×

เศรษฐาพอใจผลเดินสายยุโรป เผย นายกรัฐมนตรีอิตาลีรับปากเตรียมเยือนไทย ก.พ. 68 พร้อมเจรจา EU หนุนยกเว้นวีซ่าเชงเก้นไทย

โดย THE STANDARD TEAM
22.05.2024
  • LOADING...
เศรษฐา ทวีสิน

วันนี้ (22 พฤษภาคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือทวิภาคีกับ จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอิตาลี ในโอกาสการเยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการว่า ถือเป็นโอกาสดี เพราะนอกจากจะเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังเป็นประธานกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (G7) ซึ่งตำแหน่งนี้สามารถโน้มน้าวประเทศสมาชิกได้หลายๆ เรื่อง โดยในวันนี้มีการหารือทวิภาคีแบบสองต่อสองในบรรยากาศสบายๆ 

 

อิตาลีพร้อมเจรจา EU หนุนยกเว้นเชงเก้นคนไทย

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้นำเรื่องการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าเขตเชงเก้นที่ไทยได้หารือกับประเทศสมาชิกยุโรปอยู่แล้วมาหารือ ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีก็พร้อมให้การสนับสนุน เพราะที่ผ่านมาคนไทยที่เดินทางไปอิตาลีไม่มีปัญหาเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง ไม่ได้หลบหนี และไม่ได้ก่อปัญหาให้ประเทศอิตาลี

 

นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยด้วยว่า นายกรัฐมนตรีอิตาลีเป็นคนแรกของยุโรปที่ได้สอบถามว่าทำไมถึงอยากได้วีซ่าฟรีเชงเก้น ซึ่งตนได้บอกว่านอกจากจะมีความสะดวกสบายในการเข้าหากัน ทำให้มีการลงทุน และมีการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกับประชาชนแล้ว การขอวีซ่าฟรีเชงเก้นมีความยากลำบากและใช้เวลานาน หากจะต้องการให้มีการค้าขายระหว่างประเทศไทยกับสหภาพยุโรป จึงจำเป็นต้องมีความสะดวกสบายในเรื่องนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะผลักดันอย่างเต็มที่ รวมถึงการเจรจาการค้าเสรี (FTA) หากบริษัทเอกชนในอิตาลีต้องการไปลงทุนในประเทศไทย เพื่อขยายฐานการผลิตและกระจายสินค้าไปทั่วโลก 

 

นอกจากนี้ยังมีการหารือเรื่องของความมั่นคง การซื้ออาวุธ การพัฒนากองทัพร่วมกัน และเทคโนโลยีต่างๆ โดยได้ให้ทูตทหารประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงของอิตาลี รวมทั้งเรื่องอุตสาหกรรมการออกแบบ แฟชั่นและดีไซน์ เรื่องของพลังงานสะอาดที่ทางอิตาลีให้ความสนใจ การค้นหาแหล่งก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา (OCA)

 

นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า อิตาลียังหยิบยกเรื่องของแรงงานที่ต้องการให้ไทยส่งแรงงานเฉพาะฤดูที่เกี่ยวกับการเกษตรเข้ามาทำงานที่ประเทศอิตาลี สอดคล้องกับความต้องการแรงงานของชาวไทย ซึ่งจะทำให้มีรายได้สูงมาก และเป็นอีกทางเลือกให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวไทย นอกเหนือจากการไปประเทศอิสราเอล ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะรับไปดูต่อในเรื่องนี้

 

นายกฯ อิตาลี รับปากเตรียมเดินทางเยือนไทย ก.พ. 68

 

นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกด้วยว่า การพูดคุยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที รวมเวลารับประทานอาหารร่วมกัน ถือเป็นเรื่องดีๆ เพราะมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าร่วม โดยเฉพาะโครงการแลนด์บริดจ์ ส่วนเรื่องของการขยายสนามบินในไทยทางอิตาลีมีเทคโนโลยีหลายอย่างที่อาจเข้ามาเสนอตัวมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ และทางนายกรัฐมนตรีอิตาลีก็ได้เสนอว่า ทั้งสองประเทศควรมีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่ชัดเจน และมีการเซ็น MOU อยู่ระหว่างภาคเอกชนกับภาคเอกชนและเอกชนกับรัฐบาล

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีอิตาลีเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนกันยายน แต่ช่วงเวลานั้นติดการประชุม G7 จึงตัดสินใจว่าอาจมีการเดินทางเยือนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568 พร้อมเชิญชวนให้นายกรัฐมนตรีอิตาลีเดินทางไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เพราะทราบว่าไม่เคยเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย และมีลูกสาวอายุ 7 ขวบ รวมถึงชื่นชอบการท่องเที่ยว

 

บอกข่าวดี เปิดเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-มิลาน ดีเดย์ 1 ก.ค. นี้

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า จะมีการเปิดเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-มิลาน ในช่วงวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ และช่วงฤดูหนาวจะมีการเปิดเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-โรม คาดว่าสายการบินแห่งชาติของอิตาลีก็น่าจะสนใจในเรื่องนี้

 

“การเยือนประเทศอิตาลีครั้งนี้ถือว่าเหนือความคาดหมาย เพราะมีการกำหนดขั้นตอนชัดเจนว่าอนาคตจะมีขั้นตอนอย่างไร จะทำอะไรบ้าง ซึ่งผมพอใจภาพรวมตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมา พอใจมาก” นายกรัฐมนตรีกล่าว

 

นายกฯ เชื่อ ความเป็นกลางทางการเมืองของไทยมีเสน่ห์

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า เชื่อว่าความเป็นกลางทางด้านการเมืองของไทยทำให้ไทยมีเสน่ห์ โดยที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร เพราะเรื่องของธุรกิจที่จะตัดสินใจย้ายฐานการผลิตเข้ามา เขาต้องมั่นใจว่าไทยจะสามารถส่งสินค้าได้โดยที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับประเทศไหน และแน่นอนว่าชีวิตความเป็นอยู่ในประเทศไทยทำให้มีคนอยากเดินทางมาอยู่ที่นี่ ซึ่งในอดีต 10-20 ปีที่ผ่านมา เรื่องของการค้าขายระหว่างสองประเทศ ไทยควรทำได้ดีกว่านี้

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งฝรั่งเศสและอิตาลีกังวลอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทยหรือไม่ที่จะตัดสินใจมาลงทุนในไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนเองรู้สึกแปลกใจที่ผู้นำทั้งสองประเทศไม่พูดถึงการเมืองไทย แต่พูดถึงเรื่องธุรกิจ และเขามีความมั่นใจในประเทศไทยสูงมาก เชื่อว่าเป็นเรื่องของขบวนการทั้งหมดของการได้มาซึ่งรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตยที่มีความชอบธรรม ซึ่งตรงนี้มันจบแล้ว และการที่เราเดินออกมาหลายๆ ประเทศและเขาก็ได้เห็นเราไปปรากฏตัวบนเวทีโลกหลายเวที เขาเห็นว่าประเทศไทยเปิดแล้วสำหรับทำธุรกิจ เรื่องเหล่านี้สำคัญ และไม่มีโอกาสและจังหวะไหนดีที่สุดเท่าจังหวะนี้แล้ว

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากการพบกันกับนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ ภาพที่ออกมาดูเหมือนนายกรัฐมนตรีมีความสนิทสนมและเป็นกันเองมาก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกดีใจ นายกรัฐมนตรีเป็นคนพูดจาได้ชัดเจน มีฝ่ายที่เกี่ยวข้องมานั่งคุยกับฝ่ายเรา ถือเป็นนิมิตหมายอันดี

 

“ผมคงไม่คอยถึงเดือนกุมภาพันธ์ (นายกรัฐมนตรีอิตาลีเยือนไทย) สักสองอาทิตย์คงต้องมีการติดตาม โดยให้ทูตไทยประสานติดต่อ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

 

เล็งเยือนอินเดีย-แอฟริกา-ตุรกี

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากจบการเดินทางครั้งนี้แล้วมีแผนที่จะเดินทางเยือนประเทศไหนอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คาดว่าน่าจะไปประเทศอินเดีย ซึ่งจะมีการเลือกตั้ง โดยนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอยู่มา 4 เทอมแล้ว มีความเชี่ยวชาญในหลายด้านและชื่นชอบประเทศไทย นอกจากนี้ยังคิดว่าจะเดินทางเยือนแอฟริกาเพื่อเปิดตลาดค้าขายเกี่ยวกับเรื่องอาหารและสินค้าการเกษตร รวมถึงประเทศที่เป็นประตูสู่ทวีปยุโรปคือตุรกี ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3 ขึ้นไตรมาส 4 แต่จากนี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงของวันมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตนจะยังไม่เดินทางไปไหน แต่จะลงพื้นที่โครงการพระราชดำริ ซึ่งมีหลายโครงการ จะไปตรวจงานและติดตามให้ทุกโครงการดำเนินไปด้วยดี 

 

จันทร์นี้เตรียมประชุม ครม. เศรษฐกิจ นัดแรก เร่งดัน GDP ห่วงเศรษฐกิจถดถอย

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ในวันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคมนี้ จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งจะเรียกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกันในช่วงเวลา 16.00 น. ไม่ได้เรียกใครมาเพื่อต่อว่า แต่จะเป็นการมาพูดคุยหามาตรการหรือไอเดียต่างๆ ที่จะต้องทำตั้งแต่เรื่องนโยบายและการผันเงินผ่านกรมบัญชีกลาง เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ แก้ไขปัญหา เรียกว่าเป็นการมานั่งแก้ไขปัญหากัน เพราะ GDP ของไทยโต 1.5% ต่ำที่สุดในอาเซียน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ไตรมาส 4 ที่ตั้งใจไว้ว่าเงินดิจิทัลจะถึงมือประชาชน คาดว่า GDP จะโตขึ้นใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงมีส่วน แต่จะคอยไกลขนาดนั้นไม่ได้แล้ว ต้องเริ่มทำงานก่อน เพราะ GDP 1.5% ถ้าไม่มีภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เราก็จะตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย อันนี้น่าเป็นห่วง และยังมีอีกหลายเรื่องทั้งบัตรเครดิต หนี้เสีย และหนี้ครัวเรือน

 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะมีโครงการระยะสั้นออกมากระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตรงนี้เป็นที่มาของการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งต้องมานั่งคุยกัน แต่การประชุมครั้งนี้คงยังไม่มีโครงการอะไรออกมาเซอร์ไพรส์ และต่อไปจะมีทุกสัปดาห์ อีกทั้งยังมีการประชุมวงเล็ก ซึ่งตนอยากฟังความคิดเห็นของทุกคน จะมีทั้งภาคการค้าระหว่างประเทศ ภาคการเกษตร ภาคกฎหมาย ภาคการเกษตร และภาคนโยบาย ซึ่งต้องฟังทุกคนและคงจะมีข้อสรุปออกมา 

 

ทำงานหนักเพื่ออนาคตลูกหลาน

 

เมื่อถามว่าเหนื่อยหรือไม่ที่ต้องแบกความหวังคนไทยทั้งประเทศ นายกรัฐมนตรีกล่าวทันทีว่า “ไม่ ไม่เหนื่อยครับ เต็มที่ครับ”

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า หลังเดินทางกลับจากต่างประเทศครั้งนี้ ในวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม และวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม ตนจะลงพื้นที่ติดตามโครงการต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง พร้อมยอมรับว่า การทำงานหนัก ไม่ได้พักผ่อน ก็เป็นห่วงสุขภาพตัวเองเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร เพราะเป็นการทำเพื่ออนาคตของลูกหลานรุ่นต่อๆ ไป

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X