“BMW ไม่ได้สร้างแค่รถยนต์ แต่ได้สร้างคาแรกเตอร์ของคนในแบบฉบับ BMW เอาไว้ให้โลกใบนี้ด้วย”
แทบทุกคนที่เราได้พูดคุยในงาน #Bimmermeet3 ต่างบอกเป็นใจความเดียวกัน แม้ประโยคที่ออกมาจากปากของพวกเขาจะไม่ได้เหมือนกันเป๊ะๆ เสียทีเดียว แต่ลักษณะร่วมที่เราจับได้ว่าพวกเขามีเหมือนๆ กันคือ พวกเขาหลงใหลในยนตรกรรมจากแคว้นบาวาเรีย และมีใบพัดของความแอ็กทีฟติดไว้ในจิตวิญญาณ
#Bimmermeet3 เป็นงานรวมพลคนรักรถยนต์ BMW จากทั่วฟ้าเมืองไทย และเป็นหนึ่งในงานที่มีรถ BMW รุ่นหาชมยากขนขบวนมาให้ยลโฉมมากที่สุดงานหนึ่ง จัดขึ้นโดยบริษัท 2000 พับลิชชิ่ง แอนด์ มีเดีย จำกัด ผู้จัดทำนิตยสาร BMWCar ฉบับภาษาไทย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจนเกิดขึ้นเป็นหนที่ 3 แล้ว และครั้งนี้ The Standard ก็ได้รับเชิญให้มาร่วมวงสนทนาในบรรยากาศของคนรักรถ หอมหวลกลิ่นเครื่องยนต์และงานดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ BMW
หากรถยนต์เป็นสัญลักษณ์ของการเดินทาง …กว่าศตวรรษ ที่ประทับรอยบนท้องถนน แบรนด์รถยนต์ตราใบพัดสัญชาติเยอรมนี เดินหน้ามากกว่าตัวเลขกิโลเมตรบนหน้าปัด แม้ว่าจะกำเนิดในรูปของเครื่องบิน และมอเตอร์ไซค์มาก่อน แต่เมื่อออกสตาร์ทรถยนต์คันแรกเป็นต้นมา นับจากนั้นรถยนต์รุ่นแล้วรุ่นเล่าที่ถือกำเนิดขึ้นในแต่ละช่วงยุคของ BMW ก็ไม่เคยถูกละสายตาจากเหล่าสาวก อีกทั้งแต่ละคันยังนับเป็นเครื่องบอกเล่าการเดินทางของประวัติศาสตร์ สังคม ผู้คนต่างสัญชาติ ต่างเจเนอเรชัน ซึ่งงาน #Bimmermeet3 ที่เกิดขึ้นนี้ คือประจักษ์พยานที่ย้ำภาพดังกล่าวอย่างชัดเจน ทั่วอาณาบริเวณของสนามถูกปูพื้นที่ให้รถยนต์ BMW ต่างรุ่น ต่างสีพรั่งพร้อมด้วยเจ้าของรถแต่ละคัน หอบแพสชันและความภาคภูมิใจ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ในภาษาบิมเมอร์
มนต์ปลาฉลามและประตูแห่งการกำเนิด #Bimmermeet3
บริเวณแต่ละโซนถูกจัดแบ่งไว้อย่างเป็นระเบียบตามยุคสมัยของรถยนต์แต่ละรุ่น แล้วความเตะตาในรูปทรงปราดเปรียวของBMW 6 Series หรือรุ่น The Shark ที่จอดเรียงรายอยู่ ก็ได้นำพาเรามาพบกับ คุณเชษฐ อรัญญเกษม และคุณวิทวัส ชัยปาณี ประธานและรองประธานกลุ่ม Shark Squad คลับของคนผู้หลงใหลรถยนต์ Big Coupe ในตำนานของยานยนต์ค่ายใบพัดฟ้าขาวตั้งแต่ยุคโบกรถหากลุ่มเพื่อนมาจนถึงยุคคุยไลน์ โดยหนุ่มใหญ่ทั้งคู่ต่างพร้อมใจกันบอกเล่าเป็นท่วงทำนองเดียวกันถึงความรักที่พวกเขามีให้กับรถรุ่นนี้
“รถรุ่นนี้เขายกให้เป็น Big Coupe เป็นรถ 2 ประตูขนาดใหญ่ นั่งสบาย แต่ภายนอกดูเพรียว และที่มีเสน่ห์สุดๆ คือ การดีไซน์ช่วงหน้าให้เอียงลู่ลง เลียนแบบรูปลักษณ์ของหัวปลาฉลาม รถรุ่นนี้จึงมีชื่อเล่นว่า ‘Shark’ เป็นที่รู้กันในวงการว่าถ้ามีรถรุ่นอื่นๆ ที่หน้าตาใกล้เคียงกัน ก็จะเรียกว่า ‘Baby Shark’ ซึ่งแน่นอนว่า มันก็คงเป็นเรื่องของการดีไซน์นั่นแหละ ที่ทำให้ตกหลุมรัก”
ไม่เพียงแค่นั้น การพบกับคนทั้งคู่ในครั้งนี้ ยังทำให้เราได้พบกับต้นตอของกลุ่มคนผู้ทำให้เกิดการรวมตัวกันของเหล่าบิมเมอร์ ตั้งแต่ครั้งที่ 1 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
“ถ้าถามว่าพวกเรารู้สึกกับงานนี้มากแค่ไหน แน่นอนพวกเราต้องรู้สึกมากเป็นพิเศษ เพราะพวกเราเป็นหนึ่งในโต้โผที่พยายามผลักดันให้เกิดกิจกรรมให้คนรัก BMW ได้มาพบปะพูดคุยในเรื่องราวที่เขาสนใจร่วมกันมาตั้งแต่ต้น พวกเราจึงจะอยากเห็นงานนี้เติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ ครับ”
ความผูกพันจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก
เรื่องราวที่เรากำลังจะบอกเล่าต่อไปนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความประทับใจที่มี BMW 2002 TURBO เป็นตัวแทนความทรงจำ ระหว่างพ่อกับลูก
“การมาถึงของรถคันนี้ มาจากความทรงจำในวัยเด็กของผมครับ มันเป็นรถที่ทำให้ผมคิดถึงคุณพ่อ ตอนผมยังเด็ก ผมเรียนโรงเรียนประจำ ทุกๆ สิ้นเดือนคุณพ่อจะขับรถรุ่นนี้มารับที่โรงเรียน พอมันพัง คุณพ่อก็ขายทิ้งไป พอผมโตขึ้น ทำงานเก็บเงินจนเริ่มมีกำลังซื้อได้ ผมก็พยายามไปหาซื้อกลับมา แล้วขับไปโชว์คุณพ่อว่า นี่ไง…รถคุณพ่อยังอยู่นะ”
แววตาที่ฉายไปด้วยความภูมิใจที่มีต่อรถยนต์ระดับไอคอนิก BMW 2002 TURBO ของ โอม สุวรรณรัตน์ ผู้เป็นเจ้าของรถ ทำให้เราอดไม่ได้ที่จะถามต่อถึงความรักที่เขามีต่อยนตรกรรมรุ่นนี้ กระทั่งได้รู้ว่า มากกว่าแค่ความทรงจำ เขายังหลงใหลในความเป็น BMW 2002 กระทั่งขยายจำนวนมาครอบครองไว้ถึง 7 คัน
“ผมเรียกว่าเป็น “ความคลั่งไคล้” เลยก็ว่าได้ ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้ผมหลงเสน่ห์รถยนต์รุ่นนี้ คงเป็นที่ความลงตัวทั้งหมด ทั้งการขับขี่ ช่วงล่างที่ดี แอร์เย็น ฟังเพลงเพราะ ขับสนุก สุดท้ายก็คือเรื่องของการดีไซน์ ผมค่อยๆ สะสมเรื่อยมา พอมีกำลังมากขึ้น ก็ขยับมาเป็นรุ่น BMW 2002 TURBO สำหรับผม การอยู่กับรถยนต์เหล่านี้มันเป็นความสนุก ผมไม่รู้เหตุผลลึกๆ ว่าทำไม แต่พอรู้ตัวอีกทีก็มาไกลแล้วครับ”
ความสวยงามที่มาพร้อมสมรรถนะ
สำหรับคนสายอาร์ต อย่าง ไกรจิตร เจริญพานิช ครีเอทีฟบริษัทโฆษณา เจ้าของรถยนต์ BMW 2000 COUPE 1966 งานออกแบบภายนอกสุดละเมียดของยานยนต์บาวาเรีย คือ เสน่ห์ที่ทำให้เขาไม่อาจทำได้แค่เพียงยืนมองอยู่เฉยๆ แต่ใจสั่งมาว่าต้องเป็นเจ้าของให้ได้ และเหมือนโชคชะตาเข้าข้าง ทำให้วันนี้เขาคือคนที่อยู่หลังพวงมาลัยของรถคันงามที่ตกหลุมรักในวันนั้น
“รถคันนี้อายุ 40 กว่าปี ผมไปเจอตอนที่จอดอยู่ในบ้านยุค 70 หลังงามหลังหนึ่ง ผมก็รวบรวมความกล้าเหมือนผู้ชายที่กำลังจะไปสู่ขอหญิงสาว เพื่อไปถามคุณลุงเจ้าของรถว่าขายไหม? ผมอยากได้จริงๆ โชคดีเป็นจังหวะที่เขากำลังจะขายพอดี เลยได้โอกาสรับช่วงมาดูแลต่อ”
ความโดดเด่นของรถต้นตระกูล E9 รุ่น 2000 COUPE คันนี้ คือ เป็นเกียร์ออโต้รุ่นแรกๆ ของ BMW เครื่องยนต์ 3 จังหวะ 3 สปีด ไฟหน้าสวยระยับ ตำแหน่งเกียร์ไม่เหมือนใคร ที่สำคัญคืองานดีไซน์ที่กล้าหาญเกินยุคสมัย เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“BMW เป็นรถที่มีคาแรกเตอร์ โดยเฉพาะรุ่นคลาสสิกต่างๆ ผมรู้สึกได้ถึงความอาว็อง-การ์ด (Avant-Garde) ความกล้าหาญที่จะแตกต่างในการดีไซน์ โดยเฉพาะในยุคแรกๆ อาจเป็นเพราะว่าผมเรียนมาทางสายอาร์ตด้วย ก็เลยรู้สึกว่ารถยนต์กลุ่มนี้เขามีเสน่ห์ มีเรื่องราว ไม่ธรรมดา พอได้มาเจอคนที่มีความชอบเหมือนกันที่งานนี้ ยิ่งรู้สึกดีเข้าไปใหญ่ ระหว่างทางผมขับมาก็มีคนบีบแตรให้ ยกนิ้วกดไลก์ให้บ้าง คนที่รัก BMW เหมือนกันจะรู้ดีว่า รถยนต์สายพันธุ์นี้เขาเก็บรายละเอียดของความสวยงามที่มาพร้อมกับสมรรถนะได้อย่างยอดเยี่ยม”
นอกจากนี้ ทุกคนในงานยังได้พบกับไฮไลต์ของกิจกรรม นั่นคือพาเหรดรถยนต์ BMW ที่ถูกขับออกมาสะกดตาสะกดใจอย่างใกล้ชิด ไม่ต่างกับแฟชั่นโชว์บนรันเวย์ระดับโลก โดยเรียงแถวมาให้ชมตั้งแต่รุ่นคลาสสิกหายาก มีคันเดียวทั้งทวีปเอเชีย ไปจนกระทั่งถึงรุ่นล่าสุดอย่าง ซีรีส์ 5, X2 และ X4 หรืออย่าง i3 ที่เป็นรถพลังงานไฟฟ้า รวมถึงรุ่นแซงหน้าอนาคต อย่าง i8 และ The 8 ที่มาพร้อมนวัตกรรมสุดล้ำ และความหรูหราโฉบเฉี่ยวสมราคาความเป็น BMW
นี่คือแพสชันที่รถยนต์แบรนด์หนึ่งสามารถขยับตำแหน่งจากการเป็นเพียงแค่ยานพาหนะ มาเป็นเสมือนเพื่อน มีเรื่องราว มีความทรงจำ และมีประสบการณ์มอบให้แก่ผู้ขับขี่ ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นเครื่องสะท้อนตัวตน รสนิยม ได้อีก ซึ่งหากจะบอกว่า BMW เป็นรถที่มีจิตวิญญาณ ก็คงจะไม่เป็นการกล่าวเกินจริง
และจิตวิญญาณนี้ เหล่าบิมเมอร์เท่านั้น ที่จะหยั่งถึง!
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
