ญี่ปุ่นเจอปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง หลังเงินเยนอ่อนค่า-รัฐบาลกระตุ้นนโยบายส่งเสริม แต่นักท่องเที่ยวชอบแหกกฎ ถึงขั้นนักวิเคราะห์เตือนให้เพิ่มมาตรการควบคุม หากปล่อยไว้นานอาจทำธรรมชาติเสียหาย พร้อมออกกฎเก็บเงินนักปีนเขาที่ภูเขาไฟฟูจิ ต้องจ่ายเงินคนละ 2,000 เยน (ราว 460 บาท)
Nikkei Asia รายงานว่า ปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติในญี่ปุ่นเริ่มล้นเมือง ทำให้ชาวญี่ปุ่นเจอกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ส่วนหนึ่งมาจากเงินเยนอ่อนค่าลง โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำสถิติอ่อนค่ามากสุดในรอบ 34 ปี รวมถึงนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลญี่ปุ่น ยกเว้นวีซ่าให้กับผู้ถือหนังสือเดินทางครอบคลุม 71 ประเทศรวมถึงประเทศไทย จนทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก
หนึ่งในหมุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวนิยมไป คือ ภูเขาไฟฟูจิ ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายืนต่อแถวถ่ายภาพกับภูเขาไฟฟูจิ จนเกิดปัญหาขึ้นโดยเฉพาะบริเวณร้านสะดวกซื้อ Lowson ในคาวากุจิโกะ ที่มีวิวภูเขาไฟฟูจิอยู่เบื้องหลัง แต่ด้วยถนนด้านหน้าที่คับแคบ นักท่องเที่ยวยืนถ่ายรูปไม่เคารพกฎจราจร ทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสร้างกำแพงปิดกั้นวิวภูเขาไฟฟูจิเพื่อลดปัญหาการจราจร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ค่าเงินเยนญี่ปุ่นขยับแข็งค่าขึ้นกว่า 2% อานิสงส์เงินเฟ้อสหรัฐฯ อ่อน ผู้เชี่ยวชาญคาด รัฐแทรกแซงตลาดต่อ
- เข้าถึงรสพระธรรม! สตาร์ทอัพญี่ปุ่นระดมทุน 7.8 ล้านบาท พลิกโฉมวัดร้างเป็นโรงแรม จ่ายราคา 7,900 บาท/คืน
- 10 ปีแห่งเวทมนตร์! Harry Potter ครองใจมักเกิลทั่วโลก ดัน Universal Studios Japan ติด Top 3 สวนสนุกโลก
ทั้งนี้ ยังเริ่มออกกฎเก็บเงินนักปีนเขาที่ภูเขาไฟฟูจิ โดยจะต้องจ่ายเงินคนละ 2,000 เยน หรือราวๆ 460 บาท และจำกัดจำนวนนักปีนเขาสูงสุด 4,000 คนต่อวัน เพื่อรักษาสภาพภูเขาไฟฟูจิให้สมบูรณ์ต่อไป หลังจากที่ผ่านมาบริเวณภูเขาไฟมีแต่ขยะ ทำให้ทัศนียภาพทรุดโทรม
ไม่เว้นแม้แต่ ฟูจิคาวากุจิโกะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัดยามานาชิ ทางตะวันตกของโตเกียว เริ่มเผชิญปัญหาจากการท่องเที่ยว ตลอดจน กิอง (Gion) ย่านประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของเกียวโต ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับถนนชิโจ เดิมทีเคยเป็นจุดแวะพักของผู้มาเยือนศาลเจ้ายาซากะ ที่ผ่านมาห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปในถนนต้องห้าม แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ละเมิดกฎเพราะอยากเจอกับเกอิชาและไมโกะผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ
รวมไปถึง บิเอะ (Biei) หมู่บ้านเกษตรกรรมบนเกาะฮอกไกโด นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปในสวนส่วนตัวเพื่อเซลฟี แม้จะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดและมีลำโพงแจ้งเตือนเป็นภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ จีน และเกาหลี แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่ได้สนใจ ทำให้ชาวญี่ปุ่นเริ่มรู้สึกถูกคุกคามความเป็นส่วนตัวอย่างมาก
อเล็กซ์ เคอร์ นักประวัติศาสตร์ในญี่ปุ่น กล่าวว่า เราไม่คาดคิดมาก่อนว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาในญี่ปุ่นมากขนาดนี้ แต่ก็สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้ได้ 60 ล้านคนภายในปี 2030 แต่ในทางกลับกันนักวิเคราะห์เตือนถึงรัฐบาลญี่ปุ่นว่าต้องเพิ่มมาตรการควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยว เพราะถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้อาจทำให้พื้นที่ทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติเสื่อมโทรมลง
อ้างอิง: