การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน 2565 ปิดฉากลงไปในช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา และส่งมอบชะลอมแก่เจ้าภาพครั้งถัดไปคือสหรัฐอเมริกา
การประชุมครั้งนี้มีผู้นำและผู้แทนจากสมาชิกทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ (19 ประเทศ 2 เขตเศรษฐกิจ) ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจที่สำคัญ เข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นอกจากนี้ยังมีแขกพิเศษที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วยคือ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส รวมทั้งมกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรี เจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด แห่งซาอุดีอาระเบีย
แต่หนึ่งในสีสันนอกการประชุม APEC ครั้งนี้ที่ถูกพูดถึงคือยานพาหนะของ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน นั่นคือรถยนต์หรู ‘Hongqi’ (หงฉี) เป็นรถประจำตำแหน่งสัญชาติจีนที่ไว้ใช้ในงานพิธีสำคัญของประธานาธิบดีจีนตลอดช่วงที่ผ่านมา ที่นำขึ้นเครื่องบินมาพร้อมกับ สีจิ้นผิง สำหรับใช้ในการเดินทางในช่วงการประชุม APEC 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
THE STANDARD ชวนผู้อ่านทำความรู้จักรถยนต์หรู Hongqi และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของแบรนด์รถยนต์หรูสัญชาติจีนที่ถูกใช้ต่อกันมาในผู้นำสูงสุดของจีนในช่วงที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก FAW Thailand ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ค่าย FAW ของประเทศจีน ระบุข้อมูลเกี่ยวกับ Hongqi ว่า Hongqi (หงฉี) ในภาษาไทยแปลว่า ‘ธงแดง’ ก่อตั้งในปี 1959 หรือ 63 ปีที่แล้ว เป็นแบรนด์รถยนต์นั่งที่เก่าแก่ที่สุดของจีน
Hongqi เป็นรถยนต์จีนที่ผู้ใหญ่ระดับสูง ผู้นำของพรรค หรือผู้นำระดับประเทศที่ไปเยือนประเทศจีนได้ใช้งาน ที่ผ่านมา Hongqi ผ่านการถูกนำไปใช้ในวันชาติจีนและพิธีใหญ่ๆ ของจีนมาโดยตลอดตั้งแต่ยุคผู้นำ เหมาเจ๋อตุง จนถึงยุคผู้นำ สีจิ้นผิง
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุว่า FAW Group หนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์ที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดของจีนคือ Hongqi เป็นบริษัทรถยนต์รายใหญ่ที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ เดิมมีภารกิจผลิตรถยนต์เพื่อให้บรรดาผู้นำรัฐบาลจีนใช้ ต่อมาเริ่มผลิตจำหน่ายทั่วไปด้วยและมีตัวแทนจำหน่ายในไทยคือ FAW Thailand
สำหรับรถยนต์ที่ สีจิ้นผิง ใช้ในการเดินทางช่วงประชุม APEC ที่กรุงเทพฯ คือ Hongqi รุ่น N701 ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุด หุ้มเกราะ สั่งทำพิเศษเฉพาะผู้นำเพียงคันเดียวเท่านั้น ไม่มีวางจำหน่าย และส่งตรงจากจีน เป็นรถยนต์ที่ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ใช้ประจำ และยังนำไปใช้ในการประชุม G20 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ก่อนเดินทางมายังประเทศไทย
Hongqi N701 ยังไม่เคยเผยแพร่ภาพภายในของรถ ระบบขับเคลื่อน และอุปกรณ์ ให้เห็นแต่อย่างใด แต่มีรายงานระบุว่า Hongqi N701 นั้นมีโครงสร้างแบบเดียวกับ Hongqi H9 รุ่นที่มีจำหน่ายทั่วไป เป็นซีดานขนาดกลางที่หรูหรา มีการดีไซน์รูปลักษณ์อย่างผสมผสาน ด้านหลังเหมือน Cadillac XTS ด้านหน้าเหมือน Rolls-Royce กระจังโครเมียมขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยแถบไฟ LED ที่วิ่งจรดขอบใน
ขณะที่ไฟหน้าเป็นชุด LED Matrix โลโก้ธงของ Hongqi มือจับประตูแบบผุดขึ้นและชุดล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว เพื่อให้เข้ากับมิติที่กว้างขวางของซีดานหรู โดยตั้งเป้าเป็นคู่แข่งกับ Mercedes E-Class, Audi A6 และ BMW 5 Series
FAW Thailand ระบุอีกว่า เดิมคิดว่า Hongqi H9 เป็นรถสำรองที่จะเป็นยานพาหนะสำหรับ สีจิ้นผิง เนื่องจากรถยนต์รุ่นนี้เพิ่งถูกส่งมาจากประเทศจีนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะนั้นทางการจีนไม่ได้แจ้งว่าส่งมาเพื่อใช้ในภารกิจใด แต่ทางบริษัทได้ดูแลรวมถึงเตรียมพร้อมเต็มที่ และขณะนี้แม้จะไม่ได้ใช้ต้อนรับ สีจิ้นผิง แต่ได้ส่งมอบต่อสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อใช้งานแล้ว
จุดเด่นของ Hongqi H9
- เครื่องยนต์: V6 Mechanically Supercharged Direct Injection
- CC: 3,000
- แรงม้า: 279HP
- ความเร็วสูงสุด: 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- จำนวน 4 ที่นั่ง
- Wheelbase: 3,060
- ยาง: 245/40 R20
- เกียร์: ออโต้
- ขนาดของรถ: กว้าง 1,904 มิลลิเมตร, ยาว 5,137 มิลลิเมตร, สูง 1,493 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์มี 2 รุ่น
- เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ กำลังสูงสุด 252 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 7.8 วินาที
- เครื่องยนต์เบนซิน V6 สูบ 3.0 ลิตร ขนาด 272 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 7.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม สีจิ้นผิง ใช้รถ Hongqi N701 ในการเดินทางครั้งสุดท้ายบนแผ่นดินไทย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (วันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2565) ซึ่งก่อนกลับประเทศจีน สีจิ้นผิง ได้เข้าทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ อีกทั้งมีการหารือกระชับความพันธ์ไทย-จีน
สีจิ้นผิง ระบุในการหารือวันนี้ว่า พร้อมให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย เพราะจีนและไทยไม่ใช่อื่นไกล คือพี่น้องกัน จีนพร้อมร่วมมือสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองและอนาคตร่วมกัน เปิดศักราชใหม่ของความร่วมมือ เพื่อผลประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ และรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนเดินทางไปสนามบินเพื่อกลับประเทศจีน ปิดฉากจีนเยือนไทยในรอบ 11 ปี
ภาพ: ณาฌารัฐ ภักดีอาสา
