Nemo ผู้เข้าแข่งขันรายการ Eurovision จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ด้วยการคว้าชัยชนะจากรายการดังกล่าวได้สำเร็จ ส่งผลให้เขาขึ้นแท่นเป็น Non-Binary คนแรกที่ชนะในรายการนี้
Nemo เอาชนะคู่แข่งคนสำคัญที่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ ไม่แพ้กัน ทั้งตัวแทนจากฝั่งโครเอเชีย ยูเครน และฝรั่งเศส ด้วยบทเพลงของเขาที่มีชื่อว่า The Code โดยเป็นการผสมผสานกันระหว่างดนตรีป๊อป การแร็ป เสียงของกลองและเบส รวมไปถึงโอเปรา ที่เล่าเรื่องราวการค้นพบว่าตัวเองเป็น Non-Binary ซึ่งการที่ Nemo ผู้เป็น Non-Binary และชนะรายการนี้นับเป็นโมเมนต์ที่มีความหมายกับเหล่า LGBTQIA+ เป็นอย่างมาก
โดยแฟนรายการ Eurovision รายหนึ่งเขียนข้อความผ่าน X (Twitter) ว่า “ยุโรปได้เกิดความเปลี่ยนแปลงแล้วในค่ำคืนนี้ มันกลายเป็นสถานที่ที่แตกต่างสำหรับพวกเราที่เป็น Non-Binary ไปแล้ว และเราก็ไม่รู้จะขอบคุณยุโรปอย่างไรกับสิ่งนี้ดี”
ในขณะที่แฟนอีกรายโพสต์ข้อความว่า “ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย เรื่องราวของเทพนิยายกลายเป็นผู้ชนะ บุคคล Non-Binary ผู้ชนะคนแรกแห่งรายการ Eurovision…สวิตเซอร์แลนด์คือแชมเปียน ยินดีด้วยนะ Nemo”
นอกจาก Nemo แล้วยังมีผู้เข้าแข่งขันรายการ Eurovision ที่เป็น Non-Binary เช่นกัน นั่นคือ Bambie Thug ตัวแทนจากไอร์แลนด์ โดยทั้งสองก็มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน และ Bambie Thug ยังได้เป็นผู้มอบรางวัลให้กับ Nemo อีกด้วย ซึ่งสำหรับรายการ Eurovision ในปีนี้ก็เต็มไปด้วยประเด็นถกเถียงมากมาย โดยเฉพาะจากการที่ทางรายการอนุญาตให้ตัวแทนจากอิสราเอลเข้าร่วมการแข่งขันได้ ถึงแม้ว่าอิสราเอลจะยังคงโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่ Joost Klein ตัวแทนประเทศเนเธอร์แลนด์ที่ถูกแบนจากการแข่งขัน เนื่องจากเขาใช้คำพูดที่รุนแรงกับทีมงานผู้หญิงของรายการ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของรายการที่ผู้เข้าแข่งขันโดนแบนก่อนรอบไฟนอล
ภาพ: Martin Sylvest Andersen / Getty Images
อ้างอิง: