บางจากปรับโครงสร้างธุรกิจ เสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมด ถอนหุ้นโรงกลั่นศรีราชา หรือ BSRC ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แลกเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบางจาก ด้วยอัตราการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ที่ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบางจาก ต่อ 6.50 หุ้นสามัญของ BSRC พร้อมเผยรายได้ปี 2567 หลังควบรวมกิจการทุบสถิติใหม่ 5.8 แสนล้าน ยอดขายน้ำมันทะลุเป้า 13,814 ล้านลิตร เติบโต 61% สูงสุดเป็นประวัติการณ์
วันนี้ (21 กุมภาพันธ์) บริษัท บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP รายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2568 มีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มบริษัทบางจาก ผ่านการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) (BSRC) ที่ถือโดยผู้ถือหุ้นรายอื่น ไม่เกินจำนวน 631,859,702 หุ้น (คิดเป็น 18.3% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ BSRC)
โดยแลกกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบางจาก (Share Swap) ด้วยอัตราการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ที่ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบางจาก ต่อ 6.50 หุ้นสามัญของ BSRC และ หากมีเศษหุ้นจากการคำนวณหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบางจาก จะมีการปัดเศษหุ้นนั้นทิ้ง
การทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญดังกล่าว รวมคิดเป็นจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบางจากไม่เกิน 97,209,185 หุ้น โดยจะไม่มีการชำระค่าตอบแทนในรูปแบบของตัวเงิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ESSO ถึงตอนอวสาน 31 ส.ค. นี้ ปิดตำนาน 129 ปี ปั๊มน้ำมันสัญชาติอเมริกันในประเทศไทย สู่บทใหม่ที่ชื่อ ‘บางจาก’
- ‘เอสโซ่’ เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ‘บางจาก ศรีราชา’ ใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า BSRC
- จับตาก้าวต่อไป ‘บางจาก’ หลังผู้ถือหุ้น 99% ไฟเขียวดีลซื้อ ‘เอสโซ่’ ลุยปรับโฉมโลโก้ปั๊มใหม่ทั่วประเทศ
อีกทั้งได้ประกาศแผนการเพิกถอนหุ้นของ BSRC จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดว่าแผนการปรับโครงสร้างดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปี 2568
ทั้งนี้ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) (BSRC) เป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นปิโตรเลียมและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแบบครบวงจร (Integrated) ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและอะโรเมติกส์ที่ศรีราชา เครือข่ายคลังน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ
โดยข้อมูลสมุดทะเบียน ณ วันที่ 4 กันยายน 2567 มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรก ดังนี้
- บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 78.97%
- กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 4.08%
- กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 4.08%
- SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED ถือหุ้น 1.22%
- กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง ถือหุ้น 0.72%
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทบางจาก จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทบางจาก ให้เพิ่มความแข็งแกร่งของผลประกอบการทางการเงิน ทำให้โครงสร้างการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทบางจากมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ลดความซับซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้น และเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน ลดกระบวนการทำงานที่ซ้ำซ้อน
นอกจากนี้ การทำคำเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นของ BSRC ด้วยวิธีการแลกกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบางจาก เป็นการเปิดโอกาสให้แก่ผู้ถือหุ้น BSRC ได้ถือหุ้นบางจาก ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่มีความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงิน
ทั้งในด้านผลประกอบการที่เติบโตอย่างมั่นคง มี EBITDA ระดับ 4 หมื่นล้านบาทต่อเนื่อง และฐานะทางการเงินที่แข็งแรง โดยมีขนาดของสินทรัพย์ระดับกว่า 3 แสนล้านบาท ประกอบกับมีศักยภาพในการเติบโตจากธุรกิจหลักที่มีความหลากหลาย ภายใต้แนวคิด Bangchak 100X เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย EBITDA 1 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 และการเติบโตเป็นองค์กรที่ยั่งยืน 100 ปีคู่สังคมไทย
โดยผู้ถือหุ้น BSRC ยังคงมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ BSRC ในทางอ้อมผ่านการถือหุ้นในบางจาก พร้อมทั้งมีสภาพคล่องในการลงทุนที่สูงขึ้นจากมูลค่าตลาด (Market Capitalization) ที่ใหญ่ขึ้น
สำหรับธุรกรรมการปรับโครงสร้างผ่านการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดและเพิกถอนหุ้น BSRC ดังกล่าว อยู่ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ รวมถึงการได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ของบางจาก ในวันที่ 11 เมษายน 2568 และการได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ของ BSRC ในวันที่ 9 เมษายน 2568
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทบางจากรายงานผลการดำเนินงานปี 2567 สร้างสถิติใหม่ของรายได้จากการขายและการให้บริการ มีรายได้ 589,877 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากปีก่อน EBITDA 40,409 ล้านบาท พร้อมบันทึกรายได้และยอดปริมาณจำหน่ายน้ำมันสูงเป็นประวัติการณ์ 13.8 ล้านลิตร รวมถึงสามารถสร้าง Synergy สูงถึง 6,071 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายเท่าตัว โดยมีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 2,184 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.30 บาท
ยอดขายน้ำมันโต 61% ท่ามกลางความท้าทายของราคาน้ำมันโลกผันผวน
ชัยวัฒน์เปิดเผยอีกว่า “แม้ปี 2567 จะเป็นปีที่เผชิญกับความผันผวนของราคาน้ำมัน และค่าการกลั่นที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้กำไรปรับตัวลดลงจากปีก่อน กลุ่มบริษัทบางจากยังคงสร้างสถิติใหม่ของรายได้จากการขายและการให้บริการ 589,877 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่อง 53% EBITDA 40,409 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (ที่ไม่รวมรายการพิเศษ) 6,120 ล้านบาท ผ่านการขับเคลื่อนของ 5 กลุ่มธุรกิจ
“โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการตลาด ที่มีปริมาณการจำหน่ายน้ำมัน 13,814 ล้านลิตร เติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่า 61% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ การรับรู้ Synergy สูงถึง 6,071 ล้านบาท เหนือกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 2,500 ล้านบาท หลังจากการควบรวมกิจการและรับรู้รายได้เต็มปีของบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) (BSRC)
ดังนั้นการดำเนินธุรกิจดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและประสิทธิภาพของกลยุทธ์ที่กลุ่มบริษัทได้วางไว้ ทั้งศักยภาพและความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน” ชัยวัฒน์กล่าว
ด้าน ภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน กล่าวว่า ในปี 2567 กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มี EBITDA 5,006 ล้านบาท ปรับลดลง 62% มีอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 258,000 บาร์เรลต่อวัน เติบโตกว่า 16% จากปีก่อน
แม้ว่าโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง จะมีการปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นตามวาระ (Turnaround Maintenance) ในรอบ 3 ปี เมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 แต่กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นศรีราชา สามารถดำเนินการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 147,800 บาร์เรลต่อวัน จากปี 2566 ที่ 101,900 บาร์เรลต่อวัน หนุนกำลังการผลิตของกลุ่มบริษัทบางจากเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความท้าทายของราคาน้ำมันที่ผันผวนจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว