×

กระทรวงเกษตรฯ เล็งขยายเวลาจัดการ 3 สารเคมีไปอีก 6 เดือน ชี้ผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายตั้งตัวไม่ทัน

25.11.2019
  • LOADING...

วันนี้ (25 พฤศจิกายน) อนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิด กล่าวถึงข่าวที่ระบุว่าคณะทำงานฯ จะเสนอของบประมาณเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิดได้แก่ อ้อย, มันสำปะหลัง, ปาล์มน้ำมัน, ยางพารา, ข้าวโพด และไม้ผล สูงถึง 33,000 ล้านบาทนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน 

 

โดยตัวเลขดังกล่าวทางสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร หรือ สศก. ได้ประเมินต้นทุนของของเกษตรกรที่หากยกเลิกใช้ 3 สารแล้วต้องปรับเปลี่ยนไปใช้สารอื่นและเครื่องจักรกลการเกษตรแทนแล้วรายงานมาให้ทราบ ไม่ใช่เป็นข้อสรุปว่า กระทรวงเกษตรฯ จะของบประมาณจากรัฐบาล 33,000 ล้านบาทไปจ่ายเป็นค่าชดเชยแก่เกษตรกร 

 

นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหาแนวทางการช่วยเหลือที่เหมาะสมเพื่อประชุมอีกครั้งในต้นสัปดาห์นี้ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะนำเรียน เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาต่อไป

 

ขณะที่กรมวิชาการเกษตรได้ประเมินระยะเวลาการดำเนินการกับสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ทั้งการแจ้งการครอบครองและการจัดเก็บ หากประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่อง การปรับสถานะ 3 สารเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 

 

ซึ่งตามขั้นตอนกรมวิชาการเกษตรต้องเปิดรับแจ้งการครอบครองภายใน 15 วัน และต้องให้ผู้ครอบครองนำมาส่งมอบภายใน 15 วันหลังการแจ้ง ซึ่งเหลือเวลาเพียง 8 วันนั้นกระชั้นชิดมาก ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการนำเข้าและผลิต และร้านจำหน่ายตั้งตัวไม่ทัน อีกทั้งกระบวนการจัดการกับสารเคมี 3 ชนิดซึ่งมีอยู่เกือบ 30,000 ตันนั้น กรมวิชาการเกษตรระบุว่า ต้องใช้เวลาถึง 6 เดือน จึงจะเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งจะประชุมในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายยกเลิกออกไป 6 เดือน แต่ทั้งนี้การพิจารณาขึ้นอยู่กับคณะกรรมการวัตถุอันตราย

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising