วันนี้ (26 กันยายน) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์พายุโนรูที่จะเข้าประเทศไทยช่วงวันที่ 28 กันยายนนี้ว่า กทม. ได้ตั้งวอร์รูมที่สำนักการระบายน้ำเพื่อติดตามสถานการณ์พายุโดยเฉพาะ
ซึ่งจะต้องติดตามเส้นทางของพายุว่าจะขึ้นบนหรือลงล่าง หากขึ้นบนก็จะต้องเฝ้าระวังน้ำที่มาจากแม่น้ำเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยจะต้องเสริมคันกั้นดูแลฝั่งตะวันออก หากเส้นทางพายุลงล่างก็ต้องติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ กทม. โดยจะต้องปั๊มน้ำออก และเร่งการพร่องน้ำในคูคลอง ซึ่งทั้งหมดต้องทำพร้อมกัน
ในคลองหลักของ กทม. ขณะนี้ก็ได้พร่องน้ำไว้รองรับแล้ว แต่ฝั่งลาดกระบังมีเติมมาจากฝนจึงได้ประสานกรมชลประทานให้ช่วยระบายออก ส่วนคลองเปรมประชากรและคลองลาดพร้าวระบายน้ำได้ดี
ชัชชาติกล่าวต่ออีกว่า การคาดการณ์พื้นที่ที่จะเกิดปัญหาถือว่ายาก แต่ได้ให้ประเมินว่าฝนตกทุกพื้นที่ไว้ก่อน และทุกพื้นที่ก็เตรียมพร้อมสำหรับการรับมือ ซึ่งยืนยันว่า กทม. เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่เกิน 100% โดยพรุ่งนี้ (27 กันยายน) จะมีกระสอบทรายมาอีก 2.5 ล้านใบ ซึ่งจะรีบบรรจุและกระจายลงในพื้นที่ โดยเฉพาะฝั่งตะวันออก และแนวคันกั้นน้ำเจ้าพระยา
ส่วนกรณีที่ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อยากให้ท้องถิ่นได้รีบแจ้งเตือนประชาชนก่อนนั้น ชัชชาติยืนยันว่า กทม. มีการประชาสัมพันธ์ดีอยู่แล้ว เพราะ กทม. มีระบบเขต โดยเริ่มจากการพยากรณ์ตามลำดับก่อนแล้วแจ้งเตือน ซึ่งการพยากรณ์จะมีการพยากรณ์ก่อน 7 วัน และจะดูลักษณะกลุ่มเมฆ 3 ชั่วโมงก่อนเกิดฝน แล้วดูปริมาณฝนนาทีต่อนาที โดยขั้นตอนการทำงานก็จะเริ่มจากสำนักการระบายน้ำส่งต่อไปยังเขต และส่งต่อไปยังประชาชนในพื้นที่
