วันนี้ (25 กันยายน) ที่อาคารรัฐสภา ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นกรอบจริยธรรมนักการเมืองว่า ส่วนตัวไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งควรถามพรรคประชาชน และ พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่ทำเรื่องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ หรือ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า น่าจะมีความรู้ความเข้าใจมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ธนาธรยืนยันในหลักการเดิม ว่าเราให้อำนาจองค์กรอิสระในการกำหนดอนาคตและทิศทางของประเทศมากเกินไป จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลดอำนาจขอบเขตขององค์กรอิสระ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ใช้จริยธรรมมาตัดสินอนาคตทางการเมือง และเรายืนยันในภาพรวมตามเดิมว่า องค์กรอิสระต่างๆ ที่ดำรงอยู่ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 จำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบถ่วงดุล
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยตัดสินใจยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นจริยธรรมนักการเมือง ทำให้เหลือเพียงแค่พรรคประชาชนเพียงพรรคเดียวที่เสนอร่างนี้ขึ้นมา ธนาธรระบุว่า ข้อเท็จจริงคือตนเองยังไม่ได้ดูร่างของพรรคประชาชน และไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
สำหรับข้อครหาว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นจริยธรรมเป็นเอื้อประโยชน์ให้นักการเมืองนั้น ธนาธรกล่าวว่า ปัญหาคือการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ดูแล้วยังติดขัด มองไม่เห็นอนาคต โอกาสที่จะผ่านในปี 2570 ก็คงเป็นเรื่องยาก ดังนั้น ควรที่จะใส่ใจกับการแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 ในรายประเด็น ที่มีเรื่องเกี่ยวกับองค์กรอิสระและเรื่องจริยธรรมเหล่านี้
ธนาธรกล่าวต่อไปว่า หากไปดูในร่างของพรรคประชาชนจะเห็นได้ว่าอย่างน้อยที่สุดมีอีก 3 ฉบับ คือการยกเลิกมรดกของรัฐประหาร มาตรา 279 รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวดใหม่ คือการป้องกันการทำรัฐประหาร และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ดังนั้น จะเห็นได้ว่าพรรคประชาชนไม่ได้ยื่นแก้เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว ถ้ามาตราไหนมีปัญหาก็จะยื่นเสนอร่างแก้ไขเป็นรายมาตรา