‘ดีเลิศ อันดับหนึ่ง มหัศจรรย์ ที่สุด สุดยอด ยอดเยี่ยม ฯลฯ’
อาจจะเป็นการยากหากคำใดมายกย่องในฝีไม้ลายมือการชกในรูปแบบศิลปะการต่อสู้แบบผสม หรือ Mixed martial arts (MMA) ของ ‘The Great’ อเล็กซานเดอร์ โวลคานอฟสกี ยอดนักสู้มวยกรงแปดเหลี่ยม แห่งศึก Ultimate Fighting Championship (UFC)
ผลงานความยอดเยี่ยมของอเล็กซานเดอร์ ไม่ได้มีเพียงแต่การเป็นเจ้าของเข็มขัดแชมป์ในรุ่นเฟเธอร์เวตประจำศึก UFC เพียงอย่างเดียว แต่ ณ เวลานี้ ยอดนักสู้ชาวออสเตรเลียรายนี้ ถูกยกให้เป็นนักสู้ที่ดีที่สุดแบบปอนด์ต่อปอนด์ของค่าย UFC ด้วยสถิติชนะ 25 แพ้เพียง 1 ไฟต์เท่านั้น
ไม่นานมานี้ THE STANDARD เป็นตัวแทนสื่อจากประเทศไทยเพียงแห่งเดียวที่มีโอกาสได้พูดคุยกับอเล็กซานเดอร์ ในหลากหลายเรื่องที่น่าสนใจ ตั้งแต่ การทำงานในฐานะเจ้าของร่วมที่ยิม Bangtao MMA ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดภูเก็ตของประเทศไทย ไปจนถึงเส้นทางการเป็นนักสู้จนถูกขนาดนามให้เป็น ‘The Great’ ของวงการ MMA
ที่ผ่านมา มักมีภาพคุณฝึกซ้อมในประเทศไทยบ่อยมาก อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณเลือกที่จะมาฝึกซ้อมที่ไทยเป็นประจำ
ผมชอบการซ้อมที่ประเทศไทย การซ้อมที่นั่นสนุกมากๆ ผมรู้สึกผ่อนคลายเสมอเมื่อได้ฝึกซ้อมที่นั่น บางเทาเป็นยิมที่ดีครับ โค้ชการปล้ำ (Wrestling Coach) ของผมมาจากที่นั่น พวกเขามีทีมงานโค้ชที่ดี อยู่ในทำเลที่ดีมากๆ ของโลกครับ ยิมบางเทาอยู่ถัดจากชายหาดเลย โลเคชันดีมาก แล้วก็มีการฝึกซ้อมที่ดีมากๆ พวกเขากำลังไปได้สวย ผมติดตามอินสตาแกรมอยู่ ดูกำลังไปได้สวยเลย ก็เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นครับ
คุณมีส่วนร่วมกับยิม Bangtao MMA (บางเทา) อย่างไร?
ผมเป็นเพื่อนกับโค้ชหลายๆ คนที่นั่น แต่จริงๆ แล้ว ผมเป็นเจ้าของร่วมด้วยครับ สถานที่แห่งนี้เป็นยิมที่ดี และตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ผมเชื่อว่ายิมนี้จะประสบความสำเร็จมากแน่ๆ ในอนาคต
‘ท็อปน้อย’ กับ ‘โลมา ลูกบุญมี’ คือ 2 นักสู้คนไทยในศึก UFC ซึ่งได้ซ้อมที่ MMA Bangtao เหมือนกัน คุณรู้จักพวกเขาไหม และเคยเห็นผลงานการสู้ใน UFC ของทั้ง 2 คนนี้บ้างหรือเปล่า
ผมรู้จักทั้งโลมาแล้วก็ท็อปน้อย ผมได้ซ้อมกับพวกเขา ท็อปน้อยเป็นคนที่สนุกแล้วก็ฮามากๆ ก่อนหน้านี้เขาอาจจะไม่ได้เป็นคนที่มีสมาธิมากนัก แต่ว่าตอนนี้คือโฟกัสดีสุดๆ ส่วนโลมาคือดีอยู่แล้ว เธอมีสมาธิ เธอซ้อมหนัก
ตอนนี้ท็อปน้อยก็โฟกัสในการสู้ในไฟต์ถัดไปมาก (เพราะมีคิวลงแข่งขันรอบรองชนะเลิศของรายการ Road to UFC ในวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคมนี้) เขามีความมุ่งมั่น เขาได้เรียนรู้สิ่งที่ต้องรู้ ตอนที่ผมอยู่ที่บางเทา เขาอยากจะเรียนรู้วิชาจากผมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือเห็นเลยว่าเขามุ่งมั่นมากในการเรียนรู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี และอยากให้เขาพยายามสู้ต่อไปครับ
พูดถึงสถิติการชกอันยอดเยี่ยม (ชนะ 25 แพ้ 1) และอะไรคือกลยุทธ์ในการทำงานของคุณสำหรับไฟต์นี้? (ในฐานะนักสู้แบ็กอัพของคู่เอก UFC 280)
25-1-0 นั่นมันเป็นสถิติที่ค่อนข้างน่าประทับใจเลย
หลักๆ ผมจะห่วงแค่ตัวผมเอง ผมไม่รู้ว่าผมต้องสู้กับใครบ้าง เพราะผมเป็นนักสู้ตัวสำรองในครั้งนี้ ถ้ามีใครตกตราชั่งหรือได้รับบาดเจ็บ ผมก็จะได้สู้แทน
ดังนั้น ผมต้องซ้อมเพื่อรอพบกับทั้ง 2 คน (ชาร์ลส์ โอลิเวรา กับ อิสลาม มาฮาเชฟ) ผมต้องเตรียมตัวสู้กับทั้งคู่ แต่สำหรับผมคือการทำให้แน่ใจว่า ตัวผมเองจะมีความพร้อมมากพอ รวมถึงต้องรู้ว่า นักสู้ 2 คนนี้เขาจะงัดอะไรออกมาสู้บ้าง โดยสรุปคือผมต้องเตรียมจิตใจให้พร้อม
ไลฟ์สไตล์และการซ้อมของคุณในปี 2022 นี้เป็นอย่างไร เพราะคุณสามารถรักษาแชมป์เอาไว้ได้ทั้ง 2 ครั้ง?
ทำตัวให้เป็นมืออาชีพครับ ผมซ้อมหนัก พยายามทำตัวแอ็กทีฟเข้าไว้ เพราะผมอยากจะลงสู้ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมต้องทำให้แน่ใจว่าตัวผมฟิตอยู่ตลอด และพร้อมเสมอเผื่อว่ามีคิวต้องสู้แบบกะทันหัน
คำว่า ‘ซ้อมหนัก’ คือหนักแค่ไหน?
ผมซ้อมวันหนึ่งประมาณ 2-3 ครั้ง มีบางวันซ้อม 4 เซสชันเลย ซ้อมสัปดาห์ละ 6 วัน ซ้อมหนักมาก การซ้อมของผมมันหนักจริงๆ การจะเป็นนักสู้ที่ดีที่สุดในโลก หรือการจะรักษาตำแหน่งแชมป์โลกที่ครอบครองอยู่ เราต้องฝึกซ้อมอย่างหนักครับ
ตอนนี้คุณถูกจัดอันดับให้เป็นนักชกที่ดีสุดแบบปอนด์ต่อปอนด์ของ UFC คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?
มันก็ดีนะครับ แม้ตัวผมรู้สึกเหมือนเดิม ผมไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรแตกต่างออกไปเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่ว่าผมมีความสุข แล้วก็ดีใจที่ได้อยู่ในตำแหน่งนี้ เพราะว่ามันมีโอกาสหลายอย่างที่มาพร้อมกับการเป็นเบอร์ 1 ของนักสู้แบบปอนด์ต่อปอนด์
การเป็นนักสู้ที่ดีที่สุดแบบปอนด์ต่อปอนด์ ทำให้รู้สึกกดดันเวลาขึ้นชก?
ไม่นะครับ สำหรับผมคือผมไม่ได้มองเรื่องนี้ ผมสนใจแค่คู่แข่งที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ผมคิดแค่ว่าต้องเข้าไปในกรงแปดเหลี่ยมพร้อมกับงานที่ต้องทำ มันเป็นส่วนหนึ่งในงานของผม ผมมองว่ามันเป็นกีฬาและผมมีงานให้ต้องทำในนั้น ผมแค่มีสมาธิกับงานนั้น นั่นคือหน้าที่ของผม
ความรู้สึกตอนเป็นแชมป์รุ่นเฟเธอร์เวตของ UFC นี่เป็นอย่างไรบ้าง?
โล่งอกครับ! เพราะตัวผมผ่านการทำงานหนักมาเยอะมาก ต้องเตรียมตัวเยอะมาก ฝึกซ้อมมาหลายปีกว่าจะไปถึงจุดนั้นและคว้าแชมป์มาได้ในที่สุด มันเลยรู้สึกโล่งอกมากๆ ผมดีใจมาก แบบว่าเราทำได้แล้ว ตอนนี้ผมสามารถนำเข็มขัดกลับไปให้ครอบครัวที่บ้าน และทีมสตาฟฟ์โค้ชของผม มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก
ครอบครัวของคุณรู้สึกอย่างไร หลังจากคว้าแชมป์?
ดีครับ ดีมากๆ ผมต้องเสียสละหลายอย่างในอาชีพนี้เพื่อวิ่งตามความฝัน ต้องซ้อมตลอดเวลา ไม่ใช่ตัวผมคนเดียวที่ต้องเสียสละ แต่ครอบครัวก็ต้องเสียสละด้วย ก่อนหน้านี้พวกเราต้องดิ้นรน แต่พอได้เข็มขัดมา การดิ้นรนมันก็ไม่มากเหมือนเก่าแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ สำหรับครอบครัว เพราะว่าผมเสียสละไปหลายอย่าง และตอนนี้พวกเขาได้รับประโยชน์จากการที่ผมเป็นแชมป์ครับ
ความทรงจำที่ดีที่สุดใน UFC คืออะไร?
ตอนที่ได้รับการชูมือในฐานะผู้ชนะครับ
นั่นคือความทรงจำที่ดีที่สุดครับ แม้มันจะมีความกดดันเยอะมากในแง่ของการที่ต้องมีสมาธิตลอดการแข่งขัน และรู้ตัวเองอยู่เสมอว่าควรจะต้องทำอะไรขณะขึ้นชก
พอทำงานเสร็จ และได้รับการชูมือ มันจึงก่อเกิดเป็นความรู้สึกโล่งอก แบบ “เยส! ไม่มีความกดดันอีกแล้ว!” เหลือไว้เพียงแค่ความตื่นเต้นและความสุขครับ
ใครคือคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่คุณประมือด้วยในรุ่นเฟเธอร์เวต?
แม็กซ์ ฮอลโลเวย์ ครับ เขาคือความท้าทายครั้งใหญ่ เขามีทีมงานที่ฉลาด เขาเป็นนักสู้ที่ฉลาด ร่างกายก็ฟิต เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก การสู้กับเขาแต่ละครั้งไม่เคยง่ายเลยจริงๆ
คุณเคยบอกว่าอยากเลื่อนไปแข่งขันในรุ่นไลต์เวต ตอนนี้คุณได้เป็นนักสู้แบ็กอัพของรุ่นไลต์เวตใน UFC 280 แล้ว เคยคิดไหมว่าโอกาสจะมาเร็วขนาดนี้ และรู้สึกอย่างไรบ้าง?
ผมตื่นเต้นมาก ผมมาที่นี่ (เอติฮัด อารีนา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สถานที่จัด UFC 280) เพื่อรอแข่งขันกับนักสู้ที่ดีที่สุดของโลก ดังนั้นผมจึงซ้อมเพื่อรอพบกับทั้ง 2 คน ผมอาจจะได้สู้กับสักคนในอนาคตด้วย และไม่ว่าผมจะได้ขึ้นสู้หรือไม่ก็ตาม แต่งานนี้สนุกแน่ๆ อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ!
ทั้งนี้ ศึก UFC 280 ซึ่งมีคู่เอกเป็นไฟต์ชิงแชมป์โลกในรุ่นไลต์เวตที่ว่างอยู่ ระหว่างนักสู้อันดับ 1 ของแรงก์อย่าง ชาร์ลส์ โอลิเวรา พบกับ อิสลาม มาฮาเชฟ นักสู้อันดับ 4 ของแรงก์ จะจัดขึ้นที่ เอติฮัด อารีนา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะแข่งขันตามเวลาประเทศไทยในคืนวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม โดยคู่ Main Card เริ่มในเวลา 01.00 น. เป็นต้นไป
