เข้าคลาสเรียนทำช็อกโกแลตไปกับเชฟ Amaury Guichon ในซีรีส์อาหาร School of Chocolate

ถึงจะไม่ได้ทำขนมเป็นด้วยตัวเอง แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบกินขนม โดยเฉพาะช็อกโกแลต คุณก็อาจจะคุ้นเคยอยู่บ้างว่าคุณสามารถทำอะไรกับช็อกโกแลตได้มากมายผ่านเทคนิคเฉพาะทาง และอุณหภูมิที่แตกต่างที่ต้องอาศัยการฝึกฝนมาอย่างดี 

แต่นั่นเป็นเพียงคำกล่าวที่เรียกว่าน้อยที่สุดก็ว่าได้ หากเทียบกับความเป็นไปได้ของช็อกโกแลต และถ้าคุณอยากรู้ว่ามันขนาดไหน เราขอแนะนำให้เปิด Netflix สุดสัปดาห์นี้แล้วเรียนรู้เรื่องช็อกโกแลตให้มากกว่าเดิมไปกับรายการน้องใหม่ School of Chocolate 

School of Chocolate เป็นรายการแข่งขันทำขนมที่ได้โฮสต์อย่างเชฟอเมารี กีช็ง (Chef Amaury Guichon) เชฟขนมหวานชาวฝรั่งเศส ที่แม้อายุจะยังน้อย แต่ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในมาสเตอร์เรื่องช็อกโกแลตคนสำคัญคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ทั้งจากประสบการณ์การทำขนมของเชฟที่ต่อเนื่องยาวนานกว่า 15 ปี เชฟอเมารีก็ยังเป็นคุณครูผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนทำขนม The Pastry Academy ในลาสเวกัส ส่วนอีกอย่างที่สำคัญคือการทำขนม โดยเฉพาะช็อกโกแลต ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของเขาทั้ง YouTube, Facebook, Instagram และ TikTok ที่ทั้งอลังการจนแทบไม่เชื่อว่าคนเราจะทำช็อกโกแลตออกมาขนาดนี้ได้อย่างไร ซึ่งเราเชื่อว่าต่อให้คุณจะไม่เคยติดตามเชฟโดยตรง ก็ต้องเคยเห็นผ่านตาบ้างแน่นอน 

นอกเหนือจากพื้นฐานการทำขนมและสร้างสรรค์ช็อกโกแลตแล้ว เชฟใช้เทคนิคเหล่านั้นครีเอตสิ่งที่บียอนด์กว่าเดิม อย่างการทำขนมเลียนแบบรูปทรงอย่างอื่นให้เหมือนจริง (Desserts in Disguise) อย่างแท่งดินสอสีเหลือง ที่สามารถเขียนได้จริงด้วย แต่ตัดออกมาเป็นพายมะนาวที่เคลือบช็อกโกแลตอีกที หรือขนมวานิลลาคาราเมลที่ซ่อนอยู่ภายในช็อกโกแลตรูปวิทยุวินเทจ นี่เป็นแค่ตัวอย่างของขนมชิ้นเล็กๆ เพราะรูปปั้นไซส์ใหญ่ที่เหมือนจริงก็มีให้เห็นตลอดเวลาเช่นกัน 

เมื่อเราเห็นความสร้างสรรค์และเทคนิคที่มากมายของเชฟแล้ว สิ่งเหล่านั้นถูกนำมาใช้ในรายการ School of Chocolate ที่ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 8 จะต้องรังสรรค์ขนมของตัวเองออกมาตามโจทย์ในแต่ละสัปดาห์ โดยที่เชฟอเมารีจะสอนเทคนิคก่อนเริ่มแข่ง และคอยเป็นที่ปรึกษา คอยตรวจสอบไอเดียว่าดีหรือยัง จนกระทั่งขนมถูกส่งให้ชิม 

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ด้วยคอนเซปต์ของความเป็นโรงเรียน แต่ละตอนจะมีนักเรียนดีเด่น Best in Class ที่ทำผลงานดีที่สุด แต่จะไม่มีผู้เข้าแข่งขันคนใดโดนตัดออกแม้ทำผลงานแย่ที่สุดในตอน และกลับได้รับการเทรนด์พิเศษจากเชฟ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีกับการทำขนมของพวกเขามากๆ ก่อนไปตัดสินกันอีกทีตอนสุดท้ายว่าผู้ชนะคือใคร 

ผู้ชนะในรายการนี้จะได้รับเงิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และได้สอนในโรงเรียน The Pastry Academy ของเชฟอเมารีด้วย 

หากใครกำลังมองหารายการทำอาหารสไตล์ฟีลกู๊ด ที่อาจจะไม่ได้กดดันฟาดฟันอะไรมากมาย School of Chocolate ดูเพลิน ได้ความรู้ ได้ไอเดียดีๆ ไม่น้อย ส่วนใครดูจนจบแล้วไปต่อกันที่อินสตาแกรมเชฟได้เลย เพราะแต่ละงานที่เชฟทำก็ว้าวมากแบบที่ Netflix เอาไปตัดเป็นอีกโชว์ได้เลยจริงๆ