×

ปากกาทำการบ้าน! ของวิเศษล่าสุดจาก AI ที่นักเรียนถูกใจแต่คุณครูหัวจะปวด

04.11.2022
  • LOADING...
ปากกาทำการบ้าน

หนังก็ต้องดู เพลงก็ต้องฟัง การบ้านก็ต้องทำ ชีวิตวัยรุ่นสมัยนี้มันลำบากจริงๆ เลยนะ แต่จะสบายมากด้วย ‘ปากกาทำการบ้าน’ ของวิเศษชิ้นใหม่ล่าสุดจากโดราเอมอน เอ้ย จาก AI ช่วยทำให้การทำข้อสอบกลายเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ สำหรับนักเรียนทุกคน แต่สำหรับคุณครูบอกเลยหัวจะปวดแน่นอนถ้าเจอแบบนี้

 

สิ่งประดิษฐ์ที่เหมือนออกมาจากกระเป๋าวิเศษของโดราเอมอนยังคงเกิดขึ้นบนโลกใบนี้อย่างต่อเนื่อง​ โดยของเล่นชิ้นใหม่ตัวล่าสุดที่กำลังเป็นที่จับตามองต่อจาก ‘พู่กันวิเศษ’​ หรือปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ที่ช่วยวาดภาพที่สวยงามออกมาได้โดยที่ไม่ต้องใช้ทักษะทางการวาดรูปอะไรเลยนอกจากแค่คีย์ข้อมูลคำที่ต้องการลงไปคือ ‘ปากกาทำข้อสอบ’ หรือปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยเขียนเรียงความส่งคุณครูให้โดยที่ครูเองก็จับไม่ได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


เรื่องนี้กลายเป็นกระแสฮือฮาในสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อมีนักศึกษาที่ใช้นามแฝงว่า ‘innovate_rye’ โพสต์เล่าเรื่องราวของตัวเองในฟอรัมยอดฮิตอย่าง Reddit ว่าเขาซึ่งเป็นนักศึกษาภาคเคมีปี 1 ได้ลองใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ในการเขียนเรียงความเพื่อส่งเป็นการบ้านขึ้นมา และปรากฏว่าเขาได้คะแนนดีในระดับ ‘A’ เลยทีเดียว

 

“อย่างวิชาชีววิทยา ซึ่งเราจะต้องเรียนเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพและต้องทำการบ้านเรื่องสิ่งที่ดีและไม่ดี 5 อย่างเดียวกับเรื่องนี้ ฉันก็แค่ส่งคำสั่งไปให้กับ AI ในทำนองว่า ‘อะไรคือสิ่งที่ดีและไม่ดี 5 อย่างเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพ’ แล้วมันก็จะเขียนคำตอบที่ทำให้ได้คะแนน A”

 

innovate_rye ยอมรับว่าการมี AI มาช่วยทำให้ชีวิตง่ายขึ้นมา เพราะการนั่งเสียเวลาทำการบ้านด้วยการเขียนเรียงความสักชิ้นอาจจะต้องใช้เวลามากถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ตอนนี้เขาสามารถทำการบ้านเสร็จได้ภายในเวลาแค่ 20 นาที

 

“ฉันชอบที่จะได้เรียนรู้เยอะๆ และบางครั้งการบ้านที่ฉันทำมาก่อนหน้านี้มันทำให้ฉันกลายเป็นคนผัดวันประกันพรุ่งและไม่ได้ทำการบ้านส่ง แต่ตอนนี้การที่สามารถทำมันได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นจนดูเหมือนจะเป็นทักษะของฉันแล้ว” innovate_rye เปิดเผย

 

อย่างไรก็ดี innovate_rye ไม่ใช่คนเดียวแน่นอนที่ใช้ตัวช่วยแบบนี้ เพราะนับตั้งแต่ที่ OpenAI ได้เปิดตัว GPT-3 ซึ่งเป็น API เวอร์ชันล่าสุดที่รองรับหลายภาษาก็เริ่มมีนักเรียนจำนวนมากขึ้นที่เขียนชุดคำสั่งลงใน Playground และโปรแกรมในลักษณะคล้ายคลึงกันที่มีการเรียนรู้แบบอัตโนมัติ (Deep Learning) เพื่อเขียนข้อความออกมา ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นคือข้อความที่มีการพัฒนาการเขียนขึ้นมาเรื่อยๆ จนใกล้เคียงกับมนุษย์ชนิดแทบจะแยกกันไม่ออกเลยทีเดียว

 

อีกหนึ่งกรณีตัวอย่างคือผู้ใช้ที่มีชื่อว่า AeUsako_ ซึ่งในตอนที่ยังเป็นนักเรียนในระดับไฮสคูลเมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาได้ใช้ OpenAI ช่วยเขียนเรียงความเกี่ยวกับเรื่องเหตุการณ์โลกปัจจุบัน ซึ่งแม้จะไม่ได้คะแนนท็อปสุดแต่ก็แค่ถูกหักคะแนนออกจากการที่ไม่มีแหล่งอ้างอิงจากภายนอก นั่นหมายถึงการที่คุณครูเองก็จับไม่ได้ว่านี่เป็นเรียงความที่ถูกเขียนขึ้นโดย AI

 

เรื่องความเนียนของเรียงความที่เขียนโดย AI นั้นทางด้าน จอร์จ เวเลตเซียนอส จากมหาวิทยาลัยรอยัลโรดส์ ให้ความเห็นว่าเกิดจากการที่ OpenAI นั้นไม่ได้ใช้เทคนิคในการก๊อบปี้ข้อความจากแหล่งต่างๆ แล้วเอามาวางรวมๆ กัน แต่เกิดจากการที่เขียนขึ้นมาใหม่ด้วย Blackbox อัลกอริทึม ทำให้ได้ข้อความนั้นจึงเหมือนภาษาที่มนุษย์เขียนจริงๆ และเป็นเรื่องยากที่จะมีการจับได้ 

 

เวเลตเซียนอสไม่ได้มองว่าเรื่องนี้คือปัญหาใหญ่ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งครูและนักเรียนลองเปิดบทสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับการนำเครื่องมือเหล่านี้มาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเรียนการสอนให้มากยิ่งขึ้น

 

อย่างไรก็ดีทางด้าน ปีเตอร์ ลาฟฟิน อาจารย์สอนการเขียนผู้ก่อตั้งสถาบันแนะแนว Crush the College Essay มองว่าบางอย่างเช่นในเรื่องของการเรียนการเขียน การจะพัฒนานักเขียนขึ้นมาได้จริงๆ จะต้องผ่านการขัดเกลา โดยครูผู้สอนจะต้องพยายามกำหนดความยากของเนื้อหาในการสอน ซึ่งการมี AI เข้ามาทำให้เกิดการลัดวงจรของกระบวนการขัดเกลานักเขียน ทำให้เด็กๆ สูญเสียการเดินทางของการเรียนรู้

 

“บางทีเราก็คิดว่าเรารู้มากขึ้น แต่เรากลับไม่เคยได้เรียนรู้เลยว่าเรามาอยู่จุดนี้ได้อย่างไร” ลาฟฟินกล่าวแทนใจครูผู้สอน 

 

แต่สำหรับเด็กๆ อย่าง innovate_rye ซึ่งยืนยันว่ายังมีการบ้านที่เขาทำด้วยตัวเองอยู่ในเรื่องที่เขาอยากเรียนรู้เพื่อจะสอบให้ผ่านด้วยตัวเอง และ AI จะถูกนำมาใช้เฉพาะในสิ่งที่เขาไม่อยากทำหรือคิดว่ามันเสียเวลา การมี AI เข้ามาเป็นคนช่วยทำการบ้านนั้นเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น

 

“ถ้า AI สามารถทำการบ้านให้ฉันได้เลยในตอนนี้ อนาคตจะเป็นอย่างไรกันนะ? มันเป็นคำถามที่ทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก”

 

สมัยก่อนรุ่นพ่อแม่จะมีคำติดปากจากหนังว่า ‘ครูไหวใจร้าย’ แต่ตอนนี้ครูก็อาจจะต้องถามตัวเองว่า ครูจะไหวแน่นะวิ!

 

อ้างอิง: 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising