×

น้ำท่วมฉุดยอดขายค้าปลีก-สินค้า แม้บางกลุ่มเพิ่งรับ 10,000 บาท แต่อาจต้องนำไปซ่อมบ้านแทนจับจ่าย

08.10.2024
  • LOADING...

เสียงสะท้อนจากมุม ‘ค้าปลีก-สินค้า’ มั่นใจ น้ำท่วมภาคเหนือกระทบยอดขายระยะสั้น แต่มีผลต่อกำลังซื้อ แม้บางกลุ่มเพิ่งได้รับเงิน 10,000 บาทมา แต่อาจต้องซ่อมแซมบ้านแทนการจับจ่าย พร้อมย้ำ สินค้า FMCG ยังขายได้ แต่สินค้าพรีเมียมอาจแย่ โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่คนรายได้น้อยยังติดกับดักหนี้ครัวเรือนสูง 

 

แหล่งข่าวในแวดวงธุรกิจค้าปลีกฉายภาพกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ภาพรวมค้าปลีกปี 2567 คาดว่าจะโต 3.5 จากแรงหนุนของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไฮซีซันของการท่องเที่ยว รวมถึงการพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการแจกเงิน 10,000 บาทที่เพิ่งให้กลุ่มเปราะบางไป 

 

แต่ต้องยอมรับว่าบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในกรุงเทพมหานครหรือภาคกลางยังพอไปได้ สวนทางกับต่างจังหวัด ยิ่งในภาคเหนือมาเจอน้ำท่วมซ้ำเข้าไปอีกก็ยิ่งเหนื่อยกันมากขึ้น และแน่นอนว่ามีมูลค่าความเสียหายมากมายแน่นอน 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ยิ่งไปกว่านั้น หลายครัวเรือนยังติดหล่มปัญหาหนี้สิน สวนทางกับภาระค่าใช้จ่าย อีกทั้งตลาดแรงงานไม่มีการจ้างงานเพิ่ม ทำให้กำลังซื้อไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างที่หลายคนคาดการณ์ 

 

เมื่อเจาะลึกมาดูที่กลุ่มสินค้าที่ยังสร้างยอดขายได้หรือยอดขายจะไม่ลดลงไปกว่านี้แล้วคือ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เริ่มตั้งแต่สบู่ ยาสีฟัน และผงซักฟอก ซึ่งล้วนเป็นสินค้าจำเป็น แต่สินค้าพรีเมียมที่มีราคาสูงนั้นค่อนข้างลำบาก หากมีสินค้าที่ทดแทนกันได้และราคาถูกกว่า ลูกค้าก็จะเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาถูกกว่า 

 

บางคนเลือกนำเงิน 10,000 บาทไปซ่อมแซมบ้าน แทนการซื้อสินค้าไม่จำเป็น

 

วิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคเหนือ แม้จะท่วมยาวแต่กระทบเป็นบางจุด จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และลำพูน ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อยอดขายบ้างในช่วงนี้ เนื่องจากร้านค้าไม่สามารถเปิดทำการค้าขายได้ 

 

เช่นเดียวกับศรีนานาพรที่ปลายเดือนที่แล้วยอดขายลดลง ซึ่งเป็นทุกบริษัท แต่บังเอิญว่าจังหวัดเชียงใหม่เริ่มเข้าช่วงไฮซีซัน น้ำท่วมจึงมีผลกระทบแค่ระยะสั้น และเมื่อมีเงินกระตุ้น 10,000 บาทจากภาครัฐเข้ามาก็พอช่วยได้บ้าง 

 

แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ น้ำท่วมมีผลต่อบรรยากาศ อารมณ์ และความรู้สึก ในการจับจ่าย ถ้าผู้คนมีเงินอยู่แค่นี้ก็อาจเลือกเอาเงินไปซ่อมแซมบ้าน แทนที่จะนำเงินจะมาซื้อของไม่จำเป็น

 

ดังนั้นศรีนานาพรจึงต้องเร่งจัดโปรโมชันและออกสินค้าใหม่ๆ เพื่อรองรับฤดูขายในช่วงไตรมาส 4 และเชื่อว่าภายหลังจากที่เหตุการณ์เริ่มคลี่คลาย ผู้บริโภคจะกลับมา ใช้จ่ายอีกครั้ง

 

รายได้ค้าปลีกภาคเหนือสะดุด แต่ไม่หวั่น เชื่อกระทบระยะสั้น

 

ภญ.อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่รุนแรงมากที่สุดตั้งแต่ที่เคยเจอมา ช่วงแรกๆ อาจทำให้ร้านค้าปลีกในภาคเหนือสะดุดไปบ้าง แต่มองว่าเป็นช่วงระยะสั้นเท่านั้น 

 

เนื่องจากในภาพรวมแล้วบรรยากาศการจับจ่ายของค้าปลีกยังเติบโต โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งผู้คนมีความกังวล จึงได้กักตุนอาหารแห้ง, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, น้ำดื่ม และอาหารกระป๋อง กันมากขึ้น 

 

 

เช่นเดียวกับร้านธนพิริยะ 6 สาขาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ต้องปิดร้านชั่วคราว แต่สาขาที่อำเภอแม่สายหนักที่สุด ปิดร้านไปประมาณ 10 วัน แต่ในแง่ของยอดขายไม่ได้รับผลกระทบ ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านั้นร้านได้สต็อกสินค้าเอาไว้เพื่อรองรับ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท แต่เมื่อน้ำท่วมมาก็กลายเป็นโอกาสที่จะรองรับความต้องการของผู้บริโภคได้เพียงพอ

 

สุดท้ายโอกาสในตลาดค้าปลีกต่างจังหวัดยังมีอยู่มาก เชื่อว่าหลังจากสถานการณ์ คลี่คลายจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก เพราะช่วงไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว เราจึงเตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง จากปัจจุบันมีเกือบ 50 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดพะเยา เชียงราย และเชียงใหม่ 

 

น้ำท่วมเชียงใหม่ ทำผลผลิตผัก ‘โอ้กะจู๋’ ลดไป 13%

 

ไม่เว้นแม้แต่บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ เจ้าของร้านอาหารโอ้กะจู๋ ส่วนใหญ่วัตถุดิบปลูกในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 

 

เมื่อไม่นานมานี้ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เหตุการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงใหม่ไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัท โดยร้านอาหาร 2 สาขาในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ สาขาสันทราย ตั้งอยู่ที่อำเภอสันทราย และสาขานิ่มซิตี้เดลี่ ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณสนามบินเชียงใหม่ ยังคงสามารถเปิดขายได้เป็นปกติ

 

 

แต่น้ำท่วมส่งผลกระทบต่อฟาร์มสารภี ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ของพื้นที่เพาะปลูกผักสลัดของบริษัท โดยมีกำลังผลิตประมาณวันละ 150-300 กิโลกรัม หรือคิดเป็นประมาณไม่เกินร้อยละ 13 ของกำลังการผลิตผักสลัดทั้งหมด แม้จะเกิดความเสียหายในบางส่วน แต่บริษัทได้เตรียมแผนรับมือไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเพิ่มกำลังการผลิตที่สวนสันอุ้มและรับซื้อผลผลิตเพิ่มเติมจากเกษตรกรเครือข่าย 

 

ส่วนครัวกลางและฟาร์มหลักในพื้นที่อื่นๆ ยังคงดำเนินงานตามปกติ และสามารถขนส่งผักสลัดและวัตถุดิบไปยังกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ตามปกติ

 

สุดท้ายนี้ น้ำท่วมนับเป็นวิกฤตที่เข้ามาทุบซ้ำกำลังซื้อต่างจังหวัด, ธุรกิจ, ร้านค้า, โรงแรม, ที่พัก, ร้านอาหาร และท่องเที่ยว ได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ประเมินความเสียหายของเศรษฐกิจจากน้ำท่วมสูงถึง 2 พันล้านบาท

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising