×

คุยกับ ‘พี่เลี้ยงค่ายเพาเวอร์กรีน’ กับภารกิจส่งมอบการเติบโตอย่างมีคุณภาพให้กับเยาวชนหัวใจรักษ์สิ่งแวดล้อมรุ่นถัดไป [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
14.01.2023
  • LOADING...

ถ้าถามว่าคนหนึ่งคนจะเติบโตไปในทิศทางที่ดีได้จากอะไร การบ่มเพาะความรู้ ประสบการณ์ ทักษะการใช้ชีวิตตั้งแต่ยังเป็นเด็ก คงเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด

 

นี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สององค์กรที่เล็งเห็นว่า เมื่อเทรนด์โลกกำลังมุ่งหน้าไปในเรื่องของการสร้างสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเพื่อโลกที่ดีกว่า การปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้แก่เยาวชนไทย เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ผ่านโครงการค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ‘เพาเวอร์กรีน’ (Power Green Camp) จึงเป็นสิ่งสำคัญและทำอย่างต่อเนื่องมาตลอด 17 ปี

 

นับตั้งแต่ปี 2549 เพาเวอร์กรีนได้สร้างเครือข่ายแกนนำเยาวชนและสิ่งแวดล้อมมาแล้วกว่า 1,000 คน พวกเขาเหล่านั้นกลายเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนพันธกิจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้เดินหน้าต่อไป ในขณะที่สมาชิกจำนวนหนึ่งก็กลับมายังจุดเริ่มต้นของตัวเอง พร้อมปฏิญาณที่จะส่งมอบความรักที่มีต่อสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กรุ่นถัดไป 

 

แอน-สุภาวดี จำปาลา

 

“ไม่มีใครจะรู้จักค่ายนี้ดีไปกว่าคนที่เคยผ่านประสบการณ์
การเป็นรุ่นน้องมาก่อนอีกแล้ว
เราจึงมีการดึงศิษย์เก่ามาช่วยกันดูแลน้อง
เป็นการเสริมสร้างความรักและความผูกพันในโครงการฯ ให้แน่นแฟ้น
และยังมีส่วนช่วยให้เครือข่ายเยาวชนค่ายเพาเวอร์กรีนของเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”

 

แอน-สุภาวดี จำปาลา เจ้าหน้าที่ประจำคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และเลขานุการค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ‘เพาเวอร์กรีน’ เล่าย้อนไปเมื่อปี 2556 สมัยที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในฐานะพี่เลี้ยงค่าย ว่า “สมัยที่ยังเป็นนักศึกษาระดับชั้นปีที่ 3 คณะสิ่งแวดล้อมฯ ทราบว่ามีการเปิดรับสมัครพี่เลี้ยงค่าย ก็เลยลองมาสมัคร พอได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศ ก็รู้สึกว่าค่ายเพาเวอร์กรีนเป็นค่ายที่เจ๋งมาก มีความหลากหลายทั้งเนื้อหาและรูปแบบกิจกรรม และเราเห็นว่าเด็กๆ ที่มาร่วมมีความสุขและสนุกสนานกับสิ่งที่พวกเขาได้รับกลับไป และที่น่าประทับใจที่สุดก็คือเด็กๆ ที่มาจากต่างที่ ต่างถิ่น ต่างโรงเรียน ได้มาทำกิจกรรมร่วมกันจนเกิดความสนิทสนมและผูกพันกันในช่วงระยะเวลาการจัดค่ายเพียงไม่กี่วัน

 

ในแต่ละปีเราค่อยๆ เรียนรู้และได้รับมอบหมายหน้าที่ที่หลากหลายยิ่งขึ้น จากทำงานตามหน้าที่ เราก็เริ่มเอาใจลงไปเล่นเอง จนรู้สึกรักและผูกพันกับเด็กๆ ทุกรุ่นที่มาร่วมกิจกรรม จนเราเองก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องมามีส่วนร่วมในทุกๆ ปี”

 

กว่า 5 ปีแล้วที่แอนทำงานอยู่เบื้องหลังค่ายเพาเวอร์กรีน จากบทบาทพี่เลี้ยงค่าย วันนี้เขาผันตัวเองมาทำหน้าที่จัดหาพี่เลี้ยงมาคอยดูแลน้องๆ ที่มาเข้าค่าย แอนบอกว่า ทุกครั้งที่ทำค่ายเราต้องรู้จักเอาใจลงไปเล่นเอง ต้องมีทั้งน้ำพัก น้ำแรง และน้ำใจ เพราะการทำค่ายมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ และยังมีเด็กๆ ที่เราต้องดูแลรับผิดชอบอีกหลายสิบชีวิต พี่เลี้ยงจึงมีส่วนสำคัญที่จะทำให้บรรยากาศของค่ายในทุกๆ วันเต็มไปด้วยความสุข สนุกสนาน ได้รับความรู้กลับไปเต็มที่ เพื่อให้เด็กๆ ที่สละเวลามาเข้าร่วมได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดกลับไป

 

“สำหรับเนื้อหาในค่ายเป็นความรู้ระดับเดียวกับนักศึกษาชั้นปริญญาตรี มันอาจฟังดูยากเกินไป เพราะเราเปิดรับสมัครนักเรียนระดับมัธยมปลาย แต่น้องทุกคนที่ได้รับคัดเลือกให้มาเข้าร่วมโครงการมีความตั้งใจที่อยากจะมาค่ายจริงๆ และมีเป้าหมายที่ชัดเจนเหมือนกันคือ การเรียนรู้ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ความเข้มข้นของเนื้อหาจึงไม่เป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่เปิดใจเลยแม้แต่น้อย ยิ่งได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงซึ่งเป็นรุ่นพี่ค่ายปีก่อนๆ ที่ถือว่าอายุไล่เลี่ยกัน มีความเข้าใจกันและกัน ทำให้ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงค่าย แต่เป็น ‘บ้าน’ ที่จะโอบอุ้มการเติบโตของคนที่มีหัวใจเดียวกันตลอดไป”

 

ค่ายเพาเวอร์กรีนจึงเป็นเสมือนบ้านของคนที่มีหัวใจรักษ์สิ่งแวดล้อม และบ้านหลังนี้ก็พร้อมต้อนรับการกลับมาของศิษย์เก่าที่เคยเป็น ‘ผู้รับ’ และพร้อมที่จะกลับมาเป็น ‘ผู้ให้’ เพื่อส่งต่อความรู้และความรักให้แก่สมาชิกใหม่ในทุกๆ ปี 

 

เนม-ณัฐชนน นาคจรุง, เอิร์ธ-ธีรเจต รวมทำ และเพื่อนร่วมค่าย

 

“ค่ายนี้ทำให้เราได้ฝึก Soft Skills
ทั้งทักษะการสื่อสารที่ดี การทำงานเป็นทีม 
การรับฟังผู้อื่น การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น 
และได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกัน”

 

เนม-ณัฐชนน นาคจรุง ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนค่ายเพาเวอร์กรีน รุ่นที่ 13 ปัจจุบันศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และได้กลับมาเป็นพี่เลี้ยงค่าย รุ่นที่ 14 และ 17 ด้วยความตั้งใจที่จะส่งต่อประสบการณ์ดีๆ ให้กับรุ่นน้อง “ค่ายเพาเวอร์กรีนเป็นค่ายแรกในชีวิตที่ผมเคยเข้าร่วม” เนมกล่าว

 

จากเด็กหนุ่มขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก การได้เข้าร่วมค่ายเพาเวอร์กรีนนับเป็นประสบการณ์แรกในการก้าวออกจากเซฟโซน เป็นเสมือนแรงผลักดันให้กล้าที่จะเรียนรู้สิ่งแวดล้อมนอกห้องเรียน และกล้าที่จะก้าวออกมาเรียนรู้เพื่อนใหม่ในสังคมที่กว้างขึ้น 

 

“ค่ายเพาเวอร์กรีนสอนให้สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ภาคสนาม การลงพื้นที่สัมผัสวิถีชีวิตของคนในชุมชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ต่างๆ พร้อมนำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ นอกจากทักษะความรู้เชิงวิชาการที่ได้รับแล้ว ค่ายนี้ก็ยังสอนให้เรียนรู้ เข้าใจ และรับฟังผู้อื่น รู้จักการคิด วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าร่วมกัน ซึ่งถือเป็นทักษะสำคัญในการอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคม สำหรับผม เพาเวอร์กรีนเป็นค่ายที่ช่วยให้เยาวชนเติบโตไปเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุด”

 

“ค่ายนี้ทำให้รู้ว่าเราไม่ได้อยู่บนถนนสายนี้เพียงลำพัง
แต่ยังมีคนอีกมากที่กำลังเดินหน้าผลักดันแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ให้เติบโตไปพร้อมกับเรา
และเราก็จะสานต่อความรู้สึกดีๆ นี้ให้กับน้องรุ่นถัดไปเช่นกัน”

 

เอิร์ธ-ธีรเจต รวมทำ ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนค่ายเพาเวอร์กรีน รุ่นที่ 16 นักศึกษาปริญญาตรี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ มหาวิทยาลัยมหิดล และได้กลับมาเป็นพี่เลี้ยงค่าย รุ่นที่ 17 ด้วยใจมุ่งมั่น

 

“เนื้อหาการเรียนรู้ของค่ายเพาเวอร์กรีนเป็นปัจจัยแรกที่จูงใจให้สมัครเข้าร่วม” เอิร์ธเล่าว่า เราต้องการเรียนรู้ว่าเมื่อสิ่งแวดล้อมเริ่มเปลี่ยนไป เราจะมีวิธีการปรับตัวให้อยู่ได้ในสิ่งแวดล้อมนั้นอย่างไร และจะใช้วิธีไหนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงไปจากความปกติของสิ่งแวดล้อมเดิม และการตัดสินใจสมัครมาเข้าร่วมก็พบว่าเราได้เรียนรู้เกินความคาดหมาย เราได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้จากบทเรียนและกิจกรรมต่างๆ อย่างครบถ้วน แต่ที่มากไปกว่านั้นคือ ค่ายเพาเวอร์กรีนสอนให้ลงมือทำ และยังทำให้เราได้รู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่นผ่านกิจกรรมกลุ่ม และทำให้รู้ว่า ‘ใจเขา ใจเรา’ คือแนวคิดสำคัญสำหรับการดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นที่สามารถปรับใช้ได้ทุกสถานการณ์ 

 

เมื่อได้มีโอกาสกลับมาในฐานะพี่เลี้ยง เอิร์ธได้นำประสบการณ์ที่เคยได้รับมาปรับใช้ในการดูแลรุ่นน้อง สร้างความเชื่อมั่นให้แก่น้องๆ ว่าค่ายนี้เป็นมากกว่าค่ายสิ่งแวดล้อมทั่วไป ทั้งรูปแบบการเรียนรู้ การทำงานร่วมกับผู้อื่น การคิดอย่างเป็นระบบ ตลอดจนการให้กำลังใจ และการสร้างความสามัคคี 

 

เอิร์ธหวังเพียงว่าน้องๆ จะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดกลับไป และได้สัมผัสกับความรักและผูกพันระหว่างกันแบบที่เขาเคยได้รับ และอยากจะกลับมาเป็นพี่เลี้ยง มาร่วมส่งต่อสิ่งดีๆ ให้แก่รุ่นน้องในปีต่อๆ ไป 

 

บัว-ขัตติยา ไชยโยธา

 

“หลังจบค่ายก็พบว่าตัวเองเปลี่ยนไปมาก
กลายเป็นคนใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
และให้ความสำคัญกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม”

 

บัว-ขัตติยา ไชยโยธา ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนค่ายเพาเวอร์กรีน รุ่นที่ 16 ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนพัทลุง เป็นอีกคนที่ตัดสินใจกลับมาเป็น ‘ผู้ให้’ ในบทบาทพี่เลี้ยงค่าย รุ่นที่ 17 หลังจากที่ได้เป็น ‘ผู้รับ’ ในรุ่นที่ 16

 

“ค่ายเพาเวอร์กรีน 16 ถือเป็นการเปิดประสบการณ์เข้าค่ายครั้งแรกในชีวิต แม้จะอยู่ในรูปแบบออนไลน์ แต่ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากการเรียนออนไลน์ทั่วไป ทำให้ละสายตาจากจอไม่ได้เลย บัวได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับเพื่อนจากโรงเรียนอื่น ได้เรียนรู้จากอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัย แม้จะมีความกังวลว่าเนื้อหาจะยากและการทำกิจกรรมออนไลน์จะเป็นอุปสรรค แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี”

 

การกลับมาในฐานะพี่เลี้ยงของบัวเป็นโอกาสที่ดีในการนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากรุ่นที่ 16 มาส่งต่อให้กับน้องๆ รุ่นที่ 17 และยังได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ในรูปแบบ On-Site Activities กับน้องๆ และกิจกรรมของค่ายเพาเวอร์กรีนยังกระตุ้นให้เยาวชนเห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม โดยสามารถเริ่มต้นจากตัวเอง และหลังจากจบค่ายก็นำสิ่งที่ได้รับไปบอกเล่าให้กับผู้อื่น รวมถึงเป็นกระบอกเสียงให้ผู้อื่นตระหนักว่า เราทุกคนคือส่วนสำคัญที่จะช่วยโลกของเราให้น่าอยู่ขึ้นได้ มากไปกว่านั้นค่ายเพาเวอร์กรีนยังเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เรากล้าที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ในอนาคต

 

 

และทั้งหมดนี้คือความในใจของเหล่าพี่เลี้ยงที่สะท้อนให้เห็นว่า อายุและประสบการณ์ไม่ใช่ข้อจำกัดที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาสิ่งแวดล้อม แต่อยู่ที่ความมุ่งมั่นที่อยากจะเห็นโลกเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นต่างหาก ที่จะช่วยให้สิ่งรอบตัวดีขึ้นได้อย่างแท้จริง

 

ก็เหมือนกับที่เครือข่ายเยาวชนสิ่งแวดล้อม เพาเวอร์กรีน ได้ลงมือสานต่อความมุ่งมั่น ส่งต่อประสบการณ์และแนวคิดดีๆ และพร้อมสนับสนุนให้ทุกคนได้พัฒนาตนเอง เติบโตไปเป็นฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายเยาวชนหัวใจสีเขียวกับ ‘บ้านปู’ และ ‘มหิดล’

 

ติดตามความเคลื่อนไหวและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของค่ายเพาเวอร์กรีนที่ https://www.facebook.com/powergreencamp/

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising