×

ครม. อนุมัติปรับเกณฑ์กองทุน ThaiESG ลดหย่อนภาษีเพิ่มเป็น 3 แสนบาท ลดเวลาถือเหลือ 5 ปี

30.07.2024
  • LOADING...

ครม. อนุมัติปรับเกณฑ์กองทุน ThaiESG ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากค่าซื้อหน่วยลงทุนเป็น 3 แสนบาทต่อปีภาษี จากเดิม 1 แสนบาทต่อปีภาษี และให้ลดเวลาถือครองหน่วยลงทุนเหลือไม่น้อยกว่า 5 ปี จากเดิม 8 ปี

 

วันนี้ (30 กรกฎาคม) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การปรับปรุงมาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

 

โดยร่างกฎกระทรวงฯ เป็นการปรับปรุงการให้สิทธิประโยชน์ตามมาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund หรือ TESG) 

 

โดยให้ขยายวงเงินการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนจาก 1 แสนบาทต่อปีภาษี เป็น 3 แสนบาทต่อปีภาษี ในอัตราไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และให้ลดเวลาถือครองหน่วยลงทุนเหลือไม่น้อยกว่า 5 ปี (จากเดิมต้องถือครองหน่วยลงทุนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 8 ปี)

 

โดยการปรับปรุงดังกล่าวสำหรับหน่วยลงทุนที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569 และกำหนดให้ไม่ต้องนำเงินหรือผลประโยชน์ใดที่ได้รับเนื่องจากการขายหน่วยลงทุนคืนให้แก่ TESG มารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ต้องถือหน่วยลงทุนดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน)

 

โดยวงเงินลงทุนของ ThaiESG จะไม่ถูกนับรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ ได้แก่ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว, กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่ปัจจุบันกำหนดเพดานลดหย่อนภาษีรวมกันได้ไม่เกิน 5 แสนบาท 

 

กรณีผู้มีเงินได้ซื้อกองทุน TESG ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันก่อนวันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ ผู้มีเงินได้ดังกล่าวได้รับสิทธิหักค่าลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในอัตรา 30% ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 3 แสนบาท และลดเวลาถือครองหน่วยลงทุนเหลือเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนด้วย

 

ส่วนกรณีที่ซื้อกองทุน TESG ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 และกรณีซื้อกองทุน TESG ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2570 เป็นต้นไป ผู้ซื้อกองทุนจะได้รับสิทธิหักค่าลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในอัตรา 30% ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 1 แสนบาท เมื่อถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 8 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน

 

กระทรวงการคลังรายงานประมาณการการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่จะได้รับตามมาตรา 27 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 แล้ว โดยคาดว่าจะสูญเสียรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มอีกปีละประมาณ 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท (ตามมาตรการเดิม คาดว่าจะก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีแรกประมาณ 3 พันล้านบาท และในปีถัดไป ปีละประมาณ 1 หมื่นล้านบาท) 

 

และมีประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับดังนี้

 

  1. เพิ่มการลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล

 

  1. ส่งผลให้การลงทุนระยะยาวในตลาดทุนไทยเพิ่มขึ้น อันจะเพิ่มศักยภาพของตลาดทุนไทย และสร้างบรรยากาศที่ดีในการลงทุน 

 

  1. ทำให้ผู้มีเงินได้เพิ่มจำนวนเงินในการออมและการลงทุนระยะยาว อันจะทำให้ผลตอบแทนโดยรวมจากการออมและการลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย

 

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเห็นเพิ่มเติม เช่น เห็นควรที่กระทรวงการคลังจะติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีในครั้งนี้เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีเพื่อชดเชยการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้น กระทรวงการคลังต้องหาแนวทางการเพิ่มรายได้ภาษี เพื่อให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปตามเป้าหมาย และเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการคลังในอนาคตต่อไปด้วย

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising