วันนี้ (12 สิงหาคม) พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีการพิจารณาคดี 44 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อดีตพรรคก้าวไกล ที่ลงชื่อแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรม ซึ่งต้องมีการไต่สวนให้ปากคำชี้แจงไป เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องมาตรฐานจริยธรรม โดย ป.ป.ช. จะยื่นต่อศาลฎีกาโดยตรง หลังจากนั้นศาลฎีกาจะดำเนินการไต่สวน หากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าอาจมีการไต่สวนพยานเพิ่มเติม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ช. มีความเป็นห่วงในคดีดังกล่าวหรือไม่ พล.ต.อ. วัชรพลกล่าวว่า ไม่เป็นห่วง เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและข้อเท็จจริง ซึ่งต้องมีการชี้แจง พร้อมยืนยันว่า ป.ป.ช. จะให้ความเป็นธรรม ส่วนจะเรียกให้ 44 สส. มาชี้แจงเมื่อใดนั้น ตนคิดว่าคงไม่ช้า ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกระบวนการ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่รู้สึกกดดันใช่หรือไม่กับการพิจารณาคดีดังกล่าว พล.ต.อ. วัชรพลยืนยันว่า ไม่กดดัน พร้อมกล่าวว่า เรามีหน้าที่ก็ทำไป แต่ข้อสำคัญทำแล้วต้องตอบได้ในกระบวนการไต่สวนเพื่อให้ความเป็นธรรม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่ายอมรับข้อวิจารณ์จากฝ่ายสนับสนุนผู้ที่จะถูกไต่สวนใช่หรือไม่ พล.ต.อ. วัชรพลมองว่า เวลาที่สังคมมอง และมีสื่อมวลชนให้ข้อคิดเห็น ก็จะทำให้เราเห็นมุมมองสังคมด้านต่างๆ โดยเฉพาะการวินิจฉัยข้อมูลและข้อเท็จจริง ส่วนจะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาได้เมื่อใดนั้น ไม่สามารถตอบได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของสำนักไต่สวน ป.ป.ช. แต่ถึงอย่างไรก็คาดว่าไม่น่าทันช่วงที่ตนยังดำรงตำแหน่งอยู่ เนื่องจากจะหมดวาระในช่วงอีก 4 สัปดาห์ข้างหน้า
พล.ต.อ. วัชรพลกล่าวว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาก่อนที่ตนจะหมดวาระ ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้ามาตามวาระ ซึ่งไม่อยากให้มองว่าใกล้เกษียณแล้วจะไม่ต้องเร่งรีบการพิจารณาคดี
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ. วัชรพลกล่าวว่า ในปีนี้จะมีคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกษียณอายุราชการอีก 2 คนในช่วงปลายปี และหากรวมกับตนจะเป็น 3 คน ซึ่งคาดว่าแต่ละบุคคลเกษียณไปก็จะมีการเข้าสู่กระบวนการสรรหาคนใหม่ผ่านวุฒิสภา