ถึงผลพวงจากการระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงกดดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอยู่ สะท้อนจากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ระบุว่า ในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน 2563 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทย 6.69 ล้านคน ลดลง 22.77 ล้านคน หรือ 77.29% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีรายได้เท่ากับ 3.32 แสนล้านบาท ลดลง 1.10 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 76.77%
แต่ “เราต้องเตรียมพร้อมก่อนที่นักท่องเที่ยวจะกลับมา” วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าว ดังนั้น AWC จึงตัดสินใจเคาะฤกษ์วันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ในการเปิดตัว ‘บันยันทรี กระบี่’ โรงแรม 5 ดาวแห่งใหม่ ซึ่งเดิมนั้นมีกำหนดเปิดตัวในช่วงเดือนเมษายน แต่มาเจอการระบาดของโรคโควิด-19 เสียก่อน
สาเหตุที่เลือก ‘กระบี่’ เพราะเป็นจังหวังที่กำลังเติบโต ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยว 7 ล้านคน เป็นลำดับที่ 8 ของประเทศ แต่สามารถทำรายได้จากการท่องเที่ยวได้เป็นลำดับที่ 4 ด้วยมูลค่ากว่า 115,000 ล้านบาท เติบโตปีละ 20% จาก 5 ปีก่อน ซึ่งมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพียง 40,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันแม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะมีไม่มากเท่ากับเชียงใหม่ แต่ค่าใช้จ่ายต่อหัวกลับมากกว่า และเป็นรองเพียง กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยาเท่านั้น
ขณะเดียวกันยังมีการขยายสนามบินนานาชาติกระบี่ เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 8 ล้านคนต่อปี เพิ่มจาก 4 ล้านคนต่อปีในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2565 โครงการโครงข่ายเชื่อมโยงเส้นทางเดินเรือภูเก็ต-พังงา-กระบี่ หรือ ‘วงแหวนแห่งอันดามัน’ ของกรมเจ้าท่า โดยการเปิดเส้นทางเดินเรือเฟอร์รี 5 เส้นทาง เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างภูเก็ต พังงา กระบี่ เกาะลันตา และเกาะอื่นๆ ในพื้นที่ข้างเคียง และโครงการรถไฟรางคู่สายใหม่ เส้นทางภูเก็ต พังงา และสุราษฎร์ธานี เป็นต้น ทำให้ในอนาคต ‘กระบี่’ จะมีศักยภาพเป็นอย่างมาก
‘บันยันทรี กระบี่’ ถือเป็นโรงแรม 5 ดาวแห่งใหม่ในรอบ 10 ปีของหาดทับแขก ซึ่ง AWC ได้ที่ดินผืนนี้มาในปี 2549 หรือ 14 ปีก่อน ซึ่ง “ตอนแรกจะทำเป็นเรสซิเดนซ์ แต่เนื่องจากไม่ได้สร้างรายได้ระยะยาว เลยตัดสินใจจะสร้างรีสอร์ตแทน ด้วยที่ดินไม่ใหญ่มากจึงต้องสร้างให้ยูนีก” แม่ทัพ AWC กล่าว โดยใช้งบลงทุนทั้งหมด 2,000 ล้านบาท และใช้เวลา 2 ปีในการก่อสร้าง
บนที่ดิน 26 ไร่ ซึ่งอยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาหงอนนาค ถูกพัฒนาเป็นพูลวิลล่าริมทะเล (Pool Villa) และห้องพูลสวีท (Pool Suite) รวม 72 ห้อง ห้องพักทั้งหมดมีสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือส่วนตัว โดยมีห้องพักให้เลือกถึง 7 แบบ เริ่มจาก ดีลักซ์ พูล สวีท ขนาด 99 ตารางเมตร ไปจนถึงเพรสซิเดนเชียล บีชฟรอนต์ พูลวิลล่า ที่มีขนาด 587 ตารางเมตร โดยมีราคาเริ่มต้น 20,000-150,000 บาทต่อคืน
การเปิดตัวโรงแรมบันยันทรี กระบี่ ส่งผลให้ AWC มีโรงแรมที่เปิดดำเนินการทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 17 แห่งเป็น 18 แห่ง ด้วยจำนวนห้องพักทั้งหมดจาก 4,869 ห้องเป็น 4,941 ห้อง ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในกระแสเงินสดจากกลุ่มธุรกิจโรงแรม และการบริการ (Hospitality) ด้วยการสร้างความหลากหลายให้กับแบรนด์พอร์ตโฟลิโอของ AWC
อย่างไรก็ตาม ในโอกาสที่เดินทางมาเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ วัลลภายังได้เดินทางไปดูที่ดินผืนใหม่ในกระบี่ ซึ่งมีผู้นำมาเสนอขายด้วย โดยยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดที่ตั้งหรือจำนวนพื้นที่ บอกแต่เพียงว่า หากจะมีการพัฒนาก็จะปรึกษากับทางจังหวัดกระบี่ก่อน เนื่องจากต้องการทำให้เป็น ‘แม่เหล็ก’ สำหรับดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มบนที่มีกำลังซื้อ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์