×

AOTGA – AOT – กรมศุลกากร ทุ่ม 150 ล้าน เปิดศูนย์มัลติโมดอล ขนส่งครบวงจร เชื่อมต่อทางบก ราง น้ำ อากาศ แบบไร้รอยต่อ

05.09.2024
  • LOADING...

AOTGA – AOT – กรมศุลกากร ผนึกกำลังครั้งสำคัญ ทุ่ม 150 ล้านบาท เปิด ‘ศูนย์มัลติโมดอล’ เชื่อมการขนส่งแบบไร้รอยต่อ บก ราง น้ำ อากาศ ผ่านด่านศุลกากรจบในจุดเดียว ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยสู่สากล หวังรองรับการขนส่งสินค้ากว่า 5 หมื่นตันต่อปี คาดปี 2568 สร้างรายได้ 80 ล้านบาท

 

บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA ร่วมกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และกรมศุลกากร เปิดตัว ‘ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า’ หรือ ‘Multimodal Transportation Center’ ศูนย์บริการขนส่งสินค้าผ่านแดนครบวงจร รองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ พร้อมดำเนินพิธีการศุลกากรได้เบ็ดเสร็จในที่เดียว ณ เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (โซน 3) เป็นครั้งแรกในไทย

 

โดยศูนย์นี้สามารถรองรับปริมาณการขนส่งได้กว่า 5 หมื่นตันต่อปี ซึ่งล่าสุดได้จับมือ 3 ยักษ์ใหญ่ ได้แก่ FedEx, DHL และ AGS ไปแล้ว

 

สิริวัฒน์ โตวชิรกุล ผู้จัดการใหญ่ AOTGA ซึ่งเป็นผู้ให้บริการภาคพื้นท่าอากาศยาน และบริการคลังสินค้าในท่าอากาศยาน (Cargo Terminal) เปิดเผยว่า AOTGA ได้เปิดตัว ‘ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า’ หรือ ‘Multimodal Transportation Center’ ณ เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (โซน 3) จากที่กรมศุลกากรได้อนุญาตให้ AOT เป็นผู้จัดตั้งศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า และ AOT ได้มอบหมายให้ AOTGA เป็นผู้ดำเนินการศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้านั้น นับเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยอย่างไม่เคยมีมาก่อน

 

ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า หรือ Multimodal Transportation Center ณ เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (โซน 3)

 

โดยศูนย์นี้มีจุดเด่นคือการผนวกรูปแบบการขนส่งทุกประเภท ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ การรวมตู้สินค้าและการเก็บรักษา พร้อมดำเนินพิธีการทางศุลกากรเบ็ดเสร็จในจุดเดียว สร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ หนุนการเติบโตของ E-Commerce ยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคอย่างแท้จริง

 

สำหรับงบลงทุน ศูนย์นี้ใช้งบลงทุนกว่า 150 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 4,872 ตารางเมตร ศูนย์มัลติโมดอลแบ่งเป็นพื้นที่ให้บริการ 2 ส่วน ได้แก่

 

  1. Fixed Area พื้นที่สำหรับผู้ประกอบการขนส่งภาคเอกชนที่เป็นผู้ร่วมประกอบกิจการศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า
  2. Public Area พื้นที่ที่ทาง AOTGA ให้บริการเอง

 

พื้นที่ภายในศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า

 

ทั้งนี้ ตั้งเป้าให้บริการกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนส่งทั้งในและต่างประเทศที่เป็นตัวแทนในการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) และผู้ประกอบการของเร่งด่วน (Express Consignment) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นจากการมุ่งเน้นใช้ประเทศไทยเป็นฮับในกลุ่มประเทศ CLMV และโฟกัสไปยังกลุ่มสินค้า E-Commerce จากปัจจัยเกื้อหนุนด้านการบิน และเครือข่ายการบินที่เชื่อมโยงสู่ทวีปอื่นๆ โดยเฉพาะทวีปยุโรป

 

นอกจากนี้ AOTGA ยังได้นำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาให้บริการในศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า อาทิ ระบบติดตามทางศุลกากรจากด่านศุลกากรมายังศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้าด้วยระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ (E-Lock System) และระบบควบคุมสินค้าคงคลัง (E-Inventory)

 

“หลังจากเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ บริษัทมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดการณ์ว่าในปี 2568 รายได้จะแตะ 80 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 10-15% ส่วนลูกค้าที่ AOTGA ได้ทำการพูดคุยเพื่อรวมในธุรกิจบริการขนส่งนี้มีบริษัทที่สนใจเข้าร่วมแล้วประมาณ 10 ราย” สิริวัฒน์กล่าว

 

สิริวัฒน์ โตวชิรกุล

สิริวัฒน์ โตวชิรกุล ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA

 

สิริวัฒน์กล่าวถึงภาพรวมผลการดำเนินงานของ AOTGA ว่า คาดการณ์รายได้ปีนี้ (สิ้นสุดเดือนกันยายน) จะอยู่ที่ราว 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการภาคพื้นดินอยู่ 2,500 ล้านบาท และบริการทำความสะอาด อาทิ ห้องน้ำ พื้นสนามบิน อยู่ที่ 500 ล้านบาท โดยรายได้ของ AOTGA ที่ผ่านมานับตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโควิดมีการเติบโตที่โดดเด่นอย่างมาก

 

และสำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 3,800-3,900 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของบริการภาคพื้นในสนามบินภูเก็ต จากการที่จำนวนเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้นตามฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) ในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน รวมไปถึงรัฐบาลมีการโปรโมตการท่องเที่ยวร่วมด้วย

 

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของ AOTGA จะมาจากสนามบินภูเก็ต 60-70% รองลงมาคือดอนเมือง อยู่ที่ 30% ขณะที่สนามบินสุวรรณภูมินั้นยังมีการสร้างรายได้ที่น้อยอยู่ เนื่องจาก AOTGA ยังไม่ได้ประมูลงานภายในสนามบิน

 

อย่างไรก็ตาม หากมีการเปิดประมูลงานภายในสนามบินสุวรรณภูมิ อาทิ บริการขนส่งสินค้า (Cargo) และบริการภาคพื้น บริษัทก็มีความพร้อมที่จะยื่นประมูล เพราะมั่นใจในประสบการณ์การดำเนินงาน และหากได้รับคัดเลือก AOTGA ประเมินว่าจะต้องใช้เงินในการลงทุนช่วงแรกราว 1,000 ล้านบาท

 

ด้าน พันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมศุลกากร เผยว่า การจัดตั้ง ‘ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า’ หรือ ‘Multimodal Transportation Center’ ณ เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (โซน 3) จัดตั้งขึ้นตามประกาศกรมศุลกากรที่ 115/2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า และเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค ซึ่งนับเป็นความร่วมมือที่สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่จะช่วยสนับสนุนกระบวนการนำเข้าและส่งออกสินค้าให้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

 

พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน ช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินพิธีการทางศุลกากร ทำให้ Ecosystem มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งกรมศุลกากรมีความยินดีให้การสนับสนุนภาคเอกชนและตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าในระดับภูมิภาค

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising