×

บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) เปิดศึกใหม่ ชูจุดแข็งด้วยเครือข่ายทั่วโลกที่แข็งแกร่ง ช่องทางการขายที่แตกต่าง พร้อมตั้งรับศึกดอกเบี้ยต่ำ [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
24.08.2020
  • LOADING...
บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) เปิดศึกใหม่ ชูจุดแข็งด้วยเครือข่ายทั่วโลกที่แข็งแกร่ง ช่องทางการขายที่แตกต่าง พร้อมตั้งรับศึกดอกเบี้ยต่ำ [Advertorial]

HIGHLIGHTS

  • เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำในธุรกิจประกันชีวิตและผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked) ในประเทศไทย เปิดตัวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด (AIAIMT)
  • บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) ขึ้นแท่น บลจ. ขนาดใหญ่อันดับ 3 ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 8.47 แสนล้านบาท
  • ยกระดับการบริหารการลงทุนเพื่อความยั่งยืน และการประกอบธุรกิจโดยยึดหลัก ESG พร้อมชูจุดเด่นค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนรวมเชิงรุกที่ลดลง เพื่อสร้างอัตราผลตอบแทนที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้า 
  • พร้อมเดินหน้าจัดตั้งกองทุนรวมจำนวน 9 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนรวมที่ลงทุนในประเทศ 5 กองทุน และกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ 4 กองทุน โดยเน้นการลงทุนเพื่อผลตอบแทนในระยะยาว ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการบริหารความเสี่ยงในด้านต่างๆ อย่างรอบคอบ

ดูเหมือนว่าธุรกิจกองทุนจะคึกคักอีกครั้งหลังจากที่ เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำในธุรกิจประกันชีวิตและผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked) ในประเทศไทย เปิดศึกครั้งใหม่ เปิดตัวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด (AIAIMT) เริ่มดำเนินการไปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ขนาด 8.47 แสนล้านบาท กินส่วนแบ่งการตลาด ขึ้นแท่น บลจ. ขนาดใหญ่อันดับ 3 ของอุตสาหกรรมทันที

 

 

วัตถุประสงค์หลักในการเปิด บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) ก็เพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์ของเอไอเอ ประเทศไทย และเงินลงทุนในกองทุนรวมจากกรมธรรม์ Unit Linked ของเอไอเอ โดยใช้ความเชี่ยวชาญในการบริหารพอร์ตกว่า 30 ปี เชื่อมโอกาสการลงทุนผ่านเครือข่ายทั่วโลก และด้วยเครือข่ายกลุ่มบริษัทเอไอเอทั่วโลกที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการบริหารการลงทุนของ บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

 


ดร.มาร์ค โคนิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน กลุ่มบริษัทเอไอเอ

 

ดร.มาร์ค โคนิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “กลุ่มบริษัทเอไอเอ เป็นกลุ่มบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประสบการณ์ด้านการลงทุนที่แข็งแกร่งใน 18 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยมีทีมบริหารการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 150 คนจากทั่วทุกภูมิภาคของโลก ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทเอไอเอ เล็งเห็นถึงศักยภาพในการบริหารสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามหาศาลของเอไอเอ ประเทศไทย ซึ่งลงทุนทั้งในตลาดตราสารหนี้ ตลาดตราสารทุน และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การสนับสนุนด้านทรัพยากรหลายภาคส่วนจากกลุ่มบริษัทเอไอเอ ซึ่งตลอดระยะเวลา 82 ปี ที่เอไอเออยู่คู่คนไทยมานั้น เอไอเอได้พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจที่สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ โดยปัจจุบันกว่า 1 ใน 3 ของกรมธรรม์ประกันชีวิตในประเทศไทยเป็นกรมธรรม์ของเอไอเอ และถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดการลงทุนของไทย สำหรับการเปิดบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอไอเอ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มบริษัทเอไอเอ อย่างเป็นทางการ จึงนับเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งสำหรับเอไอเอในประเทศไทย”

 

คงต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของ บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) ให้ดี เพราะมีจุดแข็งที่น่าสนใจมากมาย การมีทีมผู้เชี่ยวชาญในการบริหารและจัดการกองทุนที่มีประสบการณ์อันยาวนาน รวมทั้งการประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการการลงทุนทางการเงินมามากกว่า 3 ทศวรรษ 

 

สุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย)

 

สุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า “ทีมผู้บริหารจัดการกองทุนของเราที่มีประสบการณ์ด้านการลงทุนกว่า 30 ปี ทั้งในตลาดไทยและตลาดสากล จะประสานความร่วมมือกับเครือข่ายการลงทุนของกลุ่มบริษัทเอไอเอทั่วโลก ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อบริหารการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม” 


สุขวัฒน์ ยังชี้ให้เห็นถึงข้อได้เปรียบจากการมีทีมผู้บริหารจัดการกองทุนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการลงทุนในกว่า 18 ประเทศทั่วโลก พร้อมการนำเทคโนโลยีการลงทุนขั้นสูง และมีความปลอดภัยสูงสุดมาใช้ในการทำงาน “สิ่งนี้จะช่วยให้บริหารต้นทุนได้ถูกกว่าในตลาด โดยคาดว่าจะลดต้นทุนในส่วนของค่านายหน้าซื้อขายและวิจัยหลักทรัพย์ จากระดับ 0.17% มาอยู่ที่ 0.05% ได้” 

 

อีกทั้ง บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) ยังมุ่งมั่นลงทุนเคียงข้างลูกค้า บริหารจัดการสินทรัพย์ผ่านความชำนาญและประสบการณ์ระดับโลก เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ลงทุน ด้วยการขยายช่องทางในการลงทุนระดับสากล ผ่านเครือข่ายการลงทุนทั่วโลกและพันธมิตรทางธุรกิจที่มีชื่อเสียงยาวนานร่วมร้อยปี อาทิ BlackRock, Wellington Management และ Baillie Gifford เป็นต้น 

 

 

นอกจากนั้น บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) ยกระดับการบริหารการลงทุนเพื่อความยั่งยืน โดยยึดหลัก ESG (Environmental, Social and Governance) ที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล เช่นเดียวกับนโยบายของกลุ่มบริษัทเอไอเอที่เชื่อว่า การดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณภาพและคุณธรรมตามหลัก ESG จะสามารถเพิ่มโอกาสการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืน พร้อมชูจุดเด่นค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนรวมเชิงรุกที่ลดลง เพื่อสร้างอัตราผลตอบแทนที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้า 

 

แผนธุรกิจนับจากนี้ บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) พร้อมเดินหน้าจัดตั้งกองทุนรวมจำนวน 9 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนรวมที่ลงทุนในประเทศ 5 กองทุน และกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ 4 กองทุน ซึ่งจะมีการเปิดตัวเร็วๆ นี้ โดยเน้นการลงทุนเพื่อผลตอบแทนในระยะยาว ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการบริหารความเสี่ยงในด้านต่างๆ อย่างรอบคอบ 

“การออกกองทุนของเราเป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่ง บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จะนำเงินลงทุนของลูกค้าไปลงทุนด้วยความใส่ใจ เสมือนเป็นเงินลงทุนของเราเอง” นี่คือคำมั่นสัญญาที่ สุขวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) ได้มอบทิ้งท้ายไว้ในวันเปิดตัวบริษัท

 

สำหรับลูกค้าที่สนใจในกองทุนรวมของ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) สามารถลงทุนผ่านการซื้อผลิตภัณฑ์ Unit Linked ของเอไอเอ โดยจะขายผ่านตัวแทนประกันชีวิตที่มีทักษะการลงทุน และยังเป็นตัวแทนที่มีใบอนุญาต IC License กว่า 11,174 คน ที่มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนด้านการประกันชีวิตและการเงินให้กับลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์ 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising