×

Blackout บาร์ลับไม่มีในโลก ซีรีส์ ‘แนวตั้ง’ ที่อัด ‘ท่ายาก’ ใส่ผู้ชมแบบไม่ยั้งตั้งแต่อีพี 1

02.02.2021
  • LOADING...
Blackout บาร์ลับไม่มีในโลก ซีรีส์ ‘แนวตั้ง’ ที่อัด ‘ท่ายาก’ ใส่ผู้ชมแบบไม่ยั้งตั้งแต่อีพี 1

ยังคงผลิตผลงานออกมาได้อย่าง ‘แปลกใหม่’ และ ‘น่าสนใจ’ อยู่เสมอสำหรับค่าย นาดาวบางกอก ที่เพิ่งจะปล่อยผลงานซีรีส์ ‘แนวตั้ง’ เรื่องแรกในชื่อ Blackout บาร์ลับไม่มีในโลก ออกมาให้เราชมเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

 

โดย Blackout บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อน 4 คนได่แก่ ฝ้าย (แพรว-นฤภรกมล ฉายแสง), มิว (วี-วิโอเลต วอเทียร์), เอ (กัปตัน-ชลธร คงยิ่งยง) และ บิลลี่ (โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์) ที่เดินทางเที่ยวกัน ณ บาร์ลับแห่งหนึ่งนาม ‘เอเดน’ 

 

แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เมื่อทุกคนตื่นขึ้นจากการหลับใหล และค้นพบว่าตัวเองจดจำเรื่องราวก่อนที่จะหลับไปไม่ได้เลย อีกทั้ง บิลลี่ ยังได้รับบาดเจ็บจากการถูกแทง ทุกคนจึงต้องหาทางออกไปจากบาร์ลับแห่งนี้ พร้อมกับไขปริศนาที่พวกเขากำลังเผชิญ 

 

 

เราขอขยายความให้คนที่ยังไม่เคยชมได้เห็นภาพยิ่งขึ้น ซีรีส์จะแบ่งการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ 4 ตัวละครหลัก โดยในอีพีที่ 1 จะพาเราไปรับชมมุมมองของ ฝ้าย หญิงสาวคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาในห้องเดียวกับ เอ ซึ่งหากดูจากคาแรกเตอร์ที่ถูกนำเสนอผ่าน แพรว-นฤภรกมล ฉายแสง ในอีพีนี้ เธอน่าจะเป็นผู้หญิงที่ดูมีความมั่นใจในตัวเองสูง และมีความก้าวร้าวอยู่พอสมควร 

 

สิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีความน่าสนใจมากๆ คือกลวิธีการนำเสนอของสองผู้กำกับอย่าง ปิง-เกรียงไกร วชิรธรรมพร และ เน็ท-อธิศ กิจศุภไพศาล ที่ตัดสินใจถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน ‘ภาพแนวตั้ง’ และเสริมท่ายากเข้าอีกขั้นด้วยการถ่ายทำแบบ ‘Long Take’ (การถ่ายทำแบบต่อเนื่องโดยไม่มีการตัดต่อ) 

 

“โปรเจกต์ Blackout บาร์ลับไม่มีในโลก เริ่มต้นจากไอเดียในเชิงวิธีการก่อน มันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างไม่เหมือนโปรเจกต์อื่นๆ เพราะปกติหลายๆ เรื่องเราเริ่มต้นด้วยเนื้อเรื่อง แต่เรื่องนี้เราขึ้นต้นด้วยวิธีการว่า เราอยากลองทำซีรีส์แนวตั้ง” ปิง หนึ่งในผู้กำกับและโปรดิวเซอร์บอกเล่าจุดเริ่มต้นของซีรีส์

 

 

ซึ่งดูเหมือนว่าการนำเสนอด้วยรูปแบบนี้ จะสร้างประสบการณ์ชมซีรีส์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้ชมได้ดีทีเดียว เนื่องจากความลึกลับซ้ำซ้อนของเนื้อเรื่อง และรายละเอียดระหว่างทางที่ผู้กำกับแอบซ่อนเอาไว้ การที่มุมมองของผู้ชมถูกบีบให้แคบลง จึงส่งผลให้เราจำเป็นต้องเก็บรายละเอียดภายในฉากมากขึ้นกว่าเดิม 

 

รวมถึงการถ่ายทำแบบ Long Take ที่เกาะติดตัวละครทุกฝีก้าว ก็บังคับให้มุมกล้องไม่สามารถอินเสิร์ต หรือเจาะภาพไปที่วัตถุใดๆ ภายในฉากได้นอกจากตัวละครหลัก ผู้ชมจึงทำได้เพียงคาดเดาเรื่องราวจากอากัปกิริยาของตัวละคร และบรรยากาศโดยรอบที่กล้องเคลื่อนผ่านเท่านั้น

 

ไม่เพียงเท่านั้น เนื่องจากซีรีส์ถูกนำเสนอผ่านมุมมองของตัวละครทั้ง 4 ตัว ผู้ชมจึงต้องเก็บรายละเอียดของเนื้อเรื่องที่ถูกเล่าผ่าน 4 มุมมองให้ครบถ้วน (ซึ่งต้องอาศัยการสังเกตและจดจำมากพอสมควร) และนำมาปะติดปะต่อกันเพื่อคาดเดาเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกด้วย  

 

 

ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ เราจึงมองว่าสิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่อง Blackout มีความน่าสนใจและชวนติดตาม ไม่ได้เกิดขึ้นจากเนื้อเรื่องและการถ่ายทอดอารมณ์ของนักแสดงนำเพียงอย่างเดียว แต่มันคือทุกองค์ประกอบที่ทีมงานตั้งใจใส่มันลงไป ไม่ว่าจะเป็นมุมมองแนวตั้ง, การถ่าย Long Take, ดนตรีประกอบ ไปจนถึงพร็อพประกอบฉาก ซึ่งทั้งหมดล้วนทำหน้าที่ ‘บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น’ ไปพร้อมกับการ ‘สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ชม’ ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง 

 

หลังจากนี้เราต้องติดตามเรื่องราวในอีพีต่อไปว่า ชะตากรรมของกลุ่มเพื่อนทั้ง 4 คนจะจบลงอย่างไร และคาดเดาว่าเหล่าทีมงานจะใส่ ‘ท่ายาก’ อะไรมาให้เราได้รับชมกันอีกบ้าง

 

Blackout บาร์ลับไม่มีในโลก มีจำนวนตอนทั้งหมด 8 ตอน โดยสามารถติดตามชมอีพีที่ 1-4 แบบต่อเนื่องได้ในวันที่ 1-4 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 20.00 น. ทาง AIS Play 

 

รับชมตัวอย่างซีรีส์ได้ที่นี่

 

 

 

ภาพประกอบ

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising