×

กทม. เพิ่มช่องทางแจ้งเตือนฝุ่น PM2.5 แจงความคืบหน้าโครงการ ‘ไม่เทรวม’

โดย THE STANDARD TEAM
04.11.2022
  • LOADING...

วานนี้ (3 พฤศจิกายน) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย เอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้านโยบายสิ่งแวดล้อมดี 

 

เอกวรัญญูกล่าวว่า ที่ผ่านมา 4 เดือนใน 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย เรื่อง PM2.5 เป็นแผนที่ได้เตรียมการสำหรับฤดูหนาวนี้, เรื่องการบริหารจัดการขยะ แยกขยะ ตั้งแต่ต้นทาง ผ่านโครงการไม่เทรวม และเรื่องต้นไม้ล้านต้นและสวนสาธารณะ 15 นาที

 

สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการแจ้งเตือนให้คนกรุงรู้ทันสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 กทม. ได้เตรียมแผนรับมือฝุ่น PM2.5 แบ่งเป็น 3 ประเด็นหลัก คือ การเฝ้าระวังติดตาม (Monitor), การลดหรือกำจัดตั้งแต่ต้นตอ (Reduce) เช่น แหล่งที่มาจากโรงงาน การจราจร ควันดำ การเผาในที่โล่ง และการป้องกันสุขภาพ (Protect) 

 

เรื่องแรก การเฝ้าระวังติดตาม (Monitor) สำหรับประชาชนสามารถรับการแจ้งเตือนและรับรู้ข้อมูลข่าวสารผ่าน Traffy Fondue แอปพลิเคชัน LINE ALERT หรือ LINE OA: LINE ALERT ใช้แจ้งเตือนประชาชนเมื่อฝุ่นมีค่าเกิน 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นภาวะวิกฤต (สีแดง) และการเฝ้าระวังติดตาม สำนักสิ่งแวดล้อมได้จัดทำ War Room หรือศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศ 

 

 สามารถดูค่าฝุ่นผ่านแอปพลิเคชัน Air BKK ทิศทางลม การพยากรณ์คุณภาพอากาศ การเผาในที่โล่ง จาก Hot Spot แบบเรียลไทม์ด้วยข้อมูล GISTDA ข้อมูลอื่นๆ เช่น ดูค่าฝุ่นเกินของเขตผ่านกล้องของสำนักการจราจรและขนส่ง  

 

ส่วนการลดหรือกำจัดตั้งแต่ต้นตอ (Reduce) แบ่งเป็น การจราจร มีการตรวจอย่างเข้มงวดตลอดทั้งปี หากค่าฝุ่นต่ำกว่า 37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะดำเนินการตรวจรถยนต์ควันดำ 14 จุดต่อวัน ตรวจรถบรรทุกต่อรถโดยสารประจำทาง 2 วันต่อสัปดาห์ รวมถึงมีการตรวจแพลนต์ปูนและไซต์ก่อสร้างด้วยการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ หากค่าฝุ่นใกล้สถานการณ์วิกฤต (สีส้มหรือสีแดง) จะมีการตรวจเพิ่มขึ้น 

 

โดยจะดำเนินการตรวจรถยนต์ควันดำ 20 จุดต่อวัน ตรวจรถบรรทุก 4 วันต่อสัปดาห์ ในส่วนของโรงงานที่มีจำนวน 1,222 แห่ง มีปัญหาจาก Boiler หรือใช้ถ่านหิน/ก๊าซธรรมชาติในการเผา มีจำนวน 260 แห่ง มีการลงพื้นที่ตรวจร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง  

 

และสุดท้ายภาคการเกษตร ข้อมูลจากสำนักพัฒนาสังคม ปี 2564 จุดเผาผ่านทางดาวเทียม มีจุดทั้งหมด 9 จุดใหญ่ เกิน 1 ไร่ และยังมีจุดเล็กๆ จากการเผาขยะริมทางอยู่บ้าง จึงต้องประสานกับเทศกิจให้เข้มงวด ซึ่งในส่วนของการเกษตรต้องการมีการช่วยเหลือและส่งเสริม ทั้งการนำฟางข้าวออกจากนา การส่งเสริมการใช้จุลินทรีย์ในการย่อยสลาย การนำน้ำเข้านาเพื่อย่อยสลายฟางข้าว อาจต้องมีการสนับสนุนในส่วนนี้มากขึ้นเพื่อลดการเผา 

 

เอกวรัญญูกล่าวต่อว่า ในส่วนของการป้องกันสุขภาพ (Protect) ในโรงเรียน กทม. ได้เริ่มโครงการให้นักเรียนได้เข้าใจเกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 มีคลินิกสู้ฝุ่นในโรงพยาบาลสังกัด กทม. 5 แห่ง เช่น โรงพยาบาลกลาง หรือการแจกหน้ากากอนามัย 

 

ด้านพรพรหมกล่าวว่า กทม. มีปริมาณขยะในปี 2564 สูงถึง 8,979 ตันต่อวัน โดยขยะที่จัดเก็บได้มีองค์ประกอบขยะเป็นเศษอาหารเกือบร้อยละ 50 ดังนั้นในส่วนของครัวเรือนต่อเดือนมีขยะเศษอาหารประมาณ 43.47 กิโลกรัม สัดส่วนขยะอินทรีย์มีถึง 83% แต่ถูกนำไปจัดการน้อยมาก ต้องมีการบริหารจากต้นทางด้วยการจัดเก็บอย่างถูกวิธี  ซึ่ง กทม. มีปลายทางบริหารการจัดเก็บอยู่แล้ว เช่น โรงงาน MBT เปลี่ยนเป็นก๊าซชีวภาพ 800 ตัน โรงงานทำปุ๋ยหมัก 1,600 ตัน ดังนั้นหากลดขยะตั้งแต่ต้นทาง คัดแยก และนำไปใช้ประโยชน์ ก็จะสามารถช่วยลดปริมาณขยะของกรุงเทพฯ ลงได้

 

 จึงเป็นที่มาของการแยกขยะออกเป็น 2 ส่วน คือ ขยะอินทรีย์หรือขยะเศษอาหาร และขยะทั่วไปหรือขยะแห้งที่เป็นขยะรีไซเคิล เช่น ขวดพลาสติก เป็นต้น และได้ริเริ่มโครงการ ‘ไม่เทรวม’ ที่ได้เปิดตัวไปที่สวนลุมพินีเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ดำเนินการในเส้นทางนำร่องของ 3 สำนักงานเขต ได้แก่ เขตหนองแขม เขตพญาไท และเขตปทุมวัน 

 

พรพรหมกล่าวต่อไปว่า การรณรงค์แยกขยะเศษอาหารออกจากขยะทั่วไปรวมทั้งหมด 2,600 ครัวเรือน แยกได้ 2,509 กิโลกรัม คิดเป็น 10% หรือเทียบเป็นรถขยะจำนวน 16 คัน แม้จะดูน้อย แต่มีผลต่อการลดก๊าซเรือนกระจก โดย 50,000 กิโลกรัมสามารถลดคาร์บอนได้ 60 ตัน เทียบกับการผลิตเสื้อยืดจากผ้าคอตตอนได้ 10,000 ตัว เทียบเท่ากับการเดินทางด้วยเครื่องบิน 300,000 กว่ากิโลเมตร จากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ 505 เที่ยว มีผลกับการลดก๊าซเรือนกระจกได้มาก และมี Impact สูง 

 

ในส่วนคนที่ต้องการแยกขยะกับโครงการไม่เทรวมนี้ สามารถลงทะเบียนผ่านทางแอปพลิเคชัน Traffy Fondue เป็นวิธีที่จะเข้าไปหาคนที่ต้องการมีส่วนร่วมที่เรียกว่า Active Citizen ด้วยการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งของ กทม. และภาคเอกชน โดยรณรงค์ให้ประชนมาลงทะเบียนผ่านทาง Traffy Fondue ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ และเปิดตัวโครงการไม่เทรวมด้วยการเก็บขยะตามบ้านเรือนประชาชนทั้ง 50 เขต ในวันที่ 12 ธันวาคม 2565

 

พรพรหมกล่าวด้วยว่า กทม. ได้ดำเนินการเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยนโยบายต้นไม้ล้านต้น ซึ่งขณะนี้มีปลูกไปแล้ว 168,878 ต้น ที่ลงทะเบียนจองปลูกกับ กทม. 1,641,310 ต้น (ข้อมูล ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 เวลา 18.00 น.) หากประชาชนสนใจที่จะปลูกต้นไม้ สามารถดูได้จากคู่มือการปลูกต้นไม้ที่มีคำแนะนำต้นไม้ที่เหมาะสมในพื้นที่ต่างๆ พร้อมลงทะเบียนได้ที่ @tomorrowtree สามารถดูความก้าวหน้าต้นไม้ที่เราปลูกได้ว่าเป็นอย่างไร 

 

นอกจากนั้นได้จัดทำโครงการถนนสวยด้วยการขอให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ส่งข้อมูลว่าต้องการพัฒนาถนนเส้นใด ปัจจุบันมีถนนเข้าร่วมทั้งสิ้น 54 สาย ความยาวประมาณ 138.47 กิโลเมตร เช่น ถนนเสรีไทย ระยะทาง 8.6 กิโลเมตร ซึ่งเป็นถนนที่ร่วมกันพัฒนาระหว่าง 3 เขต ได้แก่ เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว และเขตมีนบุรี, ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เขตสาทร ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการพัฒนาเส้นเกาะกลางถนนให้มีความสวยงาม, ถนนมหาราช เขตพระนคร ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีทางเท้าขนาดกลางที่จะปลูกต้นไม้สีเขียว เพื่อสร้างร่มเงาตลอดถนน ระยะทาง 0.55 กิโลเมตร เป็นโครงการถนนสวยภายใต้โครงการต้นไม้ล้านต้น ฯลฯ

 

เรื่องสวน 15 นาที พรพรหมกล่าวว่า คือการเพิ่มสวนที่เรียกว่า Pocket Park ตามชุมชน จำนวน 64 แห่ง รวม 474 ไร่ แบ่งเป็นโซน กรุงเทพเหนือ 11 แห่ง และกรุงเทพตะวันออก 13 แห่ง เป็นต้น ไม่ได้มีเฉพาะการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว แต่มีกิจกรรมอื่นๆ ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เป้าหมายคือเมืองที่น่าอยู่ 

 

สำหรับเรื่อง Dog Park เดิม กทม. มี Dog Park จำนวน 3 แห่ง คือ สวนวัชราภิรมย์ เขตบางเขน, สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค และสวนเทียนทะเลพัฒนา เขตบางขุนเทียน และได้เปิดให้บริการ ‘พื้นที่สวนน้องหมา’ ที่สวนเบญจกิติ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ซึ่งมีจำนวนสุนัขที่ลงทะเบียน 2,356 ตัว และมีแนวทางการจัดทำ Dog Park แห่งใหม่ ในสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) โดยจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเชิญชวนผู้ที่ใช้บริการภายในสวน ทั้งผู้ที่มีสุนัขและที่ใช้สวนอยู่เป็นประจำแต่ไม่ได้มีสุนัข เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็น ในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เวลา 16.00 น. บริเวณศาลาแดง (ริมบึงน้ำ) ประตู 1 สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X