เกิดอะไรขึ้น:
กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มที่ดีในปี 2567-2568 ประเทศไทยตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่โดดเด่น เนื่องจากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติย้ายฐานการผลิตและขยายการลงทุนเข้ามาในประเทศไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
ในปี 2566 ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ทำยอดขายที่ดินได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดการอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มขึ้น 23% ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 7.3 แสนล้านบาท นำโดยนักลงทุนจากจีนและไต้หวัน ซึ่งคาดว่ามูลค่าการลงทุนในปีนี้และปีหน้าจะเติบโตเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการย้ายฐานการผลิตอย่างต่อเนื่อง
บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ทรานส์ฟอร์มสู่ยุคแห่งการเติบโต หลังจากเติบโตมาเป็นเวลา 21 ปี WHA กำลังจะเข้าสู่ช่วงที่มีการเติบโตสูง ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ในระยะเวลา 4 (ปี 2563-2567) ที่ 20% พร้อมกับทรานส์ฟอร์มสู่บริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีจุดแข็งในด้านการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมสีเขียวและ ESG ซึ่งเชื่อว่า WHA จะรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของประเทศไทยเอาไว้ได้
ปี 2567 InnovestX Research คาดการณ์รายได้ของ WHA ที่ 1.28 หมื่นล้านบาท (ลดลง 13.4%) โดยใช้สมมติฐานยอดขายที่ดินรวม 2,400 ไร่ และยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2,150 ไร่ แม้รายได้จะลดลงจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างรายได้ แต่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายที่ดินจะปรับตัวดีขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 15% ในปี 2567 และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่สูงขึ้น เนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินบางส่วนตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นมาจะสะท้อนถึงโครงการร่วมทุน (IER)
ดังนั้นจึงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2567 ที่แข็งแกร่งที่ 4.99 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 12.7%) ทั้งนี้ในปี 2567 WHA ไม่มีการขายทรัพย์สินให้กับ WHART (เลื่อนออกไปเป็นปี 2568) โดยจะขายให้แค่ WHAIR ใน 2H67 มูลค่าทรัพย์สิน 1.06 พันล้านบาท
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น WHA ปรับขึ้น 0.96% สู่ระดับ 5.25 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 3.09% สู่ระดับ 1,353.64 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
ในทางภูมิศาสตร์ ประเทศไทยตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่จะได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการลงทุนจากทั่วโลก และ WHA ก็ถือเป็นผู้นำที่จะได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการลงทุนครั้งนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ WHA มีกำไรสุทธิที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 13-16% ในปี 2567-2568 โดยได้รับปัจจัยหนุนจาก Backlog ในมือที่แข็งแกร่งและสถานะการเงินที่แข็งแรง
InnovestX Research เริ่มต้นการวิเคราะห์ WHA ด้วยคำแนะนำ Outperform โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 6.60 บาทต่อหุ้น อ้างอิง P/E เฉลี่ย 7 ปีที่ 17 เท่า ซึ่งสะท้อนถึงวัฏจักรกำไรของบริษัท
ปัจจัยเสี่ยงและความกังวลที่ต้องติดตามคือความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลดีต่อประเทศไทย เนื่องจากทำให้ความต้องการลงทุนจากต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา แต่จำเป็นต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายในประเทศคู่ค้าที่สำคัญอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการลงทุนในอนาคต สำหรับธุรกิจสาธารณูปโภคยังต้องติดตามความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและต้นทุนวัตถุดิบด้วย
