×

บุกซีอานชมเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid เอกสิทธิ์ลับฉบับ ‘BYD’ ที่ใช้เวลาพัฒนา 15 ปี ชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งถึง 1,200 กม. กับทางเลือก Hybrid หรือ EV 100%?

08.09.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MIN READ
  • THE STANDARD WEALTH มีโอกาสเดินทางไปยังเมืองซีอาน มณฑลฉ่านซี ประเทศจีน เพื่อชมเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid เอกสิทธิ์เฉพาะแบบฉบับ BYD ที่ใช้เวลาพัฒนามากว่า 15 ปี
  • ทำความรู้จักเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ที่ว่ากันว่าประหยัดพลังงานกว่า เสียงเบากว่า ราคาถูกกว่า ชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง วิ่งได้ระยะทางถึง 1,200 กม. เมื่อมีการวิ่งควบระหว่างไฟฟ้ากับน้ำมัน
  • จับตาก้าวใหม่ของ BYD กับโอกาสเจาะตลาด PHEV หลังบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ได้ฤกษ์เปิดตัว BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid และเริ่มผลิตรุ่นนี้แล้วที่โรงงาน BYD ประเทศไทย ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม WHA จ.ระยอง
  • ลุ้นนำเข้าไทยอีกแบรนด์หรู Denza รถ MPV หรูไฟฟ้า และรถ SUV หรู Plug-in Hybrid และรถซูเปอร์สปอร์ต YangWang U9 (ราคาที่จีน ราว 8 ล้านบาท)

เมืองซีอาน เมืองเอกของมณฑลฉ่านซี ประเทศจีน แม้ไร้ทางออกสู่ทะเล และเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งประวัติศาสตร์ แต่ก็มีศักยภาพในธุรกิจด้านอื่นๆ โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยี

 

ปัจจุบันบริษัทกว่า 16,000 แห่ง ได้ลงทุนฐานการผลิตในเขตพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงในเมืองซีอาน และภายหลังที่รัฐบาลจีนเริ่มการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคอย่างจริงจัง ทำให้ภาคตะวันตกของจีนกลายเป็นแหล่ง ‘ทำเลทอง’ ที่วิสาหกิจทั้งในและนอกประเทศต่างก็ให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุนและตั้งฐานการผลิต เนื่องจากได้เปรียบในด้านทำเลที่ตั้ง และมีค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำที่ต่ำกว่าแรงงานในพื้นที่ภาคตะวันออกของจีน

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

เมื่อเร็วๆ นี้ THE STANDARD WEALTH มีโอกาสเดินทางไปชมเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทาง BYD พัฒนามากว่า 15 ปี โดย DM-i ถือเป็นระบบพลังงาน และชุดควบคุมการทำงานของรถยนต์ประเภท PHEV ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD เท่านั้น พร้อมสัมผัสวัฒนธรรมเมืองซีอาน

 

รู้จักเทคโนโลยี DM-i สุดล้ำของ BYD

 

เทคโนโลยี DM-i เป็นการผสานจุดแข็งของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) และรถยนต์ Hybrid (HEV) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง พร้อมเครื่องยนต์เบนซินที่พัฒนามาเพื่อรถยนต์ Plug-in Hybrid โดยเฉพาะ สามารถสลับการทำงานระหว่างโหมดไฟฟ้าและโหมด Hybrid ได้ ซึ่งจะแตกต่างจากระบบ Hybrid แบบเดิม BYD พยายามให้รุ่นนี้เป็นได้ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่วิ่งได้ไกลสำหรับขับในเมือง และรถ Hybrid ที่วิ่งออกต่างจังหวัดแบบประหยัดน้ำมัน และต่างจากรถ Hybrid ทั่วไปตรงที่แบตเตอรี่สำหรับขับเคลื่อนมีขนาดใหญ่กว่า และยังสามารถชาร์จไฟจากภายนอกเข้าไปที่แบตเตอรี่ได้อีกด้วย

 

เรียกได้ว่าเทคโนโลยี DM-i นี้เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจาก BYD ซึ่งพัฒนามากว่า 15 ปี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

 

 

โดย ‘DM-i’ ย่อมาจาก Dual Mode รวมกับคำว่า Intelligent ซึ่งหมายถึงระบบขับเคลื่อน ‘Plug-in Hybrid รูปแบบใหม่’ ที่มีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบัน BYD คือผู้บุกเบิกและผู้นำในด้าน PHEV อันดับ 1 ของโลก ด้านยอดขายสะสม

 

วิวัฒนาการเทคโนโลยี DM ของ BYD

 

  • DM 1.0

ออกแบบสถาปัตยกรรมระบบ Hybrid มอเตอร์คู่ที่มีรูปแบบการขับเคลื่อนแบบ Hybrid อนุกรม และ Hybrid ขนานผสมผสานกัน โดยเริ่มเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยี Plug-in Hybrid

 

  • DM 2.0

ออกแบบสถาปัตยกรรมระบบ Hybrid โดยใช้ระบบส่งกำลัง DCT ที่มีรูปแบบการขับเคลื่อนแบบ Hybrid ขนาน สู่ผู้นำเทคโนโลยี Plug-in Hybrid

 

  • DM 3.0

ออกแบบสถาปัตยกรรมระบบ Hybrid โดยใช้ระบบส่งกำลัง DCT ที่มีรูปแบบการขับเคลื่อนแบบ Hybrid ขนานและอนุกรม เป็นผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี Plug-in Hybrid

 

  • DM 4.0

ออกแบบสถาปัตยกรรมระบบ Hybrid มอเตอร์คู่ที่มีรูปแบบขับเคลื่อนแบบ Hybrid อนุกรม และ Hybrid ขนานผสมผสานกัน ขึ้นแท่นผู้พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี Plug-in Hybrid

 

  • DM 5.0

เป็นผู้ต่อยอดนวัตกรรมเทคโนโลยี Plug-in Hybrid

 

 

จุดเด่นคือมีแหล่งจ่ายพลังงานจาก BYD Blade Battery ขนาดใหญ่

 

ถามว่าเทคโนโลยี DM-i ที่กำลังพัฒนาคือเวอร์ชันไหน คำตอบคือ DM-i Super Hybrid 4.0 ที่มีจุดเด่นคือ ประหยัดพลังงานกว่า, เสียงเบา, ราคาถูก, ชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง วิ่งได้ระยะทางถึง 1,200 กิโลเมตร เมื่อวิ่งควบระหว่างระบบไฟฟ้ากับน้ำมัน, มีแหล่งจ่ายพลังงานจาก BYD Blade Battery ขนาดใหญ่ รวมถึงเครื่องยนต์ที่ใช้ในการสร้างพลังงาน ส่วนนี้ BYD มีการวิจัยและพัฒนาระบบกำลังและระบบควบคุมแยกจากกันแบบอิสระ 100%

 

เริ่มผลิตรุ่น BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid ในไทยแล้ว

 

บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด เพิ่งได้ฤกษ์เปิดตัว BYD รุ่นที่ใช้เทคโนโลยีนี้ไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา นั่นคือ BYD SEALION 6 DM-i SuperHybrid และจะผลิตในประเทศไทยที่โรงงาน BYD ประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 600 ไร่ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ จังหวัดระยอง นับว่าถือเป็นก้าวสำคัญของ BYD

 

 

โดย BYD ต้องการให้โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตสูงสุด 150,000 คันต่อปี เป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ และจ้างงานคนไทยกว่า 10,000 ตำแหน่ง

 

เบนสัน เค่อ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดีไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมยานยนต์ที่โดดเด่นที่สุด และมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมแห่งหนึ่งในอาเซียน สะท้อนจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 40 เท่าในปี 2566 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

“วันนี้รถ SUV ของ BYD ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์แบบ Plug-in Hybrid หรือ PHEV ที่ใช้เทคโนโลยี DM-i ที่พามารับชมถึงเมืองซีอาน จะเรียกชื่อรุ่นในตลาดต่างประเทศทั่วโลกให้ตรงกันว่า BYD SEALION 6”

 

เบนสัน เค่อ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดีไทยแลนด์ จำกัด

 

Hybrid อาจเป็นตัวเร่งให้ตลาด EV ในไทยเติบโตเร็วขึ้น

 

เค่อกล่าวอีกว่า BYD SEALION 6 จะเป็นตัวเปิดตลาด PHEV ในประเทศไทย และอาจส่งผลต่อส่วนแบ่งทางการตลาดของรถยนต์สันดาปแน่นอน

 

“ผมมองว่า DM-i Super Hybrid อาจเป็นตัวเร่งให้ตลาด EV ในประเทศไทยเติบโตเร็วขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ผลิตรายอื่นในการแข่งขัน PHEV เพราะตอนนี้ในประเทศไทยยังใช้เทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ ICE เป็นหลักอยู่ ดังนั้นการมาถึงของ PHEV โดยเฉพาะ BYD ที่ยิ่งมีโรงงานผลิตในประเทศไทยอยู่แล้วนั้น อาจเป็นตัวเร่งให้เกิดการทรานส์ฟอร์มจากรถ ICE สู่ EV ล้วนได้เร็วขึ้น” เค่อย้ำ

 

ที่ผ่านมา BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid ได้การตอบรับดีมาก ด้วยยอดขายทะลุ 1 ล้านคันในจีนและทั่วโลก ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีนับจากวันเปิดตัว

 

การเปิดตัว BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid รถยนต์ C-SUV ในประเทศไทย จะให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยคนไทยจะได้สัมผัสอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 9.3 แสนบาท

 

 

เค่อกล่าวอีกว่า นอกจากจะทำตลาดในประเทศไทยแล้ว ยังได้เริ่มทำการตลาดรถรุ่นนี้ในอีกหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และอีกหลายประเทศในยุโรป

 

Plug-in Hybrid มาแรง ยอดจำหน่ายตลาดจีนสูงเป็นประวัติการณ์

 

หากดูยอดขาย PHEV ปีที่แล้วในจีนมียอดขายรวมกันกว่า 3.6 ล้านคัน ซึ่ง BYD เป็น 1 ใน 3 รถ Plug-in Hybrid ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทำให้หลายโรงงานของ BYD ต้องปรับเปลี่ยนสายพานการผลิตจากรถยนต์ไฟฟ้ามาเป็นรถ Plug-in Hybrid

 

นอกจากนี้คาดว่ามีแผนเปิดตัวรถแบรนด์หรูอีกแบรนด์ นั่นคือ Denza ซึ่งเป็นรถ MPV หรูไฟฟ้า และรถ SUV หรู Plug-in Hybrid ที่ใช้เทคโนโลยี DM-i อย่าง Denza N8

 

 

ขณะเดียวกัน BYD ยังมีอีกแบรนด์หรูที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสนใจไม่น้อย คือ YangWang โดยมีรถ SUV หรู คือ YangWang U8 (ราคาที่จีน ราว 5 ล้านบาท) และรถซูเปอร์สปอร์ต YangWang U9 (ราคาที่จีน ราว 8 ล้านบาท) อีกด้วย

 

หลังจากนี้คงต้องลุ้นว่ากระแส EV ในประเทศไทยที่เติบโตต่อเนื่อง และแบรนด์ EV จากจีนหลั่งไหลเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย พร้อมตั้งฐานผลิตไปแล้วมากกว่า 4 แบรนด์ บวกกับการแข่งขันที่สูงและมีทางเลือกมากขึ้น บางรุ่นราคาครึ่งล้าน PHEV ที่มีราคาสูงกว่าจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ถือว่าขณะนี้รถยนต์ Hybrid มาแรงอย่างมากในประเทศไทย เพราะนอกจากจะตอบโจทย์ผู้บริโภคที่อาจยังไม่ตัดสินใจซื้อ EV ล้วน รัฐบาลไทยเองก็สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านการผลิตรถยนต์ Hybrid ไม่น้อย

 

ขณะเดียวกันข้อมูลล่าสุดจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยว่า การผลิตและยอดขายรถยนต์ Hybrid เติบโตสวนทางอย่างมากในประเทศไทย ซึ่งเพิ่มขึ้น 2 เท่าในปีนี้

 

 

รวมถึงโอกาสที่ BYD จะนำเข้ารุ่นซูเปอร์คาร์เข้ามาในประเทศไทยหรือไม่ ต้องติดตาม

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising