มหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ประจำปี 2565 ของอาลีบาบา กรุ๊ป ได้สิ้นสุดไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมกับผลลัพธ์ของยอด GMV ที่สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของปีที่แล้ว แม้ท่ามกลางความท้าทายระดับมหภาค และผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด โดยสินค้าขายดีในช่วง 11.11 ปีนี้ ได้แก่ กลุ่มอุปกรณ์กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง กลุ่มของเล่นของสะสม และกลุ่มเครื่องประดับ ที่สร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
มหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 คือวันที่นักช้อปทั่วโลกต่างตั้งตารอคอยเพื่อพบกับดีลเดือดสุดคุ้มและโปรโมชันจุใจ ซึ่งปีนี้ก็เป็นครั้งที่ 14 แล้ว นับตั้งแต่อาลีบาบาริเริ่มมหกรรมนี้ขึ้นมาในปี 2552 จากวันที่มีผู้ค้าเพียง 27 รายเข้าร่วมกิจกรรม จวบจนวันนี้ มีผู้ประกอบการจาก 90 ประเทศและภูมิภาค เข้าร่วมมหกรรมนี้มากกว่า 290,000 แบรนด์ ครอบคลุมไม่ต่ำกว่า 70 หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งมอบความสุขแก่ฐานลูกค้ากว่า 1 พันล้านคน
และเป็นประจำทุกปีกับการมาถึงของมหกรรม 11.11 ที่อาลีบาบาจะงัดไม้เด็ดมาเอาใจทั้งผู้ค้าและขาช้อป เช่นเดียวกันกับปีนี้ อาลีบาบาได้ยกทัพผู้ค้าจากทั้งอีโคซิสเต็มทั่วโลก มาพร้อมกับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมมากมาย เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบใหม่ และขับเคลื่อนการเติบโตของผู้ค้าออนไลน์ โดยปีนี้อาลีบาบายังคงให้ความสำคัญกับการส่งมอบเครื่องมือและโซลูชันต่างๆ แก่ผู้ประกอบการ ให้สามารถขยายฐานลูกค้าประจำ เปิดตัวสินค้าใหม่ๆ และประสบความสำเร็จกับการค้าขายตลอดช่วงมหกรรม 11.11 นี้ ขณะเดียวกันประเด็นเรื่องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการบริโภคอย่างมีส่วนร่วมโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแง่มุมสำคัญที่อาลีบาบายึดเป็นเป้าหมายสำหรับมหกรรม 11.11 ปีนี้
จัดเต็มนวัตกรรม เพื่อการช้อปแบบสดใหม่ และดึงดูดกว่าที่เคย
การจะสร้าง 11.11 ที่ทรงพลัง ย่อมหนีไม่พ้นนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งอาลีบาบาไม่เคยหยุดพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ เพื่อทำให้มหกรรมนี้น่าดึงดูดกว่าที่เคย หนึ่งในนั้นคือ การไลฟ์สตรีมมิง ซึ่งถือเป็นช่องทางสำคัญประกอบการตัดสินใจชื้อของผู้บริโภคในช่วง 11.11 ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม มีผู้บริโภคมากกว่า 300 ล้านคนรับชมการไลฟ์สตรีมมิงที่จัดขึ้นบนเถาเป่า ไลฟ์ (Taobao Live) และเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นแก่นักช้อป อาลีบาบาได้อัปเกรด ห้องไลฟ์สตรีมมิง เวอร์ชั่นล่าสุดตั้งแต่ก่อนการเปิดฉากมหกรรม เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ค้าในการเปิดตัวสินค้าใหม่ผ่านประสบการณ์เสมือนจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ งานนี้เราจึงได้เห็นผู้ค้าไม่ต่ำกว่า 2,000 แบรนด์ กอดคอกันก้าวสู่ความสำเร็จกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ตลอดช่วง 11.11 ที่ผ่านมา
เซสชันไลฟ์สตรีมมิ่งในช่วงมหกรรม 11.11 ที่ส่งมอบประสบการณ์เสมือนจริงแก่ลูกค้า
อีกหนึ่งนวัตกรรมเทคโนโลยีที่น่าสนใจใน 11.11 นี้ ย่อมหนีไม่พ้น การค้าออนไลน์ผ่านเทคโนโลยี Extended Reality (XR) บนทีมอลล์และเถาเป่า ที่ทำให้นักช้อปสามารถสนุกกับประสบการณ์ซื้อสินค้าผ่านการสวมร่างอวาตาร์ของตนเองได้ แล้วก็เลือกรายการสินค้าที่ต้องการจากร้านค้าเสมือนจริง โดยร่างอวาตาร์เหล่านี้ก็มีให้เลือกมากมาย เช่น ตัวการ์ตูนยอดนิยมจาก Hello Kitty ของค่าย Sanrio และเหล่า Minions จากค่าย Hollywood
ลูกค้าในร่างอวาตาร์กำลังเลือกสินค้าบน Tmall Luxury Pavilion
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด อีกหนึ่งเทคโนโลยีสุดล้ำยุคที่แบรนด์ต่างๆ บนแพลตฟอร์มของอาลีบาบาได้นำมาสร้างความร้อนแรงให้กับมหกรรมช้อปปิ้งก็คือ ไอดอลเสมือนจริง (Virtual Idols) ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ชาวจีนได้เป็นอย่างดี Ayayi กับ Noah ไอดอลเสมือนจริงที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ของอาลีบาบา ได้ถูกเปิดตัวในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์มากมาย ทั้งคู่ช่วยสร้างโปรไฟล์ของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ตลอดจนกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวจีนบนโลกออนไลน์เข้ามาติดตามแบรนด์มากขึ้น
Ayayi อินฟลูเอ็นเซอร์เสมือนจริงคนแรกที่สร้างขึ้นโดยอาลีบาบา
ด้านระบบโลจิสติกส์ 11.11 ปีนี้ ไช่เหนียว (Cainiao) ได้ติดตั้ง ‘เสี่ยวหมานหลีว์’ (Xiaomanlv) หุ่นยนต์จัดส่งอัตโนมัติมากกว่า 700 ตัว ครอบคลุมสถานที่ต่างๆ เช่น แคมปัสมหาวิทยาลัย เพื่อรองรับการจัดส่งพัสดุตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงมือผู้บริโภค งานนี้เจ้าหุ่นยนต์เสี่ยวหมานหลีว์สามารถจัดส่งพัสดุได้มากเกือบ 2 ล้านชุดตลอดช่วง 11.11 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปีที่แล้วเลยทีเดียว นอกจากนี้อาลีบาบายังได้ใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลเทคโนโลยีและโครงสร้างดิทิจัล เพื่อช่วยให้ผู้ค้าสามารถคาดการณ์การจัดส่งที่แม่นยำยิ่งขึ้นแบบไดนามิก และยังสามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางการจัดส่งแบบเรียลไทม์ เพื่อรับมือกับการหยุดชะงักของระบบโลจิสติกส์บางจุดที่อาจเกิดขึ้นได้
จะวัยไหนก็ช้อปสนุกได้ ไม่มีลิมิต
ด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นของบรรดานักช้อปวัยเก๋าในตลาด อาลีบาบาจึงได้จัดให้มีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ดิจิทัลได้บนทุกๆ แพลตฟอร์มหลัก ในช่วง 11.11 ที่ผ่านมา เถาเป่าจึงได้อัปเกรด ‘Senior Mode’ หรือโหมดผู้สูงอายุ ในแอปพลิเคชันเถาเป่าสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพิ่มเติมจากในปีก่อนที่ทางแอปได้ปล่อยฟีเจอร์ขยายขนาดข้อความและไอคอน โหมดการนำทางที่เข้าใจง่ายขึ้น และเทคโนโลยีสั่งการด้วยเสียง การอัปเกรด Senior Mode ครั้งล่าสุดนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถสังเกตปุ่มกดต่างๆ บริเวณหน้าโฮมเพจได้ง่ายขึ้น เข้าถึงตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าที่คอยให้การดูแลผู้สูงอายุได้สะดวกขึ้น และที่สำคัญยังติดตั้งฟังก์ชันใหม่สำหรับสั่งซื้อของชำและยา ซึ่งมาพร้อมโหมดที่ผู้ซื้อยาสามารถรับคำปรึกษาจากเภสัชกรได้อีกด้วย
เถาเป่าได้อัปเกรด Senior Mode ในแอปบนมือถือ เพื่อรองรับ 11.11 นี้
ช้อปปิ้งสีเขียว CF อย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของอาลีบาบาในการลดคาร์บอนฟุตพรินต์ทั่วทั้งอีโคซิสเต็ม 11.11 ปีนี้จึงเน้นย้ำถึงการส่งเสริมกิจกรรมและการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทาน
ตัวอย่างเช่น ทีมอลล์ ได้พยายามผลักดันให้มีการติดฉลากผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำในหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มเสื้อผ้า อาหาร และเครื่องสำอาง นอกเหนือจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ประหยัดพลังงาน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อขับเคลื่อนการบริโภคที่ยั่งยืนในวงกว้าง การติดฉลากผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถระบุผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำบนแพลตฟอร์มได้ง่ายขึ้น เพื่อตรวจสอบผลกระทบของการซื้อที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมทางเลือกที่ยั่งยืนขึ้น ทั้งนี้ ตัวเลขล่าสุดจากช่วง 11.11 ที่ผ่านมา ระบุว่ามีสินค้ากว่า 1.63 ล้านรายการที่วางจำหน่ายบนทีมอลล์ ได้รับการติดฉลากผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปล่อยคาร์บอนต่ำ
นอกจากนี้ทีมอลล์ยังได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการอีกกว่า 40 แบรนด์ จัดแคมเปญสีเขียว เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำผ่านโครงการริเริ่มต่างๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือความร่วมมือระหว่างทีมอลล์กับอาลีบาบาคลาวด์ (Alibaba Cloud) ที่ได้จัดทำ Energy Expert แพลตฟอร์มบริหารจัดการคาร์บอน ที่จะสร้างแบบจำลองคาร์บอนฟุตพรินต์ออนไลน์ คำนวณปริมาณคาร์บอน และให้การรับรองผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบปริมาณคาร์บอนในผลิตภัณฑ์ และปฏิบัติตามมาตรการเพื่อความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Energy Expert แพลตฟอร์มบริหารจัดการคาร์บอนของอาลีบาบา
เช่นเดียวกันกับไช่เหนียว ซึ่งได้ร่วมงานกับผู้ค้านับพันแบรนด์ในการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในกระบวนการจัดส่งและบรรจุหีบห่อ โดยในช่วง 11.11 นี้ ได้มีการเพิ่มตู้รับรีไซเคิลกล่องพัสดุในสถานีไช่เหนียวโพสต์ (Cainiao Post) เป็น 130,000 แห่งทั่วประเทศจีน จนสามารถรีไซเคิลกล่องพัสดุได้เกือบ 4 ล้านกล่อง ตั้งแต่วันที่ 1-11 พฤศจิกายน และมีผู้บริโภคมากกว่า 100,000 รายต่อวัน ใช้กล่องรีไซเคิลเพื่อส่งพัสดุที่ไช่เหนียวโพสต์
ผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ตอบโจทย์ โดนใจผู้บริโภค
การวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์คือหัวใจสำคัญของธุรกิจ เพื่อให้ได้สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง สำหรับประเด็นนี้อาลีบาบาก็ได้ให้การสนับสนุนผู้ค้ามาโดยตลอด ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ด้วยเครื่องมือทรงประสิทธิภาพจาก Tmall Innovation Center (TMIC) ทำให้ผู้ค้าสามารถคาดการณ์เทรนด์การบริโภค และกำหนดทิศทางกลยุทธ์การตลาดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเหมาะสม
อย่างเช่น Mars แบรนด์อาหารซึ่งมีชื่อเสียงมานานกว่า 30 ปีในประเทศจีน หนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากเครื่องมือวิเคราะห์ทรงประสิทธิภาพของ TMIC การทำงานร่วมกับทีมอลล์ช่วยให้ Mars สามารถลดระยะเวลาการทำวิจัยให้สั้นลง และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ภายในเวลาไม่ถึง 8 เดือน ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก เมื่อเทียบกับวงจรนวัตกรรมเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งมักใช้ระยะเวลาราว 2 ปี ที่สำคัญความร่วมมือนี้ยังช่วยให้ Mars เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคใหม่ๆ นั่นคือ ขนมหวานที่มีความหวานน้อยกว่าปกติ และยังช่วยระบุกลุ่มความต้องการย่อยอื่นๆ รวมทั้งจุดที่ต้องได้รับการปรับแก้อีกมากกว่า 200 จุด สำหรับ 11.11 ปีนี้ ก็ถือเป็นครั้งที่ 11 แล้วที่ Mars ได้เข้าร่วมมหกรรม โดยทางแบรนด์เชื่อเสมอว่า 11.11 คือโอกาสที่จะให้ทำให้สินค้าใหม่ๆ ได้กลายเป็นเบสต์เซลเลอร์ ดังนั้น Mars จึงได้เตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ไว้รอเปิดตัวมากมาย และพร้อมที่จะคว้าโอกาสทางธุรกิจตลอดช่วงมหกรรม
Dove หนึ่งในแบรนด์ลูกของ Mars ผลิตผลจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับ Tmall Innovation Center (TMIC)
ทั้งหมดนี้ทำให้ 11.11 ไม่ได้เป็นแค่วันดีลเดือดเพียงเท่านั้น หากแต่ยังเป็นหน้าต่างที่เปิดสู่นวัตกรรมล้ำยุคที่รอคอยการส่งมอบสู่สายตาลูกค้าทั่วทั้งอีโคซิสเต็มของอาลีบาบา และอุตสาหกรรมต่างๆ ในวงกว้าง