วันนี้ (9 กรกฎาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขจะดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทยก็ต้องนำเสนอในส่วนที่เป็นเหตุและเป็นผล เราไม่มีปัญหาและต้องรับฟังทุกฝ่าย และยืนยันว่าจะต้องแก้ไขปัญหาการนำเสนอพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา
แต่ในส่วนของตนเองและพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เห็นด้วยกับคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด เนื่องจากกรรมการชุดนี้เป็นชุดเดียวกันกับที่แนะนำตนเองเมื่อครั้งที่ยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเมื่อ 2 ปีที่แล้วว่าให้ดึงกัญชาออกจากยาเสพติด ซึ่งอาจต้องเรียบเรียงไทม์ไลน์การผลักดันกัญชาออกจากยาเสพติดให้ชัดเจน เพราะการดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดนั้น ไม่ใช่ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใดก็ทำได้ ตนเองก็ทำไม่ได้ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนปัจจุบันก็ทำไม่ได้
อนุทินกล่าวต่อว่า แล้วเหตุใดในวันนี้คณะกรรมการชุดเดิมจึงจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ซึ่งคณะกรรมการส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่ต้องทำตามนโยบายของรัฐมนตรี แล้วตนเองจะเถียงอะไรได้ แต่เราก็อยากจะทราบว่า การตัดสินใจแต่ละครั้งใช้หลักการอะไรบ้าง
“ผมอยู่มา 4 ปี ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่ากัญชาไม่ดี แต่ละเดือนกระทรวงสาธารณสุขพาผมไปทำแคมเปญกัญชา และไม่มีโรงพยาบาลไหนไม่มีคลินิกกัญชาเลย ได้รับการสนับสนุนทุกอย่าง ผมก็ต้องเชื่อเขา ต้องเชื่อหมอ ถึงต้องมีกฎหมาย เมื่อมีกฎหมายจะได้จบ”
อนุทินกล่าวอีกว่า แต่หากในอนาคตปรับคณะรัฐมนตรีแล้วพรรคภูมิใจไทยกลับไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง ข้าราชการก็ต้องกลับมาทำตามนโยบายของรัฐมนตรี ก็ดึงกัญชาออกจากยาเสพติดอีก แล้วจะสร้างความเชื่อมั่นกับคนที่มาลงทุนเกี่ยวกับกัญชาอย่างไร เรื่องนี้มันกระทบทั้งประเทศ เปลี่ยนทุกๆ รัฐมนตรี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทยจะต่อสู้ในเรื่องนี้อย่างไร อนุทินกล่าวว่า ตนเองไม่ได้จะต่อสู้กับใครอยู่แล้ว เพราะโหวตไปก็แพ้ แต่ก็จะโหวต หากจะตัดสินกันด้วยมติ กระทรวงมหาดไทยมีแค่ 4 เสียง ขณะเดียวกันตนเองก็ไม่ทราบว่าปลัดกระทรวงมหาดไทยจะเห็นด้วยกับตนเองหรือไม่ เพราะเราไม่สามารถไปบังคับใครได้ และไม่คิดที่จะไปสั่งใคร ทุกคนต้องใช้ดุลพินิจของตนเอง แต่ในส่วนของตนเองนั้นยืนยันว่าจะโหวตโนแน่นอน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าเป็นการถูกหักหน้าหรือไม่ เพราะนโยบายกัญชาเป็นนโยบายเรือธงของพรรคภูมิใจไทย อนุทินกล่าวว่า ถ้าหากมองว่าถูกหักหน้าก็คงไปร่วมประท้วงกับกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ว แต่เราว่ากันด้วยเหตุและผล
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนนโยบายของนายกรัฐมนตรี ทั้งดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงนโยบายที่ดิน แต่เมื่อถึงเวลากลับถูกหักหน้าเรื่องนโยบายกัญชา อนุทินกล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้ถูกหักหน้า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดได้ ทุกอย่างเป็นไปตามสามัญสำนึก ในวันนี้ตนเองไม่ได้คุมกระทรวงสาธารณสุข แล้วจะไปแทรกแซงนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขได้อย่างไร และในเมื่อรัฐมนตรีคนปัจจุบันรับผิดชอบกระทรวงอยู่ แต่ตนไม่ได้อยากให้มีบรรทัดฐานว่ารัฐมนตรีคนไหนเข้ามาก็ต้องทำตามรัฐมนตรีคนนั้น มันควรจะมีกฎหมายและระเบียบเพื่อความยั่งยืน
อนุทินกล่าวทิ้งท้ายว่า อย่างที่พูดไป หากครั้งหน้าปรับคณะรัฐมนตรี และพวกของตนเองได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เราก็ต้องเอากัญชาออกจากยาเสพติด เพราะเป็นนโยบายเรือธงของพรรคภูมิใจไทยเมื่อปี 2562 ดังนั้นหากจะทำมันให้ดีที่สุดต้องออก พ.ร.บ.กัญชา และอย่าลืมว่าเวลาเจรจาเรื่องการเมืองต้องทำตามเจ้าของนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล เราก็ไม่ได้อยากให้มีปัญหา อีกอย่างคนไม่ได้ห่วงแค่เรื่องกัญชา แต่ห่วงภาพรวม หากปรับเปลี่ยนได้บ่อยๆ หรือปรับเปลี่ยนได้ตามใจผู้บริหารกระทรวงแล้วใครจะมาลงทุน ในขณะที่เรากำลังเร่งสร้างความแข็งแกร่งทางด้านเศรษฐกิจ