A Killer Paradox หน้ากากความยุติธรรม ซีรีส์เรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่นำแสดงโดย ชเวอูชิก ซนซอกกู และ อีฮีจุน ซึ่งนอกจากความพิเศษในการประสานพลังของทั้ง 3 นักแสดงตัวแกร่งแล้ว พล็อตของซีรีส์เรื่องนี้ก็นับว่าน่าสนใจ และยิ่งถ้าได้รับชมซีรีส์แล้วก็บอกได้แค่ว่า ‘ทำถึง’ ของจริง
A Killer Paradox เล่าเรื่องราวของ อีทัง (รับบทโดย ชเวอูชิก) นักศึกษามหาวิทยาลัยที่มีชีวิตแสนธรรมดาจนถึงขั้นไร้แรงบันดาลใจ แม้จะมีความฝันในการไปใช้ชีวิตต่างประเทศ แต่ชีวิตจริงทำได้เพียงเรียนหนังสือและทำงานพาร์ตไทม์วนไป ในค่ำคืนหนึ่งระหว่างทางกลับบ้าน อีทังได้ก่อเหตุฆาตกรรมโดยไม่ได้ตั้งใจ และเหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างที่ทำให้ชีวิตธรรมดาๆ ของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
จางนันกัม (รับบทโดย ซนซอกกู) ตำรวจสายสืบที่มีนิสัยกัดไม่ปล่อย และด้วยสัญชาตญาณที่มี เขารู้สึกได้ว่าอีทังต้องมีความเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่กำลังสืบสวนอยู่ แต่ก็หาหลักฐานมาเอาผิดไม่ได้สักที แต่ถึงอย่างนั้นจางนันกัมก็พยายามอย่างไม่ลดละในการที่จะตามล่าฆาตกรตัวจริงมาให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม
ซงชน (รับบทโดย อีฮีจุน) อดีตตำรวจที่ออกจากราชการด้วยเหตุผลบางอย่าง เขามีนิสัยแปลกๆ ที่ดูเหมือนจะเลวร้าย บิดเบี้ยว แต่ก็คาดเดาไม่ได้ และเมื่อทั้ง 3 คนได้มาเจอกัน เรื่องราวจะไปในทิศทางใดก็ยากจะคาดเดา แนะนำให้รีบรับชมก่อนโดนสปอยล์ เพราะซีรีส์ A Killer Paradox ออนแอร์แล้วตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
THE STANDARD POP มีโอกาสสัมภาษณ์นักแสดงนำทั้ง ชเวอูชิก ซนซอกกู และ อีฮีจุน เกี่ยวกับเบื้องหลังการทำงาน ความคิดเห็น และความรู้สึกของการได้มาร่วมงานกันในครั้งนี้
‘อีทัง’ เป็นสไตล์ตัวละครในแบบที่เราไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักในสื่อบันเทิงของเกาหลี ใต้ ก่อนจะตัดสินใจรับงานนี้ คุณรู้สึกอย่างไรกับคาแรกเตอร์นี้บ้าง
ชเวอูชิก: บทบาทที่ผ่านๆ มาของผมส่วนใหญ่จะเน้นเป็นผู้เล่าเรื่อง (Storyteller) ซึ่ง A Killer Paradox ก็เปิดโอกาสให้ผมได้แสดงให้เห็นการเติบโตของอีทังครับ
ผมเองชอบคาแรกเตอร์นี้ตั้งแต่ได้อ่านต้นฉบับที่เป็นเว็บตูนแล้ว นอกจากจะเป็นโอกาสในการแสดงอีกแง่มุมหนึ่งที่ผมไม่เคยได้ลองมาก่อน การเปลี่ยนแปลงของตัวละครนี้ยังเป็นสิ่งแปลกใหม่ในสื่อบันเทิงเกาหลีใต้อีกด้วย ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและสนุกไปกับการรับบทนี้ครับ
สำหรับซนซอกกูที่เคยรับบทเป็นตำรวจมาแล้วหลายเรื่อง อยากรู้ว่าคาแรกเตอร์ตำรวจครั้งนี้ต่างจากเรื่องอื่นอย่างไร และคุณมีวิธีการแบบไหนในการตีความตัวละครนี้
ซนซอกกู: บทตำรวจ ‘จางนันกัม’ ที่ผมรับบทในเรื่องนี้ ผมคิดว่าเขาเป็นคนที่มีปัญหาอยู่ในใจมาเป็นเวลานานว่าใครกันแน่ที่มีสิทธิ์ลงโทษคนอื่น ใครที่จะเป็นคนพิพากษาผู้กระทำผิด และความคิดนี้ก็ส่งอิทธิพลต่อตัวตนของนันกัมเองและพฤติกรรมต่างๆ ที่เขาแสดงออกมา จริงๆ แล้วเขาก็คือตำรวจทั่วๆ ไปครับ
อีฮีจุน: ตัวละครนี้มีความเป็นชายสูงกว่าตัวละครไหนเลยครับ แล้วก็เซ็กซี่กว่าใครๆ ด้วย
ซนซอกกู: งั้นผมขอเปลี่ยนคำตอบได้ไหมครับ ขอตอบสั้นๆ เลยครับว่าจางนันกัม ตัวละครของผมเซ็กซี่กว่าใครๆ ครับ (หัวเราะ)
ซงชนเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนสูง อยากรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณรู้สึกเพลิดเพลินมากที่สุดในการรับบทเป็นตัวละครนี้
อีฮีจุน: ผมเพิ่งอายุครบ 18 ปีเองครับ แต่ตัวละครที่ผมรับบทกลับมีอายุถึง 65 ปี (หัวเราะ)
เนื่องจากผมรับบทเป็นคนมีอายุ จึงต้องใช้เวลาในการแต่งหน้าแต่งตัว 2 ชั่วโมง และลบออกอีก 1 ชั่วโมงในทุกๆ วันครับ ทุกครั้งที่แต่งตัว ผมหลับตาผ่านไปสัก 2 ชั่วโมง ก็จะตื่นมาเจอกับคนแก่คนหนึ่ง มันก็เป็นประสบการณ์ที่สนุกและเพลิดเพลินดีครับ
นอกจากนี้ผมจะคอยสังเกตและศึกษาพฤติกรรมของผู้สูงอายุ อีกทั้งตัวละครซงชนเองก็เป็นฆาตกรต่อเนื่อง แต่ยังมีเหตุผลที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้เขามุ่งมั่นพยายามที่จะเจอกับฆาตกรต่อเนื่องอีกคนที่อายุน้อยกว่า การตีความและเข้าถึงความคิดของเขาในจุดนี้ก็เป็นส่วนที่น่าสนใจเช่นกันครับ
สำหรับชเวอูชิก ต้องเตรียมตัวอย่างไรในการรับบทฆาตกร และอะไรคือความท้าทายสำหรับการรับบทบาทครั้งนี้
ชเวอูชิก: แทนที่จะมองว่าผมกำลังสวมบทเป็นฆาตกรหรือนักฆ่า ผมอยากเน้นไปที่ตัวตนของตัวละคร ‘อีทัง’ โดยเฉพาะในด้านวิวัฒนาการและการแสดงออกถึงความรู้สึกของเขามากกว่าครับ
เนื่องจากในแต่ละฉากที่ผมเล่นก็คือแต่ละสถานการณ์ที่อีทังต้องเผชิญ ผมจึงเน้นวิเคราะห์ว่าถ้าผมเป็นอีทังแล้วผมจะทำอย่างไรดี จะรู้สึกแบบไหน จะแสดงสีหน้าออกมาอย่างไร ซึ่งผมเองก็ได้ปรึกษากับผู้กำกับอยู่หลายครั้งเพื่อทำความเข้าใจและเข้าถึงตัวละครนี้ให้ได้ดียิ่งขึ้นครับ
งานโปรดักชันของ A Killer Paradox ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการตัดสลับระหว่างฉาก งานกำกับศิลป์ (DOP) และดนตรีประกอบของซีรีส์ ทำให้นึกถึงงานของผู้กำกับคนดังอย่าง เควนติน ทารันติโน และ เดวิด ฟินเชอร์ อยากรู้ว่าระหว่างการถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้าง ผู้กำกับอีชางฮีมีความพิถีพิถันมากขนาดไหน
ซนซอกกู: ผมเองก็เคยดูและชื่นชอบผลงานของทั้งผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ และ เควนติน ทารันติโน ดังนั้นโดยส่วนตัวแล้วผมจึงมองว่าผู้กำกับอีชางฮีมีความแตกต่างออกไปนะครับ ผู้กำกับทั้งสองที่กล่าวถึงมีการทำงานตามกรอบหรือบรรยากาศที่ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว แต่ผู้กำกับอีชางฮีดูจะชอบถ่ายทำแบบดิบๆ มากกว่า
ถึงแม้ว่าจะมีการวางแผนการถ่ายทำไว้ก็ตาม แต่เขาก็จะยอมให้มีปัจจัยอื่นที่ไม่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้า ส่งผลในการสร้างงานด้วยครับ อย่างเช่น ฉากที่พูดคุยกันก็จะไม่ได้ถ่ายแบบภาพยนตร์ ซึ่งมักเป็นการถ่ายทีละคน แต่จะถ่ายโดยจับภาพพร้อมกันเลยทีเดียว ทำให้ผู้ชมมองเห็นภาพที่เป็นจริงเหมือนไม่ได้สร้างขึ้นมา แต่เป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ครับ
ผมมองว่าสไตล์การถ่ายทอดค่อนข้างต่างกันนะครับ ผู้กำกับอีชางฮีจะถ่ายทอดออกมาเหมือนเป็นละครเวทีเลยครับ ไม่ใช่แค่เซ็ตอัพกล้องแล้วให้พูดตามบทไปก็เสร็จ ดังนั้นในฐานะของนักแสดง พวกเราจึงมีอิสระในการทำงานมากขึ้นครับ
อีจีฮุน: สำหรับผมก็มีครั้งหนึ่งที่ต้องถ่ายทำฉากแอ็กชัน สู้กับศัตรูกว่า 10 คนครับ พอต้องถ่ายเป็น Full Shot ตลอดทั้งฉาก จึงทำให้ผมไม่สามารถใช้นักแสดงแทนได้ ต้องเล่นเองทั้งหมดเลย ส่วนความประทับใจต่อผู้กำกับในช่วงการถ่ายทำ ผู้กำกับจะคอยถามนักแสดงแต่ละคนเรื่องการตีความตัวละครตลอดว่าคิดว่าตัวละครน่าจะพูดว่าอย่างไร จะทำอย่างไรต่อไป แล้วก็นำไปปรับเปลี่ยนบทจริงๆ ให้ด้วยครับ
มองว่า ‘อีทัง’ เป็นฮีโร่หรือตัวร้าย?
ชเวอูชิก: เป็นคำถามที่ยากมากเลยนะครับ ผมว่าหลายๆ คนก็น่าจะมองเขาแตกต่างกันออกไปด้วย ผมเองก็ไม่กล้าตอบเยอะ เพราะกลัวว่าจะเป็นการสปอยล์ แต่ทั้งตัวอีทังและผู้ชมเองก็คงเกิดคำถามนี้ในใจอยู่ตลอดการรับชมหรือหลังดูเรื่องนี้จบไปแล้วก็ตาม ผมยังคิดไม่ตกมาจนถึงตอนนี้ จึงยากที่จะตอบฟันธงให้ได้ครับ
อีฮีจุน: อย่างที่ทราบกันว่าชื่อเรื่องในภาษาอังกฤษคือ A Killer Paradox แต่จริงๆ จะมีกิมมิกในชื่อเรื่องที่เป็นภาษาเกาหลีด้วยครับ ซึ่งชื่อเกาหลีคือ 살인자ㅇ난감 ครับ ดังนั้นจะเห็นว่าตัวอักษรที่เป็นเหมือนวงกลมตัวกลางจริงๆ แล้วจะสามารถตีความได้หลายความหมายมากเลยครับ เช่น อ่านเป็น ‘โอ!’ เหมือนตอนอุทาน โดยตีความได้ว่า ‘โอ! ฆาตกรเริ่มตกใจทำอะไรไม่ถูกแล้ว’ หรือถ้าจะใส่ไปเป็นตัวสะกดของคำว่า 자 ก็จะแปลเป็นคำศัพท์ได้เลยว่า ‘ฆาตกรและของเล่น’ โดยคำว่าของเล่นในภาษาเกาหลีก็ยังไปตรงกับชื่อตัวละคร ซึ่งก็คือจางนันกัมได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นการตีความจึงขึ้นอยู่กับการอ่านออกเสียงชื่อเรื่อง ทำให้สื่อได้ว่าเราสามารถตีความเรื่องนี้ได้ในหลายทิศทางครับ
ซนซอกกู: ผมคิดว่าอีทังเป็นคนไม่ดีครับ ไม่ดีมากๆๆๆ เลยครับ แต่ถ้าเป็นอูชิกนี่ถือเป็นฮีโร่ของผมเลย
A Killer Paradox กำกับโดย อีชางฮี เขียนบทโดย คิมดามิน นำแสดงโดย ชเวอูชิก, ซนซอกกู และ อีฮีจุน ออกอากาศทาง Netflix วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2024 โดยจะมีทั้งหมด 8 อีพี
รับชมตัวอย่างซีรีส์ A Killer Paradox ได้ที่: