8 พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่จะทำให้คุณหน้าแก่เกินไว #ยิ้มแล้วหน้ายับ

หลังใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงก็ถึงเวลาชดใช้กรรม ด้วยการตื่นมาวันหนึ่งแล้วพบว่าทำไมหน้าของเราถึงแก่ได้ขนาดนี้ ทั้งหน้ายับ ถุงใต้ตาบวมฉึ่ง ตีนกามาเพียบ นี่ยังไม่รวมสุขภาพผิวที่ไม่ต้องไปให้หมอผิวหนังที่ไหนวินิจฉัยก็รู้ได้ว่าเข้าขั้นโคม่า ต่อให้ทาครีมแพงขนาดไหนก็เอาไม่อยู่ จะให้พึ่งพาแต่โบท็อกซ์ก็ดูจะสิ้นเปลืองเกินไป เอาเป็นว่าถ้าไม่อยากหน้าแก่เกินวัย เราต้องเริ่มปฏิวัติตัวเองเสียใหม่ ด้วยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเหล่านี้ ที่ทำให้สุขภาพผิวของคุณล้ำหน้าเกินวัยไปมาก

1. อดหลับอดนอน

เนื่องจากร่างกายจะซ่อมแซมตัวเองยามคุณนอนหลับ การที่คุณไม่หลับไม่นอนหรือนอนไม่เพียงพอ ยิ่งเป็นการย่นระยะเวลาซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างวัน จากผิวที่โดนแสงแดดและเผชิญกับมลพิษต่างๆ ทางที่ดีควรนอนให้ได้ 8 ชั่วโมงต่อวัน เรื่องนี้นายแพทย์ชเนษฎ์ ศรีสุโข แพทย์ปริญญาโทด้านผิวหนัง แนะนำว่า “เนื่องจากผิวหน้าของเราจะสูญเสียความชุ่มชื้นขณะที่เรานอนหลับ การทาครีมบำรุงก่อนนอนทุกวันทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้นได้ โดยควรเลือกครีมบำรุงที่ปราศจากสารก่อการแพ้ ก่อการอุดตัน ปราศจากแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งทำให้แห้งกว่าเดิม ส่วนทำไมตอนนอนผิวหนังเสียความชุ่มชื้น ก็เพราะเครื่องปรับอากาศหรืออากาศทั่วไปทำให้ผิวแห้งตอนนอน และเมื่อคนเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตสารสร้างความชุ่มชื้นตามธรรมชาติได้ลดลง (Natural Moisturizing Factor-NMF) หมอจึงแนะนำให้หมั่นทาครีมบำรุงผิวนั่นเองครับ”

2. มองข้ามครีมกันแดด

หนึ่งในวิธีง่ายที่สุดเพื่อให้ผิวสุขภาพดีแลดูอ่อนเยาว์เสมอ นั่นคือการหมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำก่อนออกจากบ้าน (อ่านคู่มือการทาครีมกันแดด 101) เนื่องจากแสงยูวีเป็นตัวการทำลายคอลลาเจน อีลาสติน และเซลล์ผิวหนัง ส่งผลให้แก้มห้อย ไม่เด้ง เห็นร่องแก้มชัดเจน แถมการโดนแสงมากๆ ยังทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ ทั้งฝ้าและกระถามหา นี่ยังไม่ได้พูดถึงความเสี่ยงของการเกิดโรคผิวหนังต่างๆ เช่น มะเร็งผิวหนัง อีกด้วย

3. ติดน้ำตาล

นอกจากเพิ่มรอบเอวแล้ว น้ำตาลยังบ่อนทำลายผิวของคนเราอย่างร้ายกาจ ส่งผลให้คุณหน้าแก่ล้ำวัยแม้จะสุขใจจากการกินน้ำตาล “น้ำตาลธรรมชาติหากบริโภคพอประมาณจะดี แต่น้ำตาลที่สูงมากเกินไปจะทำให้เกิดการบาดเจ็บของระบบหลอดเลือดและเซลล์ผิวหนังได้ ตัวอย่างคนเป็นโรคเบาหวานที่เมื่อน้ำตาลในกระแสเลือดมากเกินไป ทำให้หลอดเลือดตามปลายมือปลายเท้าเสียหาย และเป็นแผลผิวหนังได้ง่ายยิ่งขึ้น” คุณหมอกล่าว

4. ไม่กินผักและผลไม้

ผลไม้นั้นอุดมไปด้วยสารอาหารบำรุงผิว เช่น วิตามินอี จากถั่ว อัลมอนด์ อะโวคาโด ฯลฯ ช่วยป้องกันผิวจากรังสียูวี วิตามินเอ วิตามินซี และบี 3 ช่วยเรื่องคอลลาเจน รวมถึงสารแอนติออกซิแดนต์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้จากผลไม้ตระกูลเบอร์รีต่างๆ ยังช่วยต้านความแก่ได้เป็นอย่างดี

5. สูบบุหรี่จัด

นอกจากทำลายปอดแล้ว คุณหมอยังเสริมว่า “ควันบุหรี่ประกอบด้วยสารอันตรายต่อผิวหนังมากกว่าร้อยชนิด หมอผิวหนังอาจแนะนำให้คุณจิบไวน์แดงวันละหนึ่งแก้ว เพราะมีสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ช่วยบำรุงระบบหัวใจและหลอดเลือด แต่กับบุหรี่จะไม่มีใครแนะนำเป็นอันขาด เพราะสารพิษทั้งหลายจะทำลายเซลล์ถึงระดับดีเอ็นเอ ก่อมะเร็งในระยะยาว ทำให้แก่ง่าย เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ ปากดำ มือดำ เล็บดำ ฟันเหลือง มีปัญหาหลอดเลือดสมอง หัวใจ ไต เสี่ยงเป็นมะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้การศึกษาวิจัยช่วงหลังก็ยังพบว่าแม้แต่บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งยังคงต้องการเวลารวบรวมสถิติอีกสักระยะ”

6. ดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อวัน

ใครรู้ตัวว่าดื่มน้ำไม่ครบวันละ 8 แก้วต่อวัน เห็นทีต้องระวังกันหน่อย เพราะการขาดน้ำส่งผลให้ร่างกายดึงเอาความชุ่มชื้นจากผิวมาหมด ส่งผลให้ผิวแห้ง บางแดง มองแล้วเห็นเป็นริ้วๆ กร้านๆ ยิ้มทีหน้ายับเลย ลองอ่านเคล็ดลับการดื่มน้ำได้ที่นี่

7. ดื่มแอลกอฮอล์หนัก

เคยเห็นใครดื่มเหล้าแล้วตื่นมาหน้าใสปิ๊งไหม คำตอบคือไม่มี หลังมีการวิจัยพบว่าแอลกอฮอล์จะเข้าไปลดระดับสารแอนติออกซิแดนต์ หรือสารต้านแก่ในร่างกาย ทำลายผิว ทำให้เกิดริ้วรอยต่างๆ ทั้งยังทำให้ผิวขาดน้ำ ส่งผลให้ผิวดูแห้งกร้าน หมองคล้ำ ไม่น่ามองเอาเสียเลย

8. สะสมความเครียด

หลังมีผลการวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าความเครียดสะสมบั่นทอนสุขภาพร่างกาย และจิตใจได้มากกว่าที่คิด ทั้งยังทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว เอาง่ายๆ เวลาเราเครียดมากๆ เราจะขมวดคิ้วทั้งวันโดยไม่รู้ตัว นี่ก็ทำให้หน้าย่นได้แล้วนะ ลองหาวิธีบำบัดตัวเอง เพื่อกำจัดความเครียดนั้นออกไป

ภาพ: shutterstock, ภาพยนต์เรื่อง The Curious Case of Benjamin

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

FYI

คอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่น เนียนนุ่ม แข็งแรง ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างของผิวคล้ายเสาอาคาร เมื่อเส้นใยเหล่านี้ลดลงก็จะเกิดริ้วรอย รอยย่น ผิวหนังหย่อนคล้อยได้ง่าย โดยเฉพาะหนังตา ข้างแก้ม ใต้คอ และคาง