วันนี้ (13 กันยายน) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง พร้อมขอบคุณ กษิดิศ ธีระประทีป แชมป์โลกเจ็ตสกี ที่ขับเจ็ตสกีฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ในพื้นที่
ด้านตัวแทนเจ้าหน้าที่ทหารระบุว่า สำหรับพื้นที่ที่การช่วยเหลือลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการอพยพคนหรือการส่งเสบียงอาหาร ได้มีการส่งเฮลิคอปเตอร์และหน่วยรบพิเศษเข้าพื้นที่เพื่อชี้เป้าหมายให้กับเฮลิคอปเตอร์ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือได้ตรงจุด วันนี้จะมีการนำรถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) ของกองทัพเรือ เข้าช่วยเหลืออีกด้าน คาดว่าจะสามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ยังติดอยู่อย่างน้อย 300 คน อย่างไรก็ตาม นายกฯ ได้ขอบคุณทหารที่เข้าไปช่วยเหลือตั้งแต่วันแรก
จากนั้นนายกฯ ได้เดินทางไปยังสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 (แม่สาย) พบว่าน้ำลดลงแล้ว แต่ยังมีดินโคลนจำนวนมาก ต่อมานายกฯ ได้เข้าไปทักทาย พูดคุย และสวมกอดชาวบ้านเพื่อให้กำลังใจ ยืนยันว่าไม่ทิ้งชาวบ้าน และพร้อมดูในเรื่องชดเชยว่าจะช่วยเหลืออะไรตรงไหนได้บ้าง รัฐบาลจะค่อยๆ ช่วยดูแล
ด้านชาวบ้านระบุว่าไปหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรเลย ขณะที่นายกฯ บอกว่ายังเหลือชีวิต กำลังใจที่ต้องสู้ต่อไป ไม่ต้องห่วง เพราะขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปช่วยเหลือ โดยจัดทั้งกำลังพลและอุปกรณ์เข้าไป และจากที่ได้รับรายงานว่าวันนี้ระดับน้ำจะค่อยๆ ลดลง ซึ่งจะทำให้เข้าไปช่วยเหลือได้
จากนั้นนายกฯ และคณะ เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้ประสบอุทกภัย เพื่อเยี่ยมผู้ประสบภัยและมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
ด้าน สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานว่า แนวโน้มปริมาณน้ำขณะนี้ที่จังหวัดเชียงรายผ่านจุดวิกฤตไปแล้ว และจะลดลงเรื่อยๆ คาด 1-2 วันนี้สถานการณ์จะดีขึ้น หากไม่มีปริมาณฝนตกเพิ่มเติม เมื่อระดับน้ำเข้าสู่ระดับตลิ่งแล้วก็จะเร่งขจัดสิ่งกีดขวางทางระบายน้ำ
แต่ขณะนี้สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงคือแม่น้ำโขง ที่จะไหลจากจังหวัดเชียงรายไปสู่จังหวัดเลยและหนองคาย ซึ่งระดับน้ำยังคงสูงขึ้นและอาจจะต้องมีการเสริมแนวป้องกันตลิ่ง ซึ่ง สทนช. ได้มีการประชุมร่วมกับจังหวัดในการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่โรงพยาบาลและพื้นที่เปราะบางจะสั่งอพยพประชาชนทันที
นายกฯ ยังได้สอบถามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำอิง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มหนักสุดในวันที่ 18 กันยายน ได้รับรายงานว่าระดับน้ำเข้าสู่ระดับตลิ่งแล้ว และจะเร่งจัดการเรื่องน้ำประปาและไฟฟ้า เพื่อให้เข้าสู่ภาวะปกติ ให้ประชาชนกลับสู่ภูมิลำเนา พร้อมกันนี้ยังได้สอบถามถึงความแม่นยำของระบบติดตามน้ำที่ได้รับคำตอบว่าแม่นยำมากกว่า 90% โดยนายกฯ ได้กำชับว่าจะต้องแจ้งเตือนประชาชนและเตรียมพร้อมรับมือเพื่อป้องกันความเสียหาย
อัญเชิญพระราชกระแส ‘ในหลวง’ ทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัย
นายกฯ กล่าวว่า อุทกภัยอย่างรุนแรงในบริเวณพื้นที่อำเภอแม่สายและอำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย อีกทั้งเกิดเหตุดินสไลด์ในบริเวณพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บาดเจ็บ และเสียชีวิต รวมถึงเกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมากนั้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแส ทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุดังกล่าว และมีพระราชกระแสทรงชื่นชม และพระราชทานกำลังใจแก่จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งต่างเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา และกำลังทรัพย์ มาร่วมกันปฏิบัติการให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย แม้การช่วยเหลือจะเป็นไปอย่างยากลำบากท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว และข้อจำกัดต่างๆ แต่จิตอาสาทุกภาคส่วนต่างร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มกำลัง ด้วยความรักความปรารถนาดีต่อกัน เป็นเครื่องมือสำคัญ ทำให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที สามารถบรรเทาสถานการณ์ให้คลี่คลายลงตามลำดับ