×

หุ้นไทยปิดบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย ได้ปัจจัยหนุนจากทรัมป์ยืนยันพบผู้นำจีนเพื่อเจรจาการค้าในเวที G20

19.06.2019
  • LOADING...

ดัชนี SET ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,705.98 จุด เพิ่มขึ้น 22.38 จุด หรือ 1.33% มูลค่าการซื้อขาย 107,568.94 ล้านบาท

 

ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนี SET ปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก โดยได้ปัจจัยบวกจากการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากการตั้งรัฐบาลใกล้ได้ข้อสรุป ขณะที่สถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นนำของโลก ทั้ง Fitch Ratings และ Moody’s ต่างแสดงความเห็นในทางบวกต่อการเมืองไทย  

 

ส่วนปัจจัยต่างประเทศเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (18 มิ.ย.) ตามเวลาไทย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ยืนยันว่า เขาและประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนจะประชุมกันนอกรอบในเวทีซัมมิต G20 ที่นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้า เพื่อเจรจาแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าไปได้มาก หลังทรัมป์เคยออกมาขู่ว่า หากสีจิ้นผิงไม่ยอมมาเจรจากับเขาในเวทีดังกล่าว ทรัมป์อาจตัดสินใจขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนครอบคลุมมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญ

 

นอกจากนี้ ผลบวกทางจิตวิทยาของตลาดคือ หลังดัชนีฯ ผ่าน 1,680 จุดขึ้นไปได้เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 ทำให้เกิดแรงซื้อรอบใหม่เพิ่มขึ้นด้วย

 

นอกจากตลาดหุ้นไทยที่ได้แรงหนุนจากท่าทีที่เป็นบวกของสองผู้นำโลกแล้ว ตลาดหุ้นสำคัญทั่วเอเชียก็ขานรับข่าวดีโดยปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้า โดยดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ทะยานขึ้น 2.4% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปรับตัวขึ้น 1.8% แม้ว่าตัวเลขส่งออกเดือนพฤษภาคมของญี่ปุ่นจะหดตัวลง ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน พุ่งขึ้น 1.5%, ดัชนีคอสปี ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.2% ขณะที่ตลาดหุ้นสิงคโปร์, ไต้หวัน, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ต่างก็ปิดในแดนบวกเช่นกัน

 

ในภาพรวม ตลาดทั่วโลกยังได้ปัจจัยบวกหลังจากที่ มาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า ECB พร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยและดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากจำเป็น ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรอีกครั้งตามนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย   

 

ส่วนความเคลื่อนไหวที่น่าจับตานั้น ตลาดการเงินทั่วโลกคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะออกมาส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) โดยคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดอาจเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้มากถึง 97% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ หลัง เจอ โรม เพาเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แสดงท่าทีพร้อมใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหากมีความจำเป็น

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising