×

Afternoon Tea Reimagined จิบน้ำชายามบ่ายอย่างไรให้อิ่มมากที่ Siam Kempinski

12.10.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • การเสิร์ฟสโคนของที่นี่ พนักงานจะถือกล่องไม้ปริศนามาวางตรงหน้า ก่อนเดินเข้ามาพรีเซนต์สโคนด้วยการเปิดกล่อง เปิดผ้า และเอาเข็มกลัดสีทองสวยกลัดไว้ให้ และนั่นคือหนึ่งเพอร์เฟกต์ช็อตสำหรับอินสตาแกรม
  • สิ่งที่เติมเต็มให้เรารู้สึกดีมากที่สุดดูจะเป็นการเสิร์ฟ ‘ลูกชุบ’ มาบนต้นไม้แห้งจำลอง ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังเด็ดผลไม้สดๆ กินจากต้น

เวลาได้ยินเรื่องกิจกรรม ‘การจิบน้ำชายามบ่าย’ เราฟังดูแล้วก็จะนึกภาพกิจกรรมดังกล่าวว่าต้องเป็นช่วงเวลาที่มีจริตเยอะแยะยุบยับ กินขนมชิ้นเล็กชิ้นน้อยในสวนหน้าบ้าน พร้อมดื่มชาร้อนๆ นั่งใช้เวลาพูดคุยสนทนา หัวร่อต่อกระซิกพลางเอามือป้องปากอย่างน่าเอ็นดู…แต่ไม่ได้รู้สึกอิ่มท้อง ซึ่งนั่นก็ถูกต้องแล้ว เพราะอาฟเตอร์นูนทีเป็นเพียงมื้อเล็กระหว่างวันเท่านั้นตามธรรมเนียมเดิมจากเมืองผู้ดีอังกฤษ

 

แต่กับครั้งนี้ที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ได้เปลี่ยนโฉมอาฟเตอร์นูนทีแบบเดิมๆ ของพวกเขาให้กลายมาเป็น ‘Afternoon Tea Reimagined’ ตีความบรรยากาศและรสชาติของการจิบชายามบ่ายให้เป็นเสมือนการเสพงานแสดงย่อมๆ ไม่ใช่แค่จากตัวอาหารในคอร์ส แต่หมายรวมถึงพนักงานทุกคนที่สวมบทบาทเป็นนักแสดง ใส่เครื่องหัวแบบ Royal Ascot คอยสร้างบรรยากาศการจิบน้ำชายามบ่ายในโรงแรมให้กลายเป็นงานแข่งม้าของผู้ดีอังกฤษได้ในทันตา ที่สำคัญ มันอิ่มท้องเกินพอดีมากๆ!

 

 

หลังจากคุณตัดสินใจแล้วว่าจะใช้เวลายามบ่ายนี้กับใคร ระหว่างชาคุณภาพนำเข้าอย่าง Ronnefeldt หรือกาแฟคั่วบดใหม่จาก Lavazza ซึ่งในช่วงเวลานี้พนักงานจะเข็นรถคันโตโก้เก๋ผ่านโต๊ะมาทางเราและหยิบจับตัวอย่างชามาให้เราดมเลือกรสชาติ ซึ่งแค่นี้ก็ตื่นเต้นมากแล้ว เพราะมันดูมีจริตเวอร์ๆ ที่น่าหมั่นไส้และน่ารักอยู่ในที ก่อนจะเริ่มต้นคอร์สแรกกันอย่างน่ารักน่าชังกับการออกแบบหน้าตาคานาเป้ให้ออกมาหวือหวาทั้งวิธีการเสิร์ฟและรสชาติที่น่าจะถูกใจหลายคนได้ไม่ยาก เพราะเสิร์ฟมาในปิ่นโตเซรามิกสีพาสเทลสดใส นำเสนอของว่างพร้อมขนมขนาดพอดีคำมาบนก้อนหินบ้าง หรือฟางแห้งบ้าง เหมือนนั่งปิกนิกเปิดปิ่นโตข้างเถียงนาแบบพรีเมียม

 

 

เราชอบขนมแครกเกอร์มัสมั่นเป็ดเป็นพิเศษ แต่ครั้นจะเรียกว่าแครกเกอร์ก็ฟังดูไกลตัว เพราะลักษณะของจานนี้เหมือนข้าวตังที่มีมัสมั่นเป็ดปาดอยู่ข้างบน ซึ่งรสชาติของมัสมั่นนั้นหอมอร่อย และจะยิ่งถูกปากมากขึ้นเมื่อมีรสสัมผัสกรอบๆ ของข้าวตัง นอกจากนี้ฟากของหวานอย่างขนมทองม้วนไส้ชาไทยและครีมโคนชาเขียวน้ำผึ้งผสมมะนาวที่ออกแบบมาคล้ายๆ ไอศกรีมโคนจิ๋วก็น่าประทับใจ นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี สามารถเรียกน้ำย่อยทางน้ำลายและความว้าวทางสายตาได้ครบถ้วน

 

 

คอร์สถัดมาเริ่มจริงจังขึ้นมาหน่อยกับการเสิร์ฟเมนูแซนด์วิชโฮมเมด โดยไฮไลต์อยู่ที่เมนูแซลมอนที่ใช้แซลมอนรมควันสดใหม่เสิร์ฟให้รับประทานแกล้มกับขนมปังพัมเพอร์นิกเกิล ซึ่งเป็นขนมปังไรย์รสชาติเยี่ยม พร้อมเครื่องเคียงมากมายที่มีให้เลือกตามใจชอบอย่าง Crab Rillettes, เนยฮอร์สแรดิช, มะนาว และเคเปอร์ดอง นอกจากนี้ในคอร์สยังมีเมนูซาลาเปาไส้หมูบาร์บีคิวกับแซนด์วิชสะเต๊ะไก่ที่รสชาติน่าประทับใจด้วย ชักจะเริ่มตึงๆ ท้องตั้งแต่คอร์สที่ 2 แล้ว!

 

 

แน่นอนว่าถ้าจัดอาฟเตอร์นูนทีจะไม่มี ‘สโคน’ มันเป็นไปไม่ได้ และการเสิร์ฟสโคนของที่นี่ก็ใช่จะธรรมดา เพราะพนักงานเสิร์ฟจะถือกล่องไม้ปริศนามาวางตรงหน้า กรุ่นกลิ่นหอมๆ เล็ดลอดออกมา ก่อนที่จะเริ่มพรีเซนต์สโคนด้วยการเปิดกล่อง เปิดผ้า และเอาเข็มกลัดสีทองสวยกลัดไว้ให้ (และนั่นคือหนึ่งเพอร์เฟกต์ช็อตสำหรับอินสตาแกรม!) เสิร์ฟมาพร้อมกับครีม 3 รสชาติทั้ง Clotted Cream, Passionfruit Cream ที่รสชาติของเสาวรสให้ความเปรี้ยวหวานละมุนบางๆ และสุดท้ายคือโฮมเมดแยมราสป์เบอร์รี ซึ่งถูกปากเราอย่างมาก เพราะสโคนที่นี่หอมและไม่แห้งผากจนเกินไป

 

 

คอร์สที่ 4 เป็นคราวของ ‘เอแคลร์’ ซึ่งมีมาให้คุณเลือกถึง 5 รสชาติ โดยพนักงานจะเดินถือถาดขนาดใหญ่เข้ามาให้คุณได้ชมและเลือกอย่างใกล้ชิด พร้อมบรรยายรสชาติของแต่ละรสอย่างหวือหวาเสียจนน้ำลายสอ อารมณ์ดีสุดๆ! ซึ่งต้องยอมรับว่าเอแคลร์ของที่นี่ทำได้หวานเนียนละมุน แต่ถ้าให้เลือกที่ชอบเป็นพิเศษขอแนะนำ ‘เอแคลร์แอปริคอต’ ที่โดดเด่นและมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุด

 

ก่อนส่งท้ายด้วยความพิเศษของชุดน้ำชายามบ่ายกับคอร์สขนมหวานที่เสิร์ฟเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำ เช่น มาร์ชเมลโล พราลีนช็อกโกแลต และขนมมาการอง แต่สิ่งที่เติมเต็มให้เรารู้สึกดีมากที่สุดดูจะเป็นการเสิร์ฟ ‘ลูกชุบ’ มาบนต้นไม้แห้งจำลองที่ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังเด็ดผลไม้สดๆ กินจากต้น ถือเป็นการปิดท้ายอาฟเตอร์นูนทีครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

 

ต้องบอกตรงๆ ว่าเมื่อจบคอร์สแล้วเรารู้สึกอิ่มเกินกว่าจะเรียกมันว่าอาฟเตอร์นูนที อันเนื่องมาจากขนาดและปริมาณที่เกินพอดีคำ แต่นั่นก็เหมาะสมที่สุดแล้วสำหรับสุดสัปดาห์ที่คุณอยากหามื้อพิเศษที่ไม่เบาและไม่หนักจนเกินไป รวมถึงบรรยากาศและการให้บริการของพนักงานที่ต่างสวมบทบาทประหนึ่งนักแสดงก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกสนุกสนานไปกับวิธีการพรีเซนต์และการเสิร์ฟของพวกเขาได้อย่างหมดใจ นับเป็นการสร้างสุนทรียะใหม่ๆ ของการจิบชายามบ่ายที่ไม่ใช่แค่รสชาติดี แต่บรรยากาศโดยรอบยังทำให้เรารู้สึกดีไปด้วย ว่าแล้วก็ไปหาหมวกปีกกว้างมาใส่สักใบดีกว่า!

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

FYI
  • Afternoon Tea Reimagined เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 14.00-17.00 น. บริเวณหนุมานบาร์ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ราคาเพียง 999 บาท++ ต่อเซตสำหรับ 1 ท่าน (5 คอร์ส) รวมชาหรือกาแฟ โดยคุณสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่โทร. 0 2162 9000 หรือ [email protected]
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising