วานนี้ (20 สิงหาคม) ที่อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย ปดิพัทธ์ สันติภาดา ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมกิจกรรมลงพื้นที่ช่วย ‘ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์’ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. จังหวัดพิษณุโลก เขต 1 พรรคประชาชน พบปะประชาชนเพื่อประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง สส. จังหวัดพิษณุโลก เขต 1 แทนตำแหน่งที่ว่างลง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 กันยายนนี้
ช่วงเช้า ทั้งสามคนร่วมกันสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) ก่อนเดินหาเสียงพบปะประชาชนภายในบริเวณร้านค้ารอบวัด ก่อนร่วมกันขึ้นรถแห่หาเสียงไปรอบเมืองพิษณุโลก
จากนั้นในช่วงบ่าย ณัฐพงษ์และณฐชนนร่วมวงพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการภายในเมืองพิษณุโลกที่มาร่วมแลกเปลี่ยนพูดคุยถึงปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการพัฒนาเมืองและเศรษฐกิจโดยภาพรวมของเมืองพิษณุโลก รวมทั้งความคาดหวังของผู้ประกอบการต่อการเมืองในอนาคต
ส่วนในช่วงเย็นได้เปิดวงพูดคุยสมาชิกสัมพันธ์กับสมาชิกพรรคประชาชนในจังหวัดพิษณุโลก เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนถึงก้าวย่างต่อไปของพรรคประชาชน โดยเฉพาะภารกิจเฉพาะหน้าในการเลือกตั้งซ่อม สส. จังหวัดพิษณุโลก เขต 1 ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
ณัฐพงษ์กล่าวตอนหนึ่งระหว่างพบปะกับสมาชิกว่า เวทีเลือกตั้งซ่อมที่พิษณุโลก เขต 1 ครั้งนี้แน่นอนว่ามีความสำคัญที่แพ้ไม่ได้ และต้องขอแรงสมาชิกทุกท่านอีกครั้งให้ช่วยกัน และในอนาคตข้างหน้าก็ยังมีอีกเวทีหนึ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันก็คือการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งพรรคประชาชนเองก็มีพื้นที่ยุทธศาสตร์หลายพื้นที่ โดยมีจังหวัดราชบุรีเป็นพื้นที่แรกที่จะเกิดการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขึ้น
ต่อจากนี้จนถึงการเลือกตั้งปี 2570 เวทีการเลือกตั้งท้องถิ่นจะมีความสำคัญ ที่จะทำให้พรรคประชาชนมีโอกาสเข้าไปทำงานให้ประชาชนเห็นการเมืองที่ไม่ใช่ระบบอุปถัมภ์ ทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร ด้วยโอกาสนี้ พรรคประชาชนจะปักธงทีละขั้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งสู่การเลือกตั้งปี 2570 ซึ่งจะสำเร็จหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ตนหรือผู้บริหารพรรค แต่มาจากการทำงานของพวกเราร่วมกัน โดยเฉพาะจากฐานสมาชิกพรรคของเราที่จะช่วยกันสื่อสารและบอกต่อถึงเป้าหมายและอุดมการณ์ของพวกเรา
ขณะที่ณฐชนนกล่าวว่า ทุกคนรู้ดีว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้ สส. ที่มีคุณภาพที่สุดของพิษณุโลกคนหนึ่งต้องถูกตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง การต่อสู้ครั้งนี้จึงไม่ใช่เรื่องของตนคนเดียวหรือเพื่อตำแหน่งหรืออำนาจใด แต่เพื่อยืนยันว่าไม่ว่าเขาจะกระทำกับพวกเรากี่ครั้ง จะมีคนยืนหยัดลุกขึ้นมาสู้เสมอ จะมีคนยืนอยู่ข้างเรามากขึ้นเสมอ มีคนไม่ยอมแพ้และออกมาสู้เพื่อความเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเสมอ
“วันนี้พิษณุโลก เขต 1 มีปัญหาที่แตกต่างกันไป และตนพร้อมที่จะเป็น สส. ฝ่ายค้าน ที่ใช้ความกล้าหาญในการเรียกร้องในสิ่งที่เป็นสิทธิที่ประชาชนทุกคนควรต้องได้รับอยู่แล้ว”