×

การเข้ามาของนักลงทุนสถาบันและความสนใจของคนรุ่นใหม่ในสินทรัพย์ดิจิทัลคือจุดเปลี่ยนที่จะดัน ‘คริปโต’ สู่กระแสการลงทุนหลักในปี 2024?

16.10.2024
  • LOADING...
คริปโต

HIGHLIGHTS

5 min read
  • ปี 2024 อาจเป็นปีที่สินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่กระแสหลัก
  • Bitcoin กำลังได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงินระดับโลกมากขึ้น รวมทั้งอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวมก็มีนักลงทุนรุ่นใหม่ในไทยสนใจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา
  • จำนวนผู้ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยมีประมาณ 6.9 ล้านคน คิดเป็น 9.6% ของประชากรทั้งหมด
  • การเปลี่ยนสินทรัพย์ในโลกจริงให้อยู่ในรูปแบบโทเคน (Real World Assets Tokenization) เพิ่มการเข้าถึงตลาดการเงินแบบไร้พรมแดนและทำให้เกิดการใช้งานเทคโนโลยี

ย้อนกลับไปในปี 1995 บิล เกตส์ เคยถูกถามกลางรายการทีวีว่า “ทำไมคนต้องสนใจอินเทอร์เน็ต?”

 

คำตอบของบิลในเวลานั้นคืออินเทอร์เน็ตทำให้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลตามเวลาที่ต้องการได้ เช่น ฟังการแข่งขันกีฬาและเลือกฟังเมื่อตนเองสะดวก แต่คำอธิบายของเขาก็กลับถูกโต้โดยพิธีกรว่าวิทยุกับเทปบันทึกเสียงก็ทำได้เช่นกัน

 

ความใหม่ ความไม่เข้าใจ และการไม่เห็นประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ณ เวลานั้น ล้วนเป็นเหตุผลที่บางคนเลือกจะมองข้ามมันไป แต่ในปัจจุบันคงไม่มีใครปฏิเสธ ‘ประโยชน์’ ที่อินเทอร์เน็ตมอบให้กับชีวิตประจำวันของคนทั่วโลกและบทบาทของมันต่อระบบเศรษฐกิจยุคดิจิทัลได้

 

การเข้าสู่กระแสหลักโลกของ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีใหม่อย่างสินทรัพย์ดิจิทัลก็กำลังเผชิญกับการถูกตั้งข้อสงสัยเฉกเช่นเดียวกับที่อินเทอร์เน็ตเคยเจอในอดีต แต่ นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Binance TH โดย Gulf Binance มองว่าภาพเหล่านั้นกำลังจะเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเทคโนโลยีเริ่มมีการถูกใช้ประโยชน์ในโลกจริงแล้ว

 

“แม้ว่าวันนี้คนบางกลุ่มอาจจะยังไม่เข้าใจสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ถ้าเรามองจากมุมของคนในบางประเทศที่ต้องเจอกับเงินเฟ้อระดับสองหลัก สินทรัพย์อย่างเช่น Bitcoin ก็เข้ามาตอบโจทย์การเก็บมูลค่าของพวกเขา หรือในวันนี้สถาบันการเงินระดับโลกก็เริ่มยอมรับมันมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและประโยชน์ที่กำลังแพร่กระจายออกไป” นิรันดร์กล่าว

 

คริปโต

 

นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Binance TH โดย Gulf Binance

 

ความมั่นใจและแนวโน้มการยอมรับระดับโลกจึงทำให้เกิดคำถามว่า…

 

ปี 2024 จะเป็นปีที่ดีที่สุดสำหรับตลาด คริปโต หรือไม่?

 

นเรศ เหล่าพรรณราย นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ย้ำถึงความสำคัญของปี 2024 โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมจากสถาบันการเงินระดับโลกและความชัดเจนด้านกฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแล

 

“ตลาดสำคัญต่างๆ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และดูไบ เริ่มมีความก้าวหน้าในการกำหนดกฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งช่วยผลักดันการเติบโตของตลาดคริปโตที่ผมมองว่าปีนี้จะเป็นปีที่ คริปโต เริ่มเข้าสู่กระแสหลัก” นเรศกล่าว

 

การเข้าสู่กระแสหลักของอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีที่นำโดย Bitcoin ได้รับปัจจัยสนับสนุนในช่วงที่ผ่านมา เช่น Bitcoin Halving เมื่อกลางเดือนเมษายนของปีนี้ และการอนุมัติกองทุน Bitcoin Spot ETF ในสหรัฐฯ ที่ทำให้ผู้เล่นระดับสถาบันการเงินเข้าถึงได้โดยมีกฎเกณฑ์กำกับดูแลอย่างชัดเจน โดยข้อมูลจาก TrackInsight เผยว่ากองทุน Bitcoin Spot ETF ที่ได้รับการอนุมัติไปเมื่อต้นปีถือครองสินทรัพย์รวมกว่า 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ทั้งนี้ เทรนด์ที่สภาพคล่องทางการเงินมีแนวโน้มที่จะเดินหน้าสู่ช่วงผ่อนคลายก็จะเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนบางกลุ่มยอมรับระดับความเสี่ยงในการลงทุนได้มากขึ้น

 

“ถ้าพูดถึงเรื่องผลตอบแทน Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปีนี้ เป็นโอกาสให้นักลงทุนเริ่มศึกษาก่อนที่จะหาโอกาสลงทุน” พิริยะ สัมพันธารักษ์ ผู้ก่อตั้ง Right Shift กล่าว

 

นอกจากนี้หากมองในภาพรวมของอุตสาหกรรม การนำสินทรัพย์ในโลกจริงมาแปลงให้อยู่ในรูปแบบโทเคน (Real World Assets Tokenization) ภายใต้การเข้ามาของเหล่าสถาบันการเงินก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำคัญที่จะเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างโลกดั้งเดิมและโลกดิจิทัล โดยสินทรัพย์ที่ใช้โทเคนเป็นตัวแทน เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หรืออสังหาริมทรัพย์

 

รายงานจาก Binance ระบุว่า มูลค่ารวมของสินทรัพย์ในโลกจริง (Real World Assets: RWAs) บนบล็อกเชนแตะระดับ All-Time Highs อยู่ที่ 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่รวมตลาด Stablecoins ที่มีมูลค่ากว่า 175 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยตราสารหนี้นอกตลาด (Private Credit) คิดเป็นส่วนที่มีมูลค่ามากที่สุดในตลาด ประมาณ 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีสัดส่วนถึง 70% ของมูลค่า RWA

 

ผศ. ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน ผู้ร่วมก่อตั้ง FWX มองว่าการเปลี่ยนสินทรัพย์ดั้งเดิมให้อยู่ในรูปแบบโทเคนจะยิ่งทำให้การเข้าถึงผลิตภัณฑ์การเงินเป็นไปได้อย่างไร้พรมแดนและสามารถจัดการชำระบัญชี (Settlement) ได้แบบเรียลไทม์ เช่น การซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ ก็จะเข้าถึงได้ง่ายขึ้นโดยที่ผู้ใช้งานจะได้เงินทันที ถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับสินทรัพย์ทางการเงินให้ไปสู่คนทั่วโลกได้ง่ายขึ้น

 

 

 

ลมเปลี่ยนทิศในตลาดทุน เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มสนใจสินทรัพย์ดิจิทัล

 

ข้อมูลจาก World Population Review เผยว่า ประเทศไทยมีจำนวนการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลราว 6.9 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด หรือราว 9.6% ซึ่งอยู่ที่อันดับ 13 ของโลก

 

แม้ว่าตัวเลขราว 10% อาจฟังดูน้อย แต่ ดร.กร พูนศิริวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และผู้อำนวยการ Binance TH Academy มองว่าแนวโน้มกำลังเปลี่ยนไป โดยเขาระบุว่า “ในปัจจุบันนักศึกษาที่เริ่มเข้าสู่โลกการลงทุนส่วนใหญ่แทบจะลงทุนในคริปโตเกือบหมดแล้ว หากเราย้อนกลับไปดูข้อมูลเพียงแค่ 4 ปีที่ผ่านมา เราจะพบว่าการลงทุนของกลุ่มวัยรุ่นจะมี ‘หุ้น’ เป็นสินทรัพย์ที่ครองสัดส่วนหลัก ในขณะที่ตอนนี้ 50-60% เป็นการลงทุนคริปโตแล้ว และมีประมาณ 10% ที่เป็นหุ้น”

 

อย่างไรก็ตาม ข้อท้าทายสำคัญที่ในฝั่งของ Binance TH ต้องการจะแก้ไขคือการให้ความรู้เพื่อทำให้กลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่เข้าใจว่าตนเองกำลังนำเงินไปลงทุนกับอะไรและไม่ประมาทจนเกิดความเสียหาย

 

สินทรัพย์มีตั้งมากมาย เหตุใดต้องหันมาสนใจเหรียญอย่าง Bitcoin?

 

ท่ามกลางสินทรัพย์และผลิตภัณฑ์การเงินที่มีให้นักลงทุนเลือกอย่างหลากหลายในปัจจุบัน คำถามที่มักจะตามมาคือทำไมนักลงทุนจำเป็นต้องหันมาสนใจ Bitcoin?

 

ประเด็นนี้ พิริยะชวนตั้งคำถามให้เห็นความสำคัญของ Bitcoin ผ่านแนวคิดที่ถูกบอกต่อๆ กันมาว่า “เราต้องนำเงินที่ได้มาไปลงทุนต่อ” ซึ่งอาจจะไม่เป็นสิ่งที่จริงเสมอไป เพราะสาเหตุที่หลายคน ‘ต้อง’ นำเงินของตนไปลงทุนมาจากสิ่งที่ถูกใช้เป็น ‘เงิน’ ในปัจจุบันเสื่อมมูลค่าลงตลอดเวลา ส่งผลให้คนถูกบีบเข้าสู่ตลาดทุนทั้งที่บางคนยังไม่มีความรู้เพียงพอที่จะลงทุน

 

พิริยะ สัมพันธารักษ์ ผู้ก่อตั้ง Right Shift

 

“เงินควรจะเป็นสิ่งที่เก็บรักษามูลค่าได้ แต่ในปัจจุบันผู้คนไม่สามารถออมเงินเฉยๆ เพื่อรักษาความมั่งคั่งเอาไว้ได้ ทำให้หลายคนต้องนำเงินไปลงกับสินทรัพย์ที่สร้างได้ยาก ซึ่ง Bitcoin ก็เป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ไม่สามารถถูกทำให้เสื่อมมูลค่าได้ มีความแตกต่างจากสินทรัพย์อื่น มีจำนวนจำกัด ผลิตเพิ่มไม่ได้ มีต้นทุนในการผลิตที่ชัดเจน และใครก็สามารถตรวจสอบได้ว่ามี Bitcoin จำนวนเท่าไรอยู่ในตลาด”

 

แม้ว่าในประเทศไทยอาจจะยังไม่มีจำเป็นต้องใช้ Bitcoin แต่ถ้าเราข้ามไปมองผ่านเลนส์ของคนในประเทศอย่างเช่น อาร์เจนตินา เอลซัลวาดอร์ หรือตุรกี ที่ต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อรุนแรง เหรียญดิจิทัลตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ประชาชนในประเทศเหล่านั้นเลือกที่จะใช้เป็นที่เก็บมูลค่าในวันที่สกุลเงินของพวกเขาแทบไม่เหลือมูลค่าแล้ว

 

ในอดีตการถูกตั้งข้อสงสัยและความไม่มั่นใจคือสิ่งปกติที่เกิดขึ้นกับเทคโนโลยีใหม่ แต่เวลาจะเป็นผู้ตัดสินคุณค่าที่แท้จริงของมัน เหมือนกับที่อินเทอร์เน็ตเคยผ่านมา ซึ่งการเริ่มเข้ามามีบทบาทของสินทรัพย์ดิจิทัลในระบบเศรษฐกิจของบางประเทศ การเริ่มยอมรับจากสถาบันการเงินระดับโลก และความสนใจจากนักลงทุนรุ่นใหม่ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญในวงการมองว่าปี 2024 เป็นช่วงเวลาที่สำคัญต่อการเข้าสู่กระแสหลักของคริปโตเคอร์เรนซี

 

คำเตือน: 

  • คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising