GoTo Group บริษัทผู้ให้บริการเรียกรถและเดลิเวอรีสัญชาติอินโดนีเซีย ประกาศปิดตัว Gojek ธุรกิจหลักในเวียดนามอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 กันยายนนี้ หลังจากไม่สามารถต้านทานการแข่งขันอันดุเดือดในตลาดเดลิเวอรีของเวียดนามได้
Gojek เริ่มต้นธุรกิจในเวียดนามเมื่อปี 2018 ด้วยความหวังที่จะสร้างความสำเร็จเหมือนในอินโดนีเซีย แต่ต้องเผชิญกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่าง Grab และ Be Group ซึ่งเป็นแบรนด์ท้องถิ่นในตลาดเรียกรถ
ทั้งนี้ Grab และ ShopeeFood ในตลาดเดลิเวอรีอาหาร ซึ่ง Gojek มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 3% เท่านั้นในแง่ของมูลค่าสินค้ารวม ตามหลัง Grab ที่ 47% และ ShopeeFood ที่ 45% ซึ่งเป็นของกลุ่มเทคโนโลยี Sea ของสิงคโปร์
GoTo ยังคงรายงานผลขาดทุนสุทธิอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2023 ขาดทุนสูงถึง 90 ล้านล้านรูเปียห์ (5.8 พันล้านดอลลาร์) แม้ว่าจะสามารถลดการขาดทุนลงเหลือ 2.8 ล้านล้านรูเปียห์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024
แต่นักลงทุนยังคงมีความกังวล เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงหลังการระบาดของโควิดส่งผลให้ราคาหุ้นของ GoTo ลดลงมากกว่า 80% นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียเมื่อปี 2022
GoTo ให้เหตุผลว่า การถอนตัวจากเวียดนามจะทำให้บริษัทสามารถมุ่งเน้นไปที่ตลาดที่มีศักยภาพในการสร้างการเติบโตที่สำคัญและยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบริษัทในการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาว
GoTo ยังระบุว่า การดำเนินงานในเวียดนามคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 0.5% ของปริมาณธุรกรรมรวมในไตรมาส 2 ของปีนี้ และการถอนตัวจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการทางการเงินของบริษัท
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ GoTo ถอนตัวจากตลาดต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ในปี 2021 บริษัทได้ถอนตัวจากประเทศไทยเช่นกัน หลังจากการถอนตัวจากเวียดนาม ธุรกิจของ GoTo นอกประเทศอินโดนีเซียจะเหลือเพียงสิงคโปร์เท่านั้น ซึ่งก็ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงกับ Grab เช่นกัน
การถอนตัวจากเวียดนามอาจเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากสำหรับ GoTo แต่ก็เป็นการตัดสินใจที่จำเป็น เพื่อให้บริษัทสามารถมุ่งเน้นทรัพยากรไปที่ตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตมากกว่า และสร้างผลกำไรในระยะยาวได้
อย่างไรก็ตาม GoTo ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการแข่งขันในตลาดอินโดนีเซียและสิงคโปร์ และต้องพิสูจน์ให้นักลงทุนเห็นว่าบริษัทสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างยั่งยืน
อ้างอิง: