วานนี้ (4 มิถุนายน) เมื่อเวลา 17.40 น. ที่ท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช เครื่องบินของทางการประเทศอินโดนีเซียลงจอด โดยมีคณะของ พล.ต.ท. สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองชุดรับตัว เชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด นักโทษชายที่ทำการหลบหนีการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566
ทันทีที่มาถึงคณะได้เข้าไปในตัวอาคารเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โดยใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากนั้นเวลา 18.50 น. เจ้าหน้าที่ได้นำกระเป๋าสัมภาระของเชาวลิต ประกอบด้วยกระเป๋า 2 ใบ และกล่องกระดาษถูกซีลด้วยพลาสติก 2 ถุงนำไปที่รถ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเชาวลิตออกมาจากอาคารโดยสารระหว่างประเทศ โดยเชาวลิตสวมหมวกคลุมทั้งศีรษะ (โม่ง) และหมวกแก๊ป สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทาทับด้วยเสื้อเกราะกันกระสุน ใส่กางเกงวอร์มสีเทา รองเท้าแตะ ถูกพันธนาการด้วยกุญแจมือ
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้คุ้มกันอย่างเข้มงวดโดยนำตัวเชาวลิตไปขึ้นรถของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (SWAT) ที่จอดรอรับไว้อยู่แล้วทันที เพื่อนำตัวไปที่สถานีตำรวจภูธร (สภ.) เมืองนครศรีธรรมราช โดยพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาหลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะใช้เวลาในการสอบปากคำตลอดทั้งคืน ก่อนที่พนักงานสอบสวนจังหวัดพัทลุงจะอายัดตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาในวันที่ 5 มิถุนายน
ต่อมาเวลา 19.00 น. รถควบคุมตัวเชาวลิตได้มาถึง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เชาวลิตถูกนำตัวเข้าห้องสอบสวนทันที โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษเฝ้าดูแลความปลอดภัยบริเวณรอบสถานีตำรวจ ต่อมาเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าไปพิมพ์ลายนิ้วมือและตรวจวัตถุพยานหลักฐานที่นำติดตัวมาจากอินโดนีเซีย
จากนั้น เวลา 20.15 น. พล.ต.ท. สุรพงษ์ ถนอมจิตร ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า มีทนายความ 2 คนที่ผู้ต้องหาร้องขอให้ร่วมฟังการสอบสวน หลังจากที่พนักงานสอบสวนของพัทลุงสอบสวนแล้วเสร็จจะนำตัวชวลิตไปยื่นคำร้องขออำนาจศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชฝากขังต่อไป เมื่อศาลพิจารณาคำร้องเสร็จสิ้นแล้วก็จะเป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์ดำเนินการต่อ
เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการนำตัวไปฝากขังตำรวจจะเป็นฝ่ายสนับสนุน โดย พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หากราชทัณฑ์หรือเรือนจำประจำจังหวัดร้องขอให้ดำเนินการสนับสนุนให้ปฏิบัติในทันที
พล.ต.ท. สุรพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากที่สอบถามกับคณะพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง มี 3 คดีที่เชาวลิตต้องถูกสอบสวน ส่วนที่ว่าเจ้าหน้าที่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าเป็นการจับมาถูกบุคคล
พล.ต.ท. สุรพงษ์ ระบุว่า ตัวเขาเองก็ยืนยันว่าเป็นตัวเขา และเจ้าหน้าที่มีการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไว้ ทั้งนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายของประเทศไทยที่คุ้มครองในส่วนของผู้ต้องหา จึงไม่สามารถนำตัวเชาวลิตมาร่วมแถลงข่าวได้ ส่วนการที่ผู้ต้องหาต้องการมาแถลงข่าวหรือปรากฏตัวต่อสื่อมวลชนตนเอง ขอยืนยันว่าเป็นการไม่เหมาะสม และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะป้องกันไม่ให้มีภาพหลุดต่อสาธารณะ
เมื่อถามต่อว่า โอกาสที่คดีความของเชาวลิตจะถูกโอนไปยังส่วนกลางเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด พล.ต.ท. สุรพงษ์ ระบุว่า ขออนุญาตไม่ตอบคำถามข้อนี้ ส่วนจะนำตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศอินโดนีเซียหรือไม่ ต้องอยู่ที่พยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ประเทศนั้น การนำตัวกลับมาที่ประเทศไทยครั้งนี้เป็นความร่วมมือของ 2 ประเทศ ยืนยันว่าไม่มีค่าใช้จ่ายทั้ง 2 ฝั่ง
เมื่อถามต่อว่าเป็นการปิดจบการหลบหนีกว่า 200 วันของเชาวลิตหรือไม่ พล.ต.ท. สุรพงษ์ กล่าวว่า วันนี้จับกุมตัวได้ต้องนำตัวสู่กระบวนการยุติธรรม และส่งไปฟ้องที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช