×

ทำไมอิสราเอลประท้วงใหญ่ ชัตดาวน์ประเทศ กดดันรัฐบาลเร่งช่วยตัวประกัน

03.09.2024
  • LOADING...

อิสราเอลเผชิญการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามในฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว โดยประชาชนในหลายเมืองทั่วประเทศ รวมถึงกรุงเทลอาวีฟและนครเยรูซาเล็ม พากันออกมาชุมนุมบนท้องถนนด้วยความโกรธแค้น หลังทราบข่าวทหารกู้ร่างไร้วิญญาณของตัวประกันชาวอิสราเอล 6 ราย ที่ถูกกลุ่มฮามาสกักขังไว้ในกาซา

 

กองทัพอิสราเอลเผยว่า ตัวประกันเหล่านี้เพิ่งถูกสังหารได้ไม่นานก่อนที่ทหารอิสราเอลจะเข้าไปถึง โดยประชาชนส่วนใหญ่มองสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นผลจากการที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ‘ไม่ทำอะไรมากพอ’ อีกทั้งยังล้มเหลวที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกัน ซึ่งดูจะเป็นทางออกเดียวที่จะช่วยชีวิตตัวประกันที่เหลืออยู่ให้ได้มีโอกาสกลับบ้าน

 

ขณะที่สถานการณ์ประท้วงนอกจากมีการชุมนุมปิดถนนและเกิดเหตุวุ่นวาย รวมถึงการปะทะกับตำรวจ ยังบานปลายเป็นการรวมตัวหยุดงานครั้งใหญ่ ที่เรียกได้ว่าแทบจะ ‘ชัตดาวน์’ หน่วยงานรัฐและภาคธุรกิจจำนวนมาก

 

เกิดอะไรขึ้น?

 

เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (1 กันยายน) ตามเวลาท้องถิ่น ประชาชนราวครึ่งล้านในหลายเมืองออกมาชุมนุมปิดถนนหลายสาย พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลยอมเปลี่ยนแนวทางดำเนินการเพื่อช่วยเหลือตัวประกันที่ยังเหลืออยู่ในกาซา ซึ่งคาดว่ามีอีกราว 100 คน

 

การประท้วงในบางจุดเช่นที่กรุงเทลอาวีฟ มีผู้เข้าร่วมจำนวนนับแสนคน และเกิดการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับตำรวจที่พยายามสลายการปิดถนน โดยมีผู้ชุมนุมหลายคนถูกจับกุม

 

ขณะที่แถลงการณ์ของ Hostages and Missing Families Forum ระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงวางแผนที่จะปิดถนนและทางแยกสำคัญ รวมทั้งทางเข้าของสำนักงานรัฐบาลและสำนักงานภูมิภาคหลายแห่ง

 

อย่างไรก็ตาม เช้าวานนี้ (2 กันยายน) Histadrut สหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอล ซึ่งเป็นตัวแทนของแรงงานประมาณ 8 แสนคน เรียกร้องให้มีการหยุดงานประท้วงเป็นเวลา 1 วัน โดยได้รับการสนับสนุนจากหลายบริษัทผู้ผลิตและผู้ประกอบธุรกิจท้องถิ่นรายใหญ่ ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจส่วนใหญ่ของอิสราเอลต้องหยุดชะงักลงเป็นเวลาหลายชั่วโมง ก่อนที่ศาลแรงงานจะสั่งให้ยุติการหยุดงานประท้วง และให้บรรดาแรงงานกลับไปทำงานในเวลา 14.30 น. วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น

 

ใครเข้าร่วมประท้วงบ้าง?

 

พนักงานสนามบินนานาชาติเบน กูเรียน ซึ่งเป็นสนามบินหลักของอิสราเอล พากันหยุดงาน จนส่งผลให้สนามบินต้องปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00 น. วานนี้ ก่อนจะกลับมาเปิดอีกครั้งหลังจากที่บรรดาแรงงานยอมกลับมาทำงานตามคำสั่งศาล

 

Israel Business Forum ซึ่งเป็นตัวแทนของแรงงานภาคเอกชนส่วนใหญ่จากบริษัทใหญ่ที่สุดของประเทศ 200 แห่ง ได้เข้าร่วมการหยุดงานประท้วง เช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของอิสราเอลอีกหลายบริษัท

 

ด้านสมาคมผู้ผลิตสินค้าของอิสราเอลก็ร่วมประท้วงและกล่าวหารัฐบาลว่าล้มเหลวในการนำนักโทษกลับมาแบบมีชีวิต เช่นเดียวกับผู้อำนวยการสมาคมเนติบัณฑิตอิสราเอล ที่เรียกร้องให้ทนายความทุกคนหยุดงานประท้วง

 

ขณะที่โรงพยาบาลและคลินิกสุขภาพยังเปิดให้บริการแต่ลดเจ้าหน้าที่และจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการ เช่นเดียวกับบริษัทไฟฟ้าและน้ำประปาที่ยังคงดำเนินการแต่ลดจำนวนพนักงานลง

 

ด้านหน่วยงานรัฐบาลและเทศบาลหลายแห่งปิดทำการวานนี้ ส่วนโรงเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงเกรด 12 เปิดแค่ครึ่งวัน ขณะที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งก็มีพนักงานหยุดงานประท้วงเช่นกัน

 

นอกจากนี้บริษัทขนส่งชั้นนำหลายแห่งต่างก็ร่วมหยุดงานประท้วง เช่นเดียวกับพนักงานที่ให้บริการรถไฟรางเบาและรถไฟใต้ดินในเทลอาวีฟที่ร่วมหยุดงานประท้วง จนส่งผลให้บริการรถไฟในหลายเส้นทางต้องเลื่อนออกไป

 

ท่าทีเนทันยาฮู

 

นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูตกเป็นเป้าโจมตีในการประท้วงใหญ่ครั้งนี้ และถูกกล่าวหาจากกลุ่มญาติและผู้สนับสนุนตัวประกันว่าพยายามยื้อการเจรจาข้อตกลงไม่ให้สำเร็จ

 

ในการแถลงข่าวเย็นวานนี้ เขาได้ขอให้ประชาชนให้อภัยต่อความล้มเหลวในการนำ 6 ตัวประกันที่พบกลับมาแบบมีชีวิต แต่ยังแสดงท่าทีท้าทาย โดยปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ รวมถึงจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ที่ระบุว่า “อิสราเอลไม่ได้ทำอะไรมากพอที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิง”

 

ซึ่งเนทันยาฮูยืนกรานว่าฮามาสต้องเป็นฝ่าย ‘ยอมรับข้อเสนอ’ ของอิสราเอล และประกาศว่าจะตอบโต้และทำให้ฮามาสต้องชดใช้อย่างสาสมต่อการสังหารตัวประกันทั้ง 6 ราย

 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสออกมาแสดงท่าทีซึ่งดูเหมือนจะเป็นการเติมเชื้อไฟมากขึ้น โดยเตือนว่าตัวประกันจำนวนมากที่ถูกควบคุมตัวไว้ในฉนวนกาซา จะได้กลับไป ‘ในโลงศพ’ หากอิสราเอลพยายามใช้กำลังทหารเพื่อปลดปล่อยพวกเขา

 

แรงกดดันนานาชาติกับโอกาสหยุดยิง

 

ด้านประธานาธิบดีไบเดน และรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ได้พบกับทีมเจรจาและหารือถึงข้อเสนอในข้อตกลงหยุดยิง โดยไบเดนยืนยันต่อผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐฯ จะไม่ยอมแพ้และจะผลักดันอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ได้ข้อตกลงหยุดยิง

 

สำหรับการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงรอบล่าสุดในกาตาร์และอียิปต์ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมายังคงไร้ความคืบหน้า ท่ามกลางวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงในฉนวนกาซา

 

โดยอุปสรรคสำคัญ รวมถึงท่าทีของเนทันยาฮูที่ยืนกรานจะไม่ถอนกำลังทหารจากเขตฟิลาเดลฟี (Philadelphi Corridor) ซึ่งเป็นพรมแดนทางใต้ของกาซาที่ติดกับอียิปต์ และเขตเน็ตซาริม (Netzarim Corridor) ซึ่งเป็นเส้นทางเคลื่อนทัพของอิสราเอลที่แบ่งฉนวนกาซาออกเป็นสองส่วน

 

ทั้งนี้ อิสราเอลยังคงเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยมีรายงานชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วมากกว่า 40,000 คน

 

ส่วนท่าทีของประเทศอื่นๆ ต่อสถานการณ์ในกาซา เดวิด แลมมี (David Lammy) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ เผยว่า อังกฤษจะระงับใบอนุญาตส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ 30 รายการ จากทั้งหมด 350 รายการ ที่ส่งให้กับอิสราเอล อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงชิ้นส่วนเครื่องบินขับไล่ เฮลิคอปเตอร์ และโดรน

 

โดยแลมมีระบุเหตุผลว่า เนื่องจากพบความเสี่ยงอย่างชัดเจนว่าอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้อาจถูกนำไปใช้ในการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง แต่ยืนยันว่าอังกฤษยังคงสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง และการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ถือเป็นการคว่ำบาตรอาวุธ

 

ด้าน อิสราเอล แคทซ์ (Israel Katz) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอล ตอบโต้การตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษ โดยยืนยันว่าอิสราเอลมีการดำเนินการต่างๆ ที่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ

 

ขณะที่ อามิไช ชิคลี (Amichai Chikli) รัฐมนตรีกระทรวงกิจการพลัดถิ่นของอิสราเอล มองว่า การตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาละเอียดอ่อน หลังมีการพบศพ 6 ตัวประกันอิสราเอลในอุโมงค์ใต้ดินของฮามาส ซึ่งเขามองว่าภัยคุกคามที่อิสราเอลเผชิญอยู่คือภัยก่อการร้ายและเป็นภัยคุกคามเดียวกับที่อังกฤษและชาติตะวันตกเผชิญอยู่เช่นกัน

 

“ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องร่วมกันต่อสู้กับการก่อการร้าย การต่อสู้กับกลุ่มไอเอส อัลกออิดะห์ และฮามาส เป็นสงครามเดียวกันระหว่างอารยธรรมตะวันตกกับอิสลามหัวรุนแรง ภัยคุกคามที่มาจากฮามาสยังเป็นภัยคุกคามภายในที่คุณกำลังเผชิญอยู่บนท้องถนนในสหราชอาณาจักร” เขากล่าว

 

ภาพ: Florion Goga / Reuters

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X