เกิดอะไรขึ้น:
ใน 2Q67 บริษัทในกลุ่มที่อยู่อาศัย (AP, LH, LPN, PSH, QH, SIRI และ SPALI ) รายงานยอด Presales ที่ 4.51 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 7%YoY และ 17%QoQ) โดย 64% เกิดจากโครงการแนวราบ (ต่ำสุดในรอบ 21 ไตรมาส) โดยมูลค่าลดลง 1%YoY แต่เพิ่มขึ้น 5%QoQ และ 36% เกิดจากคอนโด โดยมูลค่าเพิ่มขึ้น 10%YoY และ 46%QoQ ยอด Presales คอนโดส่วนใหญ่เกิดจาก AP (36% ของ Presales คอนโดทั้งหมด) และ SIRI (25% ของ Presales คอนโดทั้งหมด)
ดังนั้นยอด Presales รวมทั้งหมดของกลุ่มที่อยู่อาศัยใน 1H67 จึงอยู่ที่ 8.33 หมื่นล้านบาท (67% จากโครงการแนวราบ และ 33% จากคอนโด) คิดเป็น 39% ของเป้า Presales ปี 2567 ที่บริษัทในกลุ่มที่อยู่อาศัยวางไว้ที่ 2.14 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น 21%) ดังนั้นบริษัทในกลุ่มที่อยู่อาศัยจะต้องทำยอด Presales ให้ถึง 1.31 แสนล้านบาทใน 2H67 เพื่อให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
InnovestX Research ประเมินว่า PSH, LH และ SPALI อาจทำยอด Presales พลาดเป้าที่วางไว้ในปี 2567 เนื่องจากทำยอด Presales ได้ค่อนข้างต่ำใน 1H67 ดังนั้นยอด Presales ของกลุ่มที่อยู่อาศัยอาจมี Downside อย่างน้อย 10%
มูลค่าโครงการเปิดใหม่ทั้งหมดใน 2Q67 อยู่ที่ 6.58 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 27%YoY และ 56%QoQ) โดย 75% เป็นโครงการแนวราบ และ 25% เป็นคอนโด ใน 2Q67 มีผู้ประกอบการเพียง 3 รายที่เปิดตัวคอนโดใหม่: AP, SIRI และ LPN
ส่งผลทำให้มูลค่าโครงการเปิดใหม่ทั้งหมดใน 1H67 อยู่ที่ 1.08 แสนล้านบาท คิดเป็น 44% ของแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมดในปี 2567 ที่ 2.44 แสนล้านบาท (ลดลง 2%) ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดใน 1H67 คือ SPALI และ AP ในขณะที่ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่น้อยที่สุดคือ LPN และ QH
InnovestX Research ประเมินกำไรสุทธิ 2Q67 ของบริษัทในกลุ่มที่อยู่อาศัย (AP, LH, LPN, PSH, QH, SIRI และ SPALI) ได้ที่ 5.9-6.0 พันล้านบาท เติบโตราว 23%QoQ โดยได้รับการสนับสนุนจากการโอน Backlog และยอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลง 27%YoY จากฐานสูง โดยคาดว่าผู้ประกอบการทุกรายจะรายงานกำไรลดลง YoY แต่เติบโต QoQ
สำหรับปี 2567 คาดการณ์รายได้รวมที่ 1.84 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6.5%) และกำไรสุทธิที่ 2.88 หมื่นล้านบาท (ลดลง 5.9%) โดย AP และ SPALI จะรายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ในขณะที่ LH (ไม่รวมกำไรพิเศษ) QH, PSH, LPN และ SIRI จะรายงานกำไรสุทธิลดลง ถ้าผลประกอบการ 1H67 ออกมาตามคาด กำไร 1H67 จะคิดเป็น 36-38% ของประมาณการกำไรปี 2567
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคา หุ้นกลุ่มพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (SETPROP) ปรับลง 0.72%, ราคาหุ้น AP ปรับลง 7.87% ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 1.01%
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
แม้ว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาจะมีผลบังคับใช้จนถึงสิ้นปี 2567 แต่คาดว่ามาตรการนี้จะส่งผลดีมากที่สุดใน 4Q67 ในขณะที่ยังคงมีแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่ในระดับสูง ดังนั้น Backlog ที่แข็งแกร่งจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้กำไรเติบโต
InnovestX Research เลือก AP (เรตติ้ง Outperform ราคาเป้าหมาย 15 บาทต่อหุ้น) เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เนื่องจาก Backlog แข็งแกร่ง Secured Revenue สูง และกำไรมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย และทำให้ยอด Presales ต่ำกว่าเป้า, การบริหารสินค้าคงคลัง