×

‘ชั่วฟ้าดินสลาย’ คอนเสิร์ตแห่งความรักของ ศรีไศล สุชาตวุฒิ

05.06.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MINS READ
  • คอนเสิร์ตการกุศล ชั่วฟ้าดินสลาย เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ที่สุดในชีวิตการเป็นนักร้องร่วมครึ่งศตวรรษของศรีไศล สุชาตวุฒิ ศิลปินหญิงระดับตำนานเจ้าของเสียงแหบเสน่ห์ในเพลงดังอย่าง รักข้ามขอบฟ้า, ชั่วฟ้าดินสลาย, เก็บรัก และ รักเอย
  • ธีมคอนเสิร์ต ชั่วฟ้าดินสลาย นอกจากจะเป็นชื่อเพลงดังในอดีตของศรีไศลแล้วยังเป็นการนำวลีนี้มาตีความใหม่ในมุมมองของความรักที่เท่ากับการให้ ซึ่งจะอยู่ไปตราบนานเท่านาน

“ปกติไม่ได้ใส่ส้นสูงอย่างนี้ตลอดวันหรอกนะคะ แต่วันนี้อยากสวย” ศรีไศล สุชาตวุฒิ ศิลปินรุ่นใหญ่เจ้าของเสียงแหบเสน่ห์ หรือที่รุ่นน้องและรุ่นหลานในวงการบันเทิงเรียกกันว่า ‘น้าตุ้ม’ ออกตัวพร้อมรอยยิ้มขณะจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนการถ่ายภาพ


ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ยุคคุณพ่อคุณแม่ยังหนุ่มสาว น้าตุ้มคือนักร้องหญิงที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน ‘ดิวา’ ของวงการเพลงไทย ตั้งแต่ยุคที่คำนี้ยังไม่ได้ใช้กันอย่างแพร่หลาย เพลงดังของเธอที่ยังคงเพราะอมตะมาจนถึงทุกวันนี้มีอยู่หลายเพลง ไม่ว่าจะเป็น รักข้ามขอบฟ้า, ชั่วฟ้าดินสลาย, จงรัก หรือ เก็บรัก


ในวัย 73 ปี น้าตุ้มกำลังเตรียมตัวเพื่อขึ้นคอนเสิร์ตการกุศล ชั่วฟ้าดินสลาย คอนเสิร์ตครั้งใหญ่ที่สุดของเธอซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 30 มิถุนายนที่จะถึงนี้ เพื่อนำรายได้ทั้งหมดมอบให้ศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์


และในการจัดคอนเสิร์ตของเธอครั้งนี้ น้าตุ้มไม่ได้ทำหน้าที่เพียงขึ้นไปร้องบนเวทีเท่านั้น แต่เธอยังมีส่วนร่วมในการออกไอเดียทุกอย่างตั้งแต่ต้น และทุ่มเทเวลาในการเตรียมงานนี้มาตั้งแต่ปลายปีก่อนด้วยทัศนคติที่เชื่อว่าเรื่องวัยไม่ใช่ปัญหาในการทำงาน และการทำงานทุกครั้งต้องทำอย่างเต็มที่เหมือนกับเป็นโอกาสสุดท้ายที่ได้ทำเพื่อให้งานออกมาดีตรงตามที่ตั้งใจ

 


ช่วงก่อนคอนเสิร์ต น้าตุ้มต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง

เวลามีคอนเสิร์ตแต่ละทีน้าตุ้มจะทำงานเยอะ เพราะว่าต้องคิด เตรียม และประสานงานกับผู้จัด จะคิดหมดว่าตรงนี้ควรจะต้องทำแบบไหน ฉากควรจะเป็นอย่างไร จริงๆ เราไม่ต้องทำก็ได้ เพราะว่ามีทีมงานที่เขาช่วยดูแล แต่เรามีไอเดียและคิดอยู่เรื่อยๆ ก็เลยได้แลกเปลี่ยนกับน้องๆ ตลอด


แต่ที่สำคัญคือพอจะมีคอนเสิร์ตจะต้องมีวินัยกับตัวเองมาก คือรักษาสุขภาพให้ดี แล้วก็ฝึกวอร์มเสียง เพราะอายุมากแล้ว ต้องฝึกทุกวัน วันละประมาณ 1 ชั่วโมง ช่วง 3 เดือนก่อนจะถึงคอนเสิร์ต น้าตุ้มจะมีครูกิต (กิตตินันท์ ชินสำราญ) มาช่วยฝึกให้ที่บ้าน ส่วนครูโรจน์ (รุ่งโรจน์ ดุลลาพันธ์) จะเป็นครูอีกคนที่ดูการร้องให้ แต่ครูกิตจะเป็นเหมือนติวเตอร์ที่ช่วยดูเรื่องนี้ให้อย่างละเอียดก่อนขึ้นคอนเสิร์ต ดูว่าเราต้องปรับตรงไหน ต้องร้องแบบไหนถึงจะช่วยให้สบายขึ้น ต้องหยุดหายใจตรงคำไหน


นอกจากฝึกวอร์มเสียงแล้วก็ต้องออกกำลังกาย จริงๆ ชอบว่ายน้ำที่สุด แต่ช่วงนี้ใช้วิธีเดินลู่ ถีบจักรยาน แล้วก็ยกน้ำหนัก แต่ยกน้ำหนักนี่ไม่ได้มากมายนะคะ ยกเพียงให้หัวใจได้ทำงาน

 

เพลง รักข้ามขอบฟ้า

 

คอนเสิร์ตครั้งนี้ต่างจากคอนเสิร์ตครั้งก่อนตรงไหนบ้าง

ทุกครั้งที่ทำคอนเสิร์ต เราคิดว่าจะต้องทำให้ดีที่สุด แต่พอเวลาผ่านไปเราก็จะมีไอเดียอื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามา อย่างน้าตุ้มทำคอนเสิร์ตทุกปี แต่ละปีก็จะมีไอเดียเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

ส่วนใหญ่แล้วน้าตุ้มได้ไอเดียในการทำคอนเสิร์ตมาจากไหน

ด้วยความที่น้าตุ้มเป็นคนชอบดูคอนเสิร์ต ชอบดูบรอดเวย์ มันทำให้เรามีข้อมูลเก็บไว้เยอะ สามารถเอาประสบการณ์ของเรามาใช้ในการทำงานได้ เวลากลับบ้านที่อเมริกา ซึ่งต้องกลับทุกปี ละครบรอดเวย์และมิวสิคัลทั้งหลายนี่ชอบมาก ต้องดูทุกครั้ง ดูจนไม่มีเรื่องจะดูแล้ว อย่าง Le Miserables นี่ดูไป 5 หนได้ ชอบมาก เนื้อหามันเข้มข้น มีทั้งเรื่องการเมืองและประวัติศาสตร์


หรือเวลาไปอังกฤษ นอกจากมิวสิคัลแล้วก็จะดูละครเล็กๆ ที่ไม่ได้เล่นโรงใหญ่ แต่กลับน่าประทับใจเช่นกัน เพราะเราเป็นศิลปิน เวลาดูแล้วเราจะดูลึก ดูรายละเอียดการแสดง ดูบท ดูฉาก ยกตัวอย่างเรื่อง High Society นี่ฉากเขาเรียบมาก ใช้ไฟฉายมาที่เวทีเพื่อทำเป็นฉากต่างๆ เราก็จะเห็นว่าบางทีมันไม่ต้องอลังการตระการตาอะไรก็ทำให้เชื่อได้ ถ้าใช้ความคิด ใช้จินตนาการ


แต่เวลาเราเสนอไอเดียแล้วมันไม่เหมาะก็จะฟังทีมงานนะคะ เพราะเขาใช้เหตุผลมาอธิบาย ส่วนเราก็เข้าใจ เพราะว่าดูมาเยอะ มันเหมือนว่าเราพูดภาษาเดียวกัน แล้วเราก็ไม่ดื้อ (หัวเราะ) ก็เลยทำงานกันง่ายมาก

 

 

สิ่งหนึ่งที่คนดูคุ้นเคยและคาดหวังคือชุดสวยๆ ของน้าตุ้มที่จะได้เห็นบนเวที คอนเสิร์ตครั้งนี้ได้ให้โจทย์กับ Kai Boutique ที่เป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

เราให้โจทย์เรื่องอารมณ์เพลงว่าอารมณ์นี้มันควรจะไปกับชุดนี้ สีนี้ ฉากมันจะเป็นแบบนี้นะ แล้วคุณไข่ (สมชาย แก้วทอง ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้ง Kai Boutique) ก็จะวาดให้ดูตรงนั้นเลยว่าแบบนี้ดีไหม นั่งทำให้เลย น่ารักมาก อย่างครั้งนี้ก็บอกว่าจะตัดให้ 8 ชุด แล้วก็ให้ไปเลือกเอา ทุกครั้งคุณไข่ก็จะทำแบบนี้ ตัดไว้เกินเพื่อให้เราเลือกอีกที ส่วนเครื่องประดับก็จะจัดการเองด้วยส่วนหนึ่ง อีกส่วนก็เลือกจากที่ร้านคุณไข่เพื่อให้แมตช์กับชุด

 

เพลง ชั่วฟ้าดินสลาย

 

คอนเสิร์ตครั้งนี้ น้าตุ้มเลือกเพลงอย่างไร

เราเริ่มจากเลือกธีมกันก่อนจนได้ธีม ‘ชั่วฟ้าดินสลาย’ ซึ่งเราเน้นความหมายของชั่วฟ้าดินสลายในแง่ที่ว่ามันคือการให้ เป็นความรักที่เกิดจากการให้ เพราะความรักที่ไม่หวังผลตอบแทนแบบนี้จะอยู่ชั่วฟ้าดินสลาย ไม่ใช่ชั่วฟ้าดินสลายในแง่ของความรักผิดหวังโศกเศร้าแบบในหนัง ซึ่งตรงกับการที่เราหาเงินสมทบทุนให้โรงพยาบาล คือเรามอบให้ทุกคนที่มาใช้บริการ เนื่องจากเรารู้ว่าโรงพยาบาลได้เงินบริจาคมาเท่าไรก็ไม่พอ


พอได้ธีมแล้วเราก็มาเลือกเพลง แต่จะพยายามเลือกไม่ให้ซ้ำกับคอนเสิร์ตครั้งที่แล้ว เพราะไม่อยากให้คนดูรู้สึกว่าเราร้องเพลงอื่นไม่เป็นเลย แต่เพลงที่คนชอบมากๆ เราก็ยังเก็บไว้บางส่วน แล้วก็ใส่บางเพลงเพิ่มเข้ามา

 

ในทีมที่ทำคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยกัน มีใครที่วัยใกล้เคียงกับน้าตุ้มบ้างไหม

ไม่มีเลยค่ะ (หัวเราะ) มีน้าตุ้มคนเดียวที่เป็นน้า เป็นอา แต่น้าตุ้มเป็นคนที่ค่อนข้างเข้ากับเด็กได้ง่าย เวลาอยู่กับหลานๆ ก็จะเล่นกันแบบลืมวัย เพราะฉะนั้นในการทำงานซึ่งมีคนเด็กกว่าเราเยอะก็เลยไม่มีช่องว่างระหว่างวัย

 

 

ทำงานกับคนรุ่นลูกรุ่นหลานสนุกตรงไหนบ้าง

เราเฮฮาไปกับเด็กๆ ได้ ไม่ต้องระวังตัวมาก แล้วเด็กพวกนี้น่ารัก เขาให้ความเคารพ มีกาลเทศะ ไม่ได้ลามปาม แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเขามีอะไรก็แยบเราได้ เราเองก็สนุกไปกับเขาด้วย


ครอบครัวน้าตุ้มเองก็มีบรรยากาศแบบนี้ เพราะคุณพ่อคุณแม่มีลูก 10 คน มีหลาน 20 คน เพราะฉะนั้นเราจะมีหลายเจเนอเรชัน หลายอายุในครอบครัว แต่พอเจอกันเราก็จะลืมไปเลยว่าหลานๆ นี่เขาเด็กกว่าเราเยอะนะ

 

แล้วเคยร้องเพลงให้หลานๆ ฟังบ้างไหม

เคยร้องให้เขาฟังตอนเด็กๆ กับร้องเล่นๆ กันมากกว่า อย่างเวลากลับไปที่อเมริกาช่วงคริสต์มาส ปีใหม่ เราก็จะร้องเพลงเล่นดนตรีแบบเฮฮากัน อย่างมีหลานคนหนึ่งที่นั่น เขาเรียนกีตาร์ เขาก็เคยเล่นแล้วให้ยายร้อง

 

ทราบมาว่าน้าตุ้มมักจะตื่นเต้นเสมอเวลาที่ขึ้นเวที กับคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็ยังเป็นความรู้สึกนั้นอยู่หรือเปล่า

คอนเสิร์ตกี่ครั้งก็ตื่นเต้นทุกครั้ง เป็นคนขี้ตื่นเต้นแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ เวลาขึ้นเวที เพลงแรกนี่จะตื่นเต้นมาก แต่พอผ่านเพลงแรกไปได้ก็จะดีขึ้น แล้วก็อาศัยว่าทำสมาธิก่อนขึ้นคอนเสิร์ตทุกครั้ง เพราะถ้าตื่นเต้นเกินไป มันจะทำให้เราเสียหมด ร้องเพลงก็ไม่ถึง

 

ทุกวันนี้การร้องเพลงยังเป็นความสุขในชีวิตเช่นเดียวกับในอดีตหรือเปล่า

ใช่ค่ะ มีร้องเพลงกับวาดรูปนี่ล่ะที่เป็นความสุข แล้วการร้องเพลงมันมีความสุขอีกอย่างตรงที่มันเป็นอะไรที่บอกว่าเรายังมีความสามารถและยังมีคนฟังเพลงเราอยู่ เมื่อเราทำสิ่งที่แฮปปี้ คนฟังก็แฮปปี้ ซึ่งน้าตุ้มคิดว่านักร้องทุกคนน่าจะรู้สึกเหมือนกันว่าถ้าตราบใดเราขึ้นเวทีแล้วคนยังชอบเราอยู่ มันก็เป็นความภูมิใจ

FYI
  • คอนเสิร์ตการกุศล ชั่วฟ้าดินสลาย โดย ศรีไศล สุชาตวุฒิ จัดแสดงในวันที่ 30 มิถุนายน 2561 เวลา 13.00-15.30 น. ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี พร้อมแขกรับเชิญ ได้แก่ กบ-ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี, นภ พรชำนิ, บอย พีซเมกเกอร์, แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข และเท่ห์-อุเทน พรหมมินทร์
  • รายได้จากการจำหน่ายบัตรทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายจะมอบให้ศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจที่ยากไร้ และพัฒนาบุคลากรเฉพาะทางด้านโรคหัวใจ www.thaiticketmajor.com/concert/concert-srislai-2018-th.html
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X