×

ทายาทสายตรงไอน์สไตน์ (ตัวจริง) คือใครบ้าง?

โดย THE STANDARD TEAM
15.12.2021
  • LOADING...
ทายาทสายตรงไอน์สไตน์

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะหนึ่งในนักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตลอดกาล ผลงานและทฤษฎีของเขายังคงสร้างแรงกระเพื่อมให้กับวงการฟิสิกส์มาจนทุกวันนี้

 

แต่นอกเหนือจากชีวิตด้านการทำงาน อีกแง่มุมหนึ่งคือชีวิตส่วนตัวที่ดูจะไม่ประสบความสำเร็จนัก 

 

เรื่องราวของเหล่าทายาทของไอน์สไตน์เกิดขึ้นเมื่อไอน์สไตน์และมิเลวา สตรีว่าที่ภรรยาคนแรกของเขา ตัดสินใจเดินทางไปที่ทะเลสาบโคโม ประเทศอิตาลี คู่รักใช้เวลาเดินเล่นชื่นชมธรรมชาติอันงดงาม พายเรือไปมาในท้องทะเลสาบอันเงียบสงบ ปีนเขาเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศ และพูดคุยเกี่ยวกับฟิสิกส์ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ทั้งคู่ต่างก็หลงใหล 

 

หลังจากทริปที่ทะเลสาบโคโม มิเลวาก็ตั้งครรภ์

 

ปริศนาทายาทคนแรก

​มิเลวาให้กำเนิดทายาทคนแรกของไอน์สไตน์ที่บ้านเกิดของเธอ ตราบจนทุกวันนี้เรายังไม่ทราบว่าอย่างแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวคนแรกของไอน์สไตน์ เราทราบแต่เพียงว่าเธอชื่อลีเซิร์ล และไอน์สไตน์ไม่เคยแม้แต่จะได้เห็นหน้าลูกสาวคนแรกของเขา สันนิษฐานกันว่าลีเซิร์ลมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานก็เสียชีวิตด้วยโรคไข้อีดำอีแดง หรือไม่ก็ถูกยกให้เป็นบุตรบุญธรรมผู้อื่น หรือไม่ก็มีคนในครอบครัวของมิเลวารับไปอุปการะ ชะตากรรมของลีเซิร์ล ทายาทคนแรกของไอน์สไตน์ ยังคงเป็นปริศนา เธอเป็นทายาทสายตรงผู้สาบสูญไปจากการรับรู้ของสังคม

 

ทายาทคนที่ 2

​หลังจากนั้นราว 2ปี ทายาทสายตรงคนที่ 2 ของไอน์สไตน์ก็ถือกำเนิดขึ้นใน ค.ศ 1904 เป็นบุตรชายนาม ฮันส์ พวกเราคงทราบกันดีว่า ในบทบาทนักฟิสิกส์ ไอน์สไตน์นั้นเป็นอัจฉริยะผู้ปราดเปรื่อง หมกมุ่นครุ่นคิดเกี่ยวกับการไขความลับของจักรวาล แล้วในฐานะพ่อคนล่ะ เขาเป็นพ่อที่ดีหรือไม่? 

 

เรื่องนี้เราอาจต้องพิจารณาจากหลายแง่มุม แต่เราก็พอจะมองเห็นได้ว่าไอน์สไตน์เป็นพ่อที่เอาใส่ใจและห่วงใยลูก จากจดหมายที่เขาเขียนโต้ตอบกับฮันส์ พวกเขาเขียนจดหมายถึงกันเพราะต้องแยกกันอยู่ เนื่องจากไอน์สไตน์และมิเลวากำลังจะหย่าร้างกัน

 

ในจดหมายฉบับหนึ่ง ไอน์สไตน์แสดงความห่วงใยถึงฮันส์ว่า 

 

“แม้ว่าพ่อจะอยู่ตรงนี้ ลูกก็มีพ่อที่รักลูกมากกว่าสิ่งอื่นใดและคิดถึงลูกและเป็นห่วงลูกอยู่เสมอ” และแสดงความใส่ใจในตัวลูกชายว่า “ลูกยังคงสะกดคำผิดอยู่มาก ลูกต้องระมัดระวังในเรื่องนี้ การสะกดคำผิดนั้นดูไม่ดี”

 

ความฉลาดปราดเปรื่องของไอน์สไตน์คงจะถ่ายทอดไปสู่ฮันส์ไม่มากก็น้อย เห็นได้จากเมื่อฮันส์เติบโตขึ้น เขาได้เป็นศาสตราจารย์ทางวิศวกรรมไฮดรอลิกที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอเนียร์ในสหรัฐอเมริกา

 

ทายาทคนที่ 3

​ทายาทสายตรงคนที่ 3 ของไอน์สไตน์ ซึ่งเป็นบุตรชายคนที่ 2 ของเขา อายุห่างจากฮันส์ บุตรชายคนแรก 6 ปี ทุกอย่างดูสดใสในช่วงแรกเริ่ม เอดูอาร์ดหรือเทท (ไอน์สไตน์ตั้งชื่อเล่นนี้ให้กับลูกชายคนเล็กของเขา – เทท เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า เจ้าตัวน้อย) เป็นเด็กเรียนดีและมีพรสวรรค์ทางดนตรี แต่ชีวิตของเอดูอาร์ดกลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมอีกฉากหนึ่งในชีวิตของไอน์สไตน์ (โศกนาฏกรรมแรกคือการหย่าร้างกับมิเลวาอย่างขมขื่น) 

 

ในช่วงวัยยี่สิบต้นๆ เขามีอาการป่วยทางจิต ดำดิ่งสู่ความซึมเศร้าจนนำไปสู่การพยายามฆ่าตัวตายอยู่หลายครั้ง ในจดหมายของเอดูอาร์ด เขาเคยเขียนสะท้อนความต้อยต่ำของตัวเองไว้ว่า 

 

“บางครั้งมันเป็นเรื่องยากลำบากที่มีพ่อเป็นคนสำคัญ เพราะมันทำให้รู้สึกว่าเราเป็นคนไม่สำคัญเอาเสียเลย” 

 

ไอน์สไตน์เชื่อว่าอาการป่วยของเอดูอาร์ดถ่ายทอดมาจากมิเลวา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดน้อยลงกับชะตากรรมของเอดูอาร์ด 

 

สุดท้ายเอดูอาร์ดถูกส่งตัวเข้าไปรับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลบ้า และเพราะอาการเจ็บป่วย เขาจำต้องอยู่ที่นั่นไปตลอดชีวิต ในขณะที่ไอน์สไตน์ต้องลี้ภัยนาซีไปยังสหรัฐอเมริกา ในจดหมายฉบับหนึ่ง ไอน์สไตน์ฝากข้อคิดให้กับลูกชายคนที่ 2 ของตนว่า 

 

“ชีวิตก็เหมือนกับการปั่นจักรยาน เราต้องปั่นต่อไปเพื่อไม่ให้ล้ม”

 

​ทายาทรุ่นลูกทั้งสามของไอน์สไตน์ล้วนแต่จากโลกนี้ไปหมดแล้ว ลีเซิร์ลมีชะตากรรมอันลึกลับ ฮันส์จากโลกนี้ไปใน ค.ศ. 1973 ส่วนเอดูอาร์ดอยู่ในโรงพยาบาลบ้าจนสิ้นชีพก่อนพี่ชายของตนเองเป็นเวลา 8 ปี สายธารแห่งทายาทของไอน์สไตน์ไหลต่อไปผ่านฮันส์ซึ่งให้กำเนิดหลานๆ ของไอน์สไตน์ และทอดยาวไปสู่รุ่นเหลนทุกวันนี้

 

อ้างอิง:

  • Calaprice, Alice (2013) The Ultimate Quotable Einstein. New Jersey: Princeton University Press.
  • Clark, R. W. (2007) Einstein: The Life and Times. London: Bloomsbury Reader.
  • Stanley, Matthew (2019) Einstein’s War: How Relativity Conquered Nationalism and Shook the World. London: Penguin Books.
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising