ครึ่งเดือนหลังจากละคร บุพเพสันนิวาส ลาจอ หุ้นของ BEC ปรับลดลงและไม่ร้อนแรงเท่ากับช่วงปรากฏการณ์ออเจ้าครองเมือง ล่าสุดบอร์ดอนุมัติออกหุ้นกู้เดินเครื่องธุรกิจต่อแล้ว
ราคาหุ้นของบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC วันนี้ (2 พ.ค.) เปิดที่ 10.40 บาทต่อหุ้น และปรับลดเป็น 10.20 บาทในช่วงบ่าย หากพิจารณาราคาย้อนหลังพบว่า หุ้นของ BEC ราคาตกต่อเนื่องจากกลางสัปดาห์ก่อนมาถึงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งเมื่อเทียบฟอร์มก่อนหน้าช่วงที่ละคร บุพเพสันนิวาส โด่งดัง บางส่วนวิเคราะห์ว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่จุดประกายความหวังให้ธุรกิจของช่อง 3 กลับมาสดใสอีกครั้ง
วันแรกที่ละครออกอากาศคือ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หุ้น BEC ปิดที่ 11 บาทต่อหุ้น จนเมื่อมนต์ขลังของกระแสออเจ้าจับใจคนดูจนเรตติ้งทะลุปรอทแตก ทำให้ราคาหุ้นขยับถึง 13.80 บาทต่อหุ้นในวันที่ 14 มีนาคม หรือเพิ่มกว่า 25% นับจากวันแรกที่ละครฉาย นักลงทุนบางส่วนเชื่อว่ารายได้ของช่อง 3 จะเพิ่มขึ้นเป็นกอบเป็นกำตามมา คาดการณ์ว่ารายได้จากการขายโฆษณาและรายได้อื่นๆ จะเพิ่มถึง 500 ล้านบาท จนเมื่อละครถึงตอนอวสานวันที่ 11 เมษายน ราคาหุ้น BEC ปิดตลาดที่ 11.80 บาท และเปลี่ยนแปลงดังเช่นที่เห็นในขณะนี้
หากพิจารณาเอกสารมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ BEC วันที่ 27 เมษายน 2561 ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีมติงดจ่ายเงินปันผลงวดหลังของปี 2560 เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้จ่ายเงินปันผลไป 200 ล้านบาทแล้ว ซึ่งมากกว่ากำไรสุทธิทั้งปีของ BEC ที่ 61 ล้านบาทถึงกว่า 3 เท่า ซึ่งการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวเป็นการหักจากกำไรสุทธิและกำไรสะสม นอกจากนี้ยังมีมติอนุมัติออกหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 4 พันล้านบาทเพื่อนำไปใช้หนี้ ปรับโครงสร้างทางการเงินและนำไปดำเนินธุรกิจทีวีดิจิทัลต่อ ซึ่งสะท้อนความท้าทายของยักษ์ใหญ่วงการสื่ออย่าง BEC ที่จะก้าวไปข้างหน้า
หากมนต์กฤษณะกาลีมีพลังอันร้ายกาจในโลกของบทประพันธ์แล้ว โลกแห่งความเป็นจริงสิ่งที่อาจจะทรงพลังกว่าก็คืองบการเงิน ตัวเลขกำไรขาดทุน และ ‘Bottom Line’ ที่ใครก็ยากจะทัดทาน
อ้างอิง: