วันนี้ (22 ตุลาคม) กลุ่มเครือข่ายภาคเกษตรกรจากหลายจังหวัดนัดรวมตัวกันบริเวณลานห้องโถงตึกกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมส่งตัวแทนแต่ละฝ่ายยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการวัตถุอันตราย เพื่อพิจารณาให้ยกเลิกการแบน 3 สารเคมีทางการเกษตร ประกอบด้วย พาราควอต, คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต
ด้วยเหตุผลหลักที่จะกระทบต่อเกษตรกรในฐานะผู้ผลิตพืชผลทางการเกษตรในระยะยาว รวมถึงผู้บริโภคที่อาจต้องแบกรับผลกระทบจากประเด็นนี้ด้วย
อัญชลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง หนึ่งในตัวแทนเครือข่ายต่อต้านการแบน 3 สารเคมี ระบุว่า จุดยืนของหน่วยงานภาคเกษตรกรต่างๆ ที่เดินทางมายังกระทรวงอุตสาหกรรมในครั้งนี้คือ เพื่อให้กำลังใจคณะกรรมการวัตถุอันตรายให้ตัดสินใจลงมติในแบบอิสระ โดยปราศจากผลประโยชน์ทางการเมือง และยืนหยัดในหลักการความเป็นจริงของหลักวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง
“หากถามว่า สารเคมีทุกวันนี้อันตรายหรือไม่ ก็ต้องยอมรับเลยว่า ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีที่เกิดจากคนหรือเกิดจากพืช ล้วนแต่มีพิษทั้งสิ้น แต่พิษที่เกิดจากการใช้งานผิดวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะพาราควอต เกษตรกรตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน ไม่มีเกษตรกรคนใดได้รับพิษจากสารพาราควอตเลยตามที่ถูกพูดถึง จะมีเพียงแต่ผู้ที่คิดฆ่าตัวตายเท่านั้นที่นำพาราควอตไปกิน ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นการใช้ผิดวัตถุประสงค์ของสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ดังนั้นการนำเหตุผลที่คนนำมาดื่มฆ่าตัวตายเป็นเหตุผลในการแบนสารเหล่านี้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรมกับเกษตรกร”
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามต่อถึงเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตว่า หากสารเคมีทั้ง 3 ชนิดที่นำเข้าที่ประชุม ถูกลงมติให้มีการยกเลิกใช้จริง ในฐานะตัวแทนเกษตรกรผู้คัดค้านจะทำอย่างไรต่อไป
ทางประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลองกล่าวว่า “หากมีการแบนเกิดขึ้นจริงในวันนี้จะมีการยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอความคุ้มครองชั่วคราว ก่อนจะนำส่งหลักฐานชิ้นใหม่ต่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้พิจารณาข้อมูลอีกครั้ง โดยข้อมูลชุดใหม่ที่หามาได้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยหลายชิ้นที่ฝ่ายต้องการแบนสาร 3 ชนิด เสนอมาเป็นเรื่องเท็จ เนื่องจากงานเหล่านั้นไม่มีการวิจัยจริง”
อย่างไรก็ตาม ภายในวันนี้ เวลา 14.00 น. โดยประมาณ มีการคาดการณ์ว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะมีการแถลงสรุปผลวาระการประชุมครั้งสำคัญ พร้อมเปิดเผยผลมติที่ประชุมชี้ชะตาว่า ท้ายที่สุด 3 สารเคมีทางการเกษตรจะถูกแบนหรือไม่