหนูก็ได้แจ้งแล้วว่ารบกวนอย่าเพิ่งถ่ายตอนที่น้องยื่นบัตรประชาชนได้ไหม แต่ก็ยังมีคนถ่ายกันอยู่ แล้วบางครั้งเราก็ไม่ได้เห็นว่าสิ่งที่มันหลุดออกไปเป็นอย่างไรบ้าง สำหรับหนูความรักที่ทุกคนมอบให้เราเป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ แต่หนูก็อยากจะฝากในมุมเล็กๆ ของหนูว่าอยากให้ทุกคนให้ความเป็นส่วนตัวน้องด้วย

 

สำหรับหนูแล้วหนูไม่ใช่คนหยิ่ง แต่เป็นคนทำตามขอบเขต อยากจะอยู่ตรงกลางระหว่างสองอย่าง เพราะตัวเราเองก็รักแฟนคลับและรู้ว่าแฟนคลับก็รักเรา ก็เลยอยากจะให้มีพื้นที่ที่พอดี ซึ่งส่วนตัวหนูรู้อยู่แล้วว่าแฟนคลับหนูน่ารักนะ แต่หนูพูดถึงโดยรวมเฉยๆ

 

 

 

มีใครที่เราเจอกันครั้งแรกแล้วคิดว่าเขาน่าจะเป็นแบบนี้แน่ๆ แต่พอได้รู้จักกันมากขึ้นแล้วเป็นอีกแบบหนึ่งบ้างไหม 

 

ปาล์มมี่: หนูเคยมีโอกาสไปงานกับพี่ด้าค่ะ ตอนแรกหนูคิดว่าพี่ด้าเขาเป็นคนสวย ไม่อะไรกับใครใช่ไหมคะ แต่จริงๆ แล้วในห้องแต่งตัว พี่ด้าจะเป็นคนนั่งอ๊อง ฟังคนอื่นพูดไม่ทัน ตามไม่ทันว่าคนคุยเรื่องอะไรกัน แล้วก็ ฮะ คุยเรื่องนี้แล้วเหรออะไรอย่างนี้ พี่ด้าเป็นอีกคนที่น่ารักมากๆ 

 

แจนรี่: ของหนูในช่วงออดิชันเราจะมีการเวิร์กช็อป มีจับกลุ่มเต้นกันแบบสุ่มใช่ไหมคะ แล้วทีนี้หนูได้อยู่กับพี่มารีนค่ะ ตอนที่หนูคุยกับพี่มารีนครั้งแรก เขาดูเรียบร้อยมากๆ พอหนูคุยกับเขา เขาก็จะตอบค่ะทุกคำ แบบ ได้ค่ะๆ อ่อโอเคค่ะ เอาแบบนี้ไหมคะ โอเคค่ะๆ หนูเลยรู้สึกว่าคนนี้น่ารักมาก คุยแล้วพูดค่ะด้วยตลอดเลย น่าจะเป็นคนเรียบร้อยน่ารัก แต่พอมารู้จักจริงๆ คือรั่วมาก (หัวเราะ)

 

มารีน: (หัวเราะ) ไม่ พอมารู้จักกับเธอนั่นแหละก็เลยรั่ว จริงๆ หนูเป็นคนพูดมีหางเสียงกับคนอื่นตลอดค่ะ จะเป็นคนที่เรียบร้อยในตอนแรก 

 

เอ็มมี่: ของหนูเป็น แพท (แพท-ภัทรา ธีระวาส) BNK48 รุ่นที่ 4 ค่ะ ครั้งแรกที่ได้เมมเบอร์รุ่น 4 แล้ว แพทเป็นคนที่หนูคิดว่าอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว หนูเลยมักจะทักว่าพี่แพทๆ ตลอด จนมาเจอกันจริงๆ ถึงรู้ว่าแพทเป็นรุ่นน้องหนู หนูแบบช็อกมาก คนคนนี้ดูสวย ดูโตมากๆ แบบนี้สินะเปลือกวอลนัท 

 

มีน: ของหนูเป็นพีค (พีค-ภูษิตา วัฒนากรแก้ว) ค่ะ ตอนออดิชันที่ประกาศเรียกชื่อ หนูก็ได้ยืนข้างพีค ตอนนั้นหนูนึกว่าเขาเป็นคนที่ออกแมนๆ หรือว่านิ่งๆ เพราะว่าลุคเขามีความเฟียร์ซ ก็นึกว่าเขาเป็นคนนิ่งๆ แต่พอได้มาสนิทกันจริงๆ พีคเป็นคนที่เอเนอร์จี้เยอะมากๆ ขำกับทุกๆ เรื่องจริงๆ แค่หนูพูดเขาก็ขำแล้ว แต่พอได้อยู่กับเขาแล้วก็แฮปปี้ดีค่ะ ไม่ได้หยิ่งหรือว่ามาดแมนอย่างที่คิด   

 

แพนด้า: ส่วนใหญ่หนูเป็นคนที่เห็นแวบแรกหนูจะไม่ชอบคิดไปก่อนเพราะเรายังไม่รู้จักเขา เราเลยไม่ค่อยชอบตัดสินเขาตั้งแต่ทีแรกที่เจอ จะชอบพูดคุยก่อนมากกว่า แต่ว่าพออยู่ยาวๆ เราก็เริ่มจะสังเกตมากขึ้น อย่างเช่นเห็นปาล์มมี่ก็คือเป็นเด็กที่สวยมากๆ ตอนแรกรู้สึกว่าจะดุไหม แต่จริงๆ เป็นเด็กที่น่ารัก เป็นเด็กที่เป็นห่วงคนอื่นๆ คอยถามตลอด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ หนูเป็นคนที่ใส่ใจดีมากๆ

 

ปาล์มมี่: จริงๆ พี่ด้าก็เป็นคนที่ใส่ใจมากๆ เวลาไปงานกับพี่ด้าเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดมากค่ะ ดูความเรียบร้อย รายละเอียดเล็กๆ ก็ถามตลอด

 

มารีน: พี่ด้าใจดีด้วย มีครั้งหนึ่งที่ได้ทำงานกับพี่ด้าค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นพี่ด้าเลี้ยงกุยช่ายหนูด้วย อร่อยมากๆ 

 

แพนด้า: หนูเลยไม่ค่อยตัดสินใครจากครั้งแรกที่เจอกัน เพราะว่าเราต้องคุยกันก่อน เพราะหนูยังไม่รู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่ มันต้องเริ่มจากการเปิดใจคุยก่อน

 

 

ก่อนหน้านี้ BNK48 มีการเปิดจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ต BNK48 2nd Generation Last Season Concert หรือคอนเสิร์ตส่งท้ายของรุ่นที่ 2 ซึ่งบัตร Sold Out ในเวลาอันรวดเร็ว สำหรับแพนด้าที่เป็นหนึ่งในรุ่นที่ 2 รู้สึกอย่างไรบ้างกับผลตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ในครั้งนี้ 

 

แพนด้า: จริงๆ หนูรู้สึกภูมิใจในความรักของทุกคนมากกว่า เพราะไม่ว่าทุกคนอาจจะติดตามเฉพาะรุ่นที่ 1 รุ่น 2 รุ่น 3 รุ่น 4 แยกกันไป แต่พวกเขาก็ยังรักในความเป็น 48 Group เลยรู้สึกดีใจที่ทุกคนซื้อบัตรคอนเสิร์ตของพวกเราหมด บอกได้คำเดียวว่าทุกคนจะไม่เสียใจแน่ๆ เพราะว่ามันคุ้มจริงๆ หนู Rearrange เพลงแม้กระทั่งเพลง อังกอร์ ทุกส่วนของคอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยฟังแน่ๆ หนูรับประกันเลย

 

อยากให้ทุกคนปล่อยใจแล้วก็ซึมซับกับทุกวินาทีตรงนั้น เพราะว่ามันอาจเป็นช่วงสุดท้ายแล้ว ก่อนที่ทุกคนจะจบจากคอนเสิร์ตไปแล้วก็ไม่รู้ว่าทุกคนจะเติบโตไปในทางไหน แต่ก็อยากให้รู้ว่านี่คือ BNK48 รุ่น 2 แล้วถ้าเมมเบอร์บอกให้เปิดแฟลชไลท์ หรือฝากปรบมือก็อยากฝากแฟนคลับมาเอ็นเตอร์เทนเมมเบอร์ไปด้วยกัน เพราะถือว่าเป็นโมเมนต์หนึ่งที่เรามี Interact ด้วยกัน มาสนุกกับคอนเสิร์ตไปด้วยกันนะคะ  

 

 

 

ก่อนหน้านี้เรามีโอกาสพูดคุยกับรุ่นที่ 2 เกี่ยวกับมุมมองของ BNK48 New Era ซึ่งทุกคนมั่นใจมากๆ ว่าเมมเบอร์รุ่นใหม่ๆ พร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของวงต่อไป สำหรับแต่ละคนรู้สึกอย่างไรบ้างกับ BNK48 New Era ในปัจจุบัน 

  

ปาล์มมี่: ส่วนตัวหนูมองว่าพวกเรามีความสามารถแล้วก็มีความตั้งใจกันมากๆ อยู่แล้วค่ะ เราเลยอยากให้ทุกคนลองเปิดใจกับ BNK48 เพราะทุกคนมีหลายแนวมากๆ และมีความสามารถที่ทำได้หลายอย่างมากๆ อย่าตัดสินเราจากชื่อวงว่าเป็น BNK48 แต่อยากให้ลองเข้ามาสัมผัสดูว่าเมมเบอร์แต่ละคนเป็นอย่างไร อย่างตัวหนูเอง บางทีที่หนูอยู่ในห้องซ้อมหรือบนเวที พอหนูมองเพื่อนข้างๆ หนูรู้สึกว่าพวกเขาเก่งกันจังเลย มีความสามารถมากๆ หนูอยากให้ทุกคนได้เห็นสิ่งนี้เหมือนกับที่หนูเห็น อีกอย่างคือหนูมองว่านี่คือวงที่คนสวยยืนอยู่ข้างคนสวยค่ะ มันถูกต้อง เลยอยากให้ทุกคนลองเปิดใจกับ BNK48 ค่ะ 

 

มารีน: สำหรับหนูเองเมมเบอร์ในวงแต่ละคนก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกัน เยอะมากๆ ค่ะ บางคนตีกลองได้ เล่นกีตาร์ได้ ร้องเพลงได้ ซึ่งรู้สึกว่าในอนาคตเมมเบอร์ก็จะได้โชว์ศักยภาพมากขึ้น จะมีคอนเทนต์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย รู้สึกว่าน่าจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แล้วก็หลากหลายมากขึ้นค่ะ 

 

แจนรี่: ส่วนตัวหนูไม่ได้กดดันขนาดนั้นค่ะ แต่ว่าเป็นในเชิงตื่นเต้นมากกว่า เพราะก่อนหน้านี้จะมีช่วงหนึ่งที่เราซ้อมกันเพื่อรอขึ้นงาน Road Show อย่างเดียวใช่ไหมคะ แต่ว่าครั้งนี้เรามีเป้าหมายว่าเราจะได้ขึ้นสเตจเทรนนี เลยทำให้รู้สึกว่าไฟมันถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง อย่างล่าสุดที่เพิ่งซ้อมไป พวกเราก็ต่อ 3 เพลงได้ในเวลาที่เร็วมากๆ รู้สึกว่าพวกเรามีแพสชัน แล้วก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างให้เต็มที่ อยากให้ทุกคนรอติดตามสเตจเทรนนีเลยค่ะ 

 

เอ็มมี่: จริงๆ ก็รู้สึกแอบกดดันค่ะ เพราะว่าพอเป็นสเตจเทรนนีออกไปแล้ว เราจะสามารถรู้ได้เลยว่าเพอร์ฟอร์แมนซ์ของรุ่นที่ 4 เป็นอย่างไร อย่างที่ผ่านมารุ่น 4 เองก็เพิ่งได้รับคำชมในด้านของเพอร์ฟอร์แมนซ์ด้วย เลยทำให้รู้สึกว่ารุ่นของเราโตขึ้น มีพัฒนาการที่ดีขึ้น สเตจเทรนนีครั้งนี้ก็อยากให้รุ่น 4 ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเราโตขึ้นแล้วจริงๆ พวกเราพัฒนาแล้ว จากที่ทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์ จากเต้นไม่เป็น อย่างหนูก็เต้นไม่เป็นเลยตั้งแต่แรกค่ะ อยากให้ทุกคนภูมิใจในตัวพวกเราผ่านทางสเตจเทรนนีรุ่น 4 ค่ะ  

 

 

สำหรับมีนและรุ่นที่ 3 ที่ ณ เวลานี้ได้ก้าวขึ้นมาเป็นพี่ใหญ่ของวงแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง 

 

มีน: สำหรับหนูก็แอบกดดันค่ะ เพราะว่าก่อนหน้านี้เรายังมีรุ่นพี่ที่คอยนำทางเราอยู่ว่าเราควรที่จะไปทางไหน แต่คราวนี้เราต้องมาคอยกำหนดทิศทางเองแล้วว่าเราจะต้องไปต่อในทางไหนดี แต่เราก็มั่นใจในความสามารถของรุ่น 3 ทุกคนอยู่แล้วว่าทุกคนสามารถทำออกมาได้ดีแน่นอน รวมถึงพี่ฮูพ (ฮูพ-ปาฏลี ประเสริฐธีระชัย) ที่ตอนนี้ก็ได้ขึ้นมาเป็นกัปตันวงคนใหม่แล้ว หนูเองก็มั่นใจในตัวพี่ฮูพมากๆ เชื่อว่าพี่ฮูพทำได้แน่นอนค่ะ ไม่กังวลเลย  

 

 

เนื่องจาก Kurumi to Dialogue เป็นเพลงที่มาจากงาน General Election แต่ละคนมีเรื่องอะไรที่อยากจะบอกกับแฟนคลับที่คอยซัพพอร์ต และพาเรามาถึงตำแหน่ง Next Girls ครั้งนี้บ้าง 

 

แจนรี่: สำหรับหนูก็ขอบคุณแฟนคลับทุกคนมากๆ ค่ะ เป็นอะไรที่ค่อนข้างเหนือความคาดหมายมากๆ รู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้มาอยู่ตรงนี้ก็แฮปปี้แล้ว มันตื้นตันมากๆ ในจุดจุดนั้น ในส่วนของเพลงที่ออกมาก็เป็นอีกเวย์หนึ่งที่เราเองก็อยากลองดูในเวย์นี้เหมือนกัน เป็นอะไรที่ใหม่และน่าตื่นเต้นมากๆ สำหรับเรา เพราะรู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ได้ดูเป็นลุคนี้สักเท่าไร เป็นอะไรที่ไม่ได้เห็นบ่อยๆ ด้วย รู้สึกขอบคุณแล้วก็ดีใจมากๆ ค่ะ 

 

ปาล์มมี่: ก่อนอื่นเลยตอนที่ได้ยินชื่อตัวเองในงาน General Election คือโล่งมาก เพราะว่าเป็นคนไทยคนแรกที่ถูกประกาศชื่อ หนูได้อันดับที่ 48 ก็ขอบคุณมากๆ ค่ะ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ติดด้วยซ้ำ เพราะตอนผลด่วนชื่อของเราก็หลุดออกไปนิดหนึ่ง แต่ว่าแฟนคลับทุกคนสู้มากๆ เก่งมากๆ 

 

หนูอยากขอบคุณแฟนคลับอย่างหนึ่งคือเวลาที่หนูมีเรื่องไม่สบายใจ แฟนคลับก็จะดูออกแล้วก็จะพิมพ์ให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา เหมือนเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้หนู เวลาหนูเข้าไปอ่านก็รู้สึกซึ้งมาก คือเวลาที่ประกาศเซ็มบัตสึแล้วไม่ติด มันไม่ได้ร้องไห้เพราะว่าเสียใจ แต่ร้องไห้ตอนที่เราเข้าไปอ่านข้อความที่เขาให้กำลังใจเรา รู้สึกขอบคุณมากๆ ที่อยู่ข้างๆ หนูมาโดยตลอด สำหรับอันดับนี้ก็อยากให้เป็นอันดับของทุกคนเหมือนกัน ทุกคนเก่งมากๆ รู้เลยว่าต้องประหยัดขนาดไหน บางคนอาจต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วยซ้ำ เก่งมากๆ ที่สู้มาด้วยกัน แล้วก็อยากจะให้อยู่ด้วยกันตลอดไปค่ะ แล้วหนูก็จะตั้งใจทำทุกหน้าที่ทุกโอกาสที่ได้มาให้เต็มที่ค่ะ 

 

มารีน: ต้องขอบคุณทุกคนมากๆ เช่นกันค่ะ เหมือนเป็นความฝันของหนูอยู่แล้วว่าเข้ามาในนี้หนูอยากมีแฟนคลับห้อมล้อม คอยส่งกำลังใจให้ในวันที่เหนื่อยหรือท้อหนูก็จะหันไปเจอพวกเขาเสมอ ซึ่งตอนนี้ก็มีทุกคนอยู่ รู้สึกดีใจมากกับอันดับที่ 35 ค่ะ มันเป็นสิ่งที่ทุกคนส่งให้หนูมาอยู่ตรงนี้ หนูรู้สึกขอบคุณแล้วก็ดีใจที่ทุกคนเต็มที่กับหนู คอยให้กำลังใจตลอด เวลาที่หนูเหนื่อยแล้วหันไปหาพวกเขาก็จะให้กำลังใจอยู่เสมอ หรือมีเรื่องอะไรหนูก็คุยกับพวกเขาแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้นค่ะ อยากทำตรงนี้ให้ดีที่สุด อยากทำสิ่งที่ทุกคนให้มาให้ดีที่สุดค่ะ ให้สมกับการที่ทุกคนให้ความรักมาค่ะ

 

แพนด้า: ทุกอย่างมีแต่คำว่าขอบคุณค่ะ เพราะขอบคุณเท่าไรก็ไม่พอ หนูเป็นใครสักคนก็ไม่รู้ที่ทุกคนให้ความรัก ขอบคุณที่เอ็นดูหนูที่หนูเป็นลูกใครก็ไม่รู้แต่ทุกคนก็มารักหนู ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ดีใจมากๆ ที่มีคนรักแล้วก็เอ็นดูหนู หนูคงไม่ได้รับความรู้สึกแบบนี้อีกแล้ว ถ้าหนูไม่ได้มาอยู่ BNK48 หลังจากนี้ก็ฝากติดตามแพนด้าที่เติบโตในเส้นทางต่อไปด้วยค่ะ 

 

 

เอ็มมี่: ก่อนอื่นต้องขอบคุณมากๆ ค่ะ จริงๆ หนูมองแฟนคลับเป็นเหมือนคุณพ่อคุณแม่คนที่เท่าไรก็ตามที่อยากส่งให้หนูได้รับโอกาส อยากส่งให้หนูได้มีเพลงเป็นของตัวเอง ได้มีโอกาสออกมาโปรโมต ได้มีโอกาสทำมิวสิกวิดีโอ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งต้องขอบคุณพวกเขามากๆ ที่ทำให้หนูได้รับโอกาสในการทำงานมากขึ้น แล้วก็ได้ไปออกงานมากขึ้น รู้สึกดีใจมากๆ ที่ทุกคนทุ่มเทเพื่อหนูขนาดนี้ เหมือนเป็นความรักที่ทุกคนไม่ต้องการอะไรตอบแทน แค่อยากเห็นหนูได้เติบโตขึ้นเฉยๆ หนูขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ สำหรับอันดับนี้ก็จะทำให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าอยากตอบแทนความรักที่ทุกคนให้มา 

 

มีน: ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ยังคอยสนับสนุนกันมาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ถึงแม้หนูจะไม่ค่อยได้อัปเดตโซเชียลหรือว่าไม่ค่อยแอ็กทีฟเท่าไร แต่ก็ยังมีทุกคนที่คอยบอกหนูเสมอว่ายังอยู่ตรงนี้เหมือนเดิมนะ ไม่ได้หายไปไหนเลย ยังเป็นกำลังใจให้เหมือนเดิม รู้สึกขอบคุณแล้วก็ซึ้งใจมากๆ ที่ยังอยู่กับหนูจนถึงทุกวันนี้ ช่วงไหนที่หนูหมดไฟพวกเขาก็จะบอกว่าไม่เป็นไร ยังอยู่ที่เดิมไม่ต้องห่วงนะ ไปดูแลตัวเองให้ดีแล้วค่อยกลับมาก็ได้ เขายังรออยู่ตรงนี้เสมอ ต้องขอบคุณจากใจจริงเลยค่ะ 

 

 

สมมติว่าตอนนี้มีตัวเราอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆ มีเรื่องอะไรที่เราอยากจะบอกกับตัวเราเองที่ข้ามผ่านเรื่องราวต่างๆ มาได้จนถึงวันนี้

 

มารีน: อยากบอกตัวเองว่าสู้ๆ นะ รู้ว่าเครียดกับเรื่องการเรียน การทำงานทุกอย่าง อยากบอกว่าให้รักตัวเองเยอะๆ ให้หันกลับมามองคนอื่นด้วยว่าเขายังคอยให้กำลังใจเราอยู่ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว อยากบอกว่าช่วงนี้ใช้ชีวิตคนเดียวเก่งมาก โตขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย ถึงแม้ตัวเองจะไม่ได้เก่งเรื่องการร้องการเต้น แต่เห็นตลอดว่าตัวเองฝึกซ้อมและพัฒนาขึ้น ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เก่งที่สุด หรือว่าเก่งตามเป้าหมายที่เราคิด แต่รู้สึกดีใจที่ตัวเองพยายาม ดีใจที่ตัวเองสู้ ไม่อยากให้ตัวเองเศร้าเยอะ ไม่ต้องอยู่ตัวคนเดียวนะ ถ้าเกิดว่าว่างก็อยากไลฟ์คุยกับแฟนคลับ รู้สึกว่าแฟนคลับ ครอบครัว แล้วก็เพื่อนๆ เป็นเซฟโซนที่ดีมากๆ เลย ขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ 

 

มีน: อยากจะปลอบใจตัวเองในตอนนี้ที่มีหลายเรื่องที่ทำให้ต้องลำบากใจหรือว่าคิดมาก อยากบอกว่าไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป อยากจะบอกตัวเองว่าให้รักตัวเองให้มากๆ แล้วก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ นอนให้เยอะๆ ให้กินของอร่อยๆ ตามที่ตัวเองชอบ ได้ออกไปทำอะไรใหม่ๆ ที่อยากจะทำ อยากขอบคุณตัวเองมากๆ ที่พาตัวเองเข้ามาอยู่ในจุดนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่เราคิดผิดเลย ไม่เคยเสียดายเลยที่ได้เข้ามาอยู่ตรงนี้ รู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้เจอเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เมมเบอร์ที่น่ารักมากๆ อยากให้ตัวเองเก็บโมเมนต์นี้ไว้ในความทรงจำตลอดไป ถึงแม้จะแก่มากๆ ก็ไม่อยากให้ตัวเองในอนาคตลืมโมเมนต์นี้เลย เพราะว่ามันดีมากๆ จริงๆ ขอบคุณมากๆ ที่พยายาม ที่คอยฮึดสู้ถึงแม้ว่ามันจะเหนื่อยมากๆ อยากขอโทษตัวเองด้วยที่บางครั้งอาจไม่รักตัวเอง หรือว่าไม่ได้แคร์ความรู้สึกตัวเองมากขนาดนั้น ก็อยากให้ตัวเองในอนาคตเป็นคนที่มีความสุข แล้วก็ได้นอนให้เต็มอิ่มก็พอแล้ว 

 

ปาล์มมี่: อยากบอกตัวเองว่าไม่อยากให้คิดเยอะเกินไป เรื่องไหนที่มันผิดพลาดก็ปล่อยไปบ้าง อย่าคิดมาก อย่าสนใจคนรอบข้างจนไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง อยากให้เอ็นจอยกับชีวิตมากกว่านี้ อย่าคิดว่าทุกอย่างมันต้องออกมาดีเสมอไป ด้วยความที่หนูเป็นคนที่ชอบคิดเยอะใช่ไหมคะ แล้วในหัวมันชอบตีกันไปหมดว่าเราต้องทำมันออกมาให้ดีนะ แต่อีกอย่างในหัวก็บอกว่ามันจะดีเสมอไปไม่ได้ คนเรามันต้องผิดพลาดกันบ้าง แต่หนูเหมือนเป็นคนที่กลัวการถูกตัดสินด้วย หนูก็เลยจะคิดเยอะจนมันตีกันมากๆ ก็อยากให้ปล่อยวางบ้าง ใช้ชีวิตแบบเด็กวัยรุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่งก็ได้ อย่าเครียดมาก ทำเท่าที่เราทำได้ อยากให้มีความสุขในทุกวัน แล้วก็ขอบคุณที่เป็นพี่โตนะ เก่งมากๆ แล้วนะ ทำทุกอย่างทั้งเรียนและทำงาน แล้วก็อย่าเครียดเยอะ มันจะไม่มีความสุขเอา

 

แจนรี่: รู้สึกขอบคุณตัวเองที่พาตัวเองเข้ามาอยู่ตรงนี้ค่ะ มันเป็นจุดเปลี่ยนอย่างหนึ่งของชีวิตหนูเลย จากที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด ทุกวันก็คิดแต่เรื่องเรียนอย่างเดียว จนมาอยู่ที่นี่ก็ได้รู้ถึงความฝันของตัวเอง จากเมื่อก่อนที่คิดว่ามันเป็นแค่ความคิดเล็กๆ ในหัว แต่ว่าตอนนี้มันไปได้ไกลมากกว่าแค่ความคิดเล็กๆ เหล่านั้นแล้ว รู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่มาอยู่ตรงนี้ แล้วก็รู้สึกมีความสุขที่ได้เอ็นจอยกับสิ่งที่ทำ มีแพสชัน มีแรงที่จะผลักดันตัวเอง แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน หนูดีใจที่ได้เจอกับแฟนคลับที่ดีค่ะ ซึ่งแฟนคลับของหนูจะบอกว่าเป็นกลุ่มคนที่น่ารักมากๆ ขอบคุณที่เอ็นดูหนูเสมอค่ะ ขอบคุณที่ยินดีกับทุกการเติบโตของหนู หนูรู้สึกซาบซึ้งมากๆ กับการที่ได้พบเจอแฟนคลับของตัวเองในหลายๆ งาน ขอบคุณที่สนับสนุนหนูค่ะ หนูสัญญาว่าจะทำทุกอย่างให้เต็มที่ หนูจะพยายามเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุดให้ได้ค่ะ 

 

เอ็มมี่: ต้องขอโทษตัวเองก่อนที่อาจกดดันตัวเองมากเกินไป หรืออาจคาดหวังมากเกินไป รู้สึกว่าต่อจากนี้ก็จะใจดีกับตัวเองให้มากขึ้น จะใช้ชีวิตให้มีความสุขมากขึ้น ไม่กดดันตัวเอง แล้วก็ขอบคุณที่เติบโตมาอย่างดี ได้พบเจอคนที่ดี แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อยากให้คงความสดใสแบบนี้ต่อไป ไม่อยากให้สูญเสียความเป็นตัวเอง อยากให้เป็นเอ็มมี่เวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง และมีความสุขด้วย   

 

แพนด้า: ถ้าฝากถึงตัวเองในอนาคตก็มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายในชีวิต อะไรที่เสียใจไปแล้วก็เก่งมากๆ แล้วที่ยังเดินต่อได้ ขอบคุณคนรอบข้างที่ยังทำให้หนูรู้สึกว่าหนูยังต้องมีชีวิตอยู่ค่ะ การอยู่ในนี้มันก็อาจมีเรื่องมากมายเกิดขึ้นจากการที่เราถูกตัดสินด้วยเรื่องภายนอก อยากฝากถึงหลายๆ คนว่าอยากให้เห็นใจหรือรักษาน้ำใจเมมเบอร์บ้างในบางครั้ง เพราะว่าเรามีสิทธิเป็นของตัวเราเอง ไม่อยากให้มาตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกต่างๆ ที่พวกเราอาจไม่ได้เป็น เพราะเราก็ไม่อยากให้น้องๆ ทุกคนโดนในสิ่งที่ไม่ดีเหมือนกัน

 

ขอบคุณแพนด้ามากๆ เลยที่ให้โอกาสตัวเองถึงสองรอบในการเข้ามาเป็น BNK48 ขอบคุณแฟนคลับทุกคนนะคะที่ติดตามแพนด้ามาตลอด ขอบคุณที่รักและเอ็นดูหนู รวมถึงคำติคำชมต่างๆ ขอบคุณตัวเองที่เก่งขึ้นจากทั้งคำชมและคำติ ขอบคุณตัวเองที่พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ขอบคุณมากๆ ที่ทำให้แพนด้าโตขึ้นมาเป็นแพนด้าในปัจจุบัน แม้อาจไม่ใช่เวอร์ชันที่ดีที่สุด แต่หนูเชื่อว่าหนูจะทำให้ดีที่สุดในทุกๆ วันในอนาคต แล้วก็จะเป็นคนที่พยายามมีความสุขมากที่สุดเหมือนที่ทุกคนมีความสุขเช่นเดียวกันค่ะ  

 

รับชมมิวสิกวิดีโอ Kurumi to Dialogue – แล้ว…ต้องทำยังไงล่ะ? ได้ที่

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising