วันนี้ (20 เมษายน) ที่ MCC Hall เดอะมอลล์ บางกะปิ โฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 24 แถลงข่าวเปิดนโยบาย ‘กรุงเทพ 24 ชั่วโมง’ เพื่อพลิกความสุขให้คนกรุงเทพฯ ได้กินดี อยู่ดี แบบก้าวไปข้างหน้าอย่างมีคุณธรรม ไม่คดโกง เห็นผลทันทีใน 100 วันแรก
โฆสิตยังได้ประกาศชูนโยบาย 7 เรื่องหลัก ได้แก่
– ทำมาหากินได้ 24 ชั่วโมง
– เดินทางสะดวก 24 ชั่วโมง เชื่อมต่อการขนส่งสาธารณะ รถ ราง เรือ และจะให้รถไฟฟ้า BTS วิ่งให้บริการ 24 ชั่วโมง
– คนกรุงเทพฯ ต้องปลอดภัย 24 ชั่วโมง
– สุขภาพดี 24 ชั่วโมง
– เรียนรู้ 24 ชั่วโมง ให้นักเรียนมีรายได้โดยไม่ต้องจบปริญญาตรี
– บริหารและบริการกรุงเทพฯ 24 ชั่วโมง
– กรุงเทพมหานครต้องเป็นเมือง 24 ชั่วโมง
โฆสิตระบุว่าหากได้รับเลือกให้มาทำงาน ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะเอาความรู้ ความสามารถรอบด้าน ประสบการณ์ที่มีมาทำและสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่ เป็น ‘กรุงเทพ 24 ชั่วโมง’
โฆสิตยังระบุว่านโยบายทั้งหมดเคยพูดไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว แต่จนถึงวันนี้นโยบายทั้งหมดก็ยังหยิบมาใช้ได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าปัญหาทั้งหมดยังไม่ได้รับการแก้ไขหรือทำเลย แต่ครั้งนี้โฆสิตจะเป็นคนมาทำ และย้ำว่าตนเองเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่เป็นอิสระและเป็นกลาง วันนี้ผู้ว่าฯ กทม. จะต้องเป็นผู้ที่อิสระโดยแท้และเป็นมือประสานสิบทิศ
โฆสิตยังกล่าวยืนยันว่า นโยบายกรุงเทพ 24 ชั่วโมง เป็นโอกาสของไทย เพื่อเป็นแรงจูงใจนักลงทุนเข้ามาในประเทศให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอาเซียน ซึ่งยอมรับว่าเป็นนโยบายเดิมของ 9 ปีที่แล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งหากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็พร้อมที่จะขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นจริง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการเปิดตัวช้ากว่าผู้สมัครคนอื่นจะเป็นอุปสรรคต่อคะแนนเสียงหรือไม่ โฆสิตระบุว่าตนเองทำตามกติกา และด้วยประสบการณ์มองว่าการตัดสินใจของประชาชนอยู่ที่ 10 วันสุดท้ายเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองงบประมาณหาเสียง ซึ่งตนเองจะใช้วิธีรับบริจาคตามกรอบรัฐธรรมนูญรองรับโดยไม่มีกลุ่มทุนสนับสนุน ไม่เน้นติดป้ายหาเสียงมากนักเพราะเป็นปัญหาที่กระทบกับการใช้ชีวิตของประชาชนที่มีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน หลังจากนี้จะเดินหน้าหาเสียงแบบแฟลชม็อบ
โฆสิตยังยืนยันว่าตนเองเป็นอิสระอย่างแน่นอน ถึงแม้จะเพิ่งลาออกจากการเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เราไม่เคยสังกัดพรรคการเมืองใด อีกทั้งยังเป็นที่ปรึกษาให้กับทุกรัฐบาลและหลากหลายกระทรวง ทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองดีเท่านั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ไม่มีเสียงสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) สนับสนุนเพราะลงในนามอิสระนั้นจะเป็นอุปสรรคหรือไม่ โฆสิตกล่าวว่าเป็นการแสดงความโปร่งใสที่พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเพราะ ส.ก. มีอำนาจในด้านนี้