เกิดอะไรขึ้น
InnovestX Research คาดว่า บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) จะรายงานกำไรจากการดำเนินงาน 1.5 พันล้านบาทใน 1Q67 เพิ่มขึ้น 13.8%QoQ และ 40.5%YoY หลักๆ เกิดจากการฟื้นตัวของการดำเนินงานในเกือบทุกประเทศที่ SCGP มีฐานการผลิตอยู่ โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย จากราคาขายที่ฟื้นตัวต่อเนื่องสอดคล้องกับแนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคากระดาษบรรจุภัณฑ์ในประเทศจีน
ในขณะที่การดำเนินงานในประเทศไทยยังคงแข็งแกร่ง โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ (โครงการ Easy e-Receipt) และนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากขึ้น แม้ว่าจะถูกลดทอนลงบางส่วนโดยการดำเนินงานในประเทศเวียดนามที่อ่อนตัวลงตามฤดูกาล เนื่องจากมีวันหยุดเทศกาลเต๊ตเป็นเวลาสองสัปดาห์ใน 1Q67
ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบ (เศษกระดาษ) คาดว่าจะปรับขึ้นน้อยกว่าราคาขายกระดาษบรรจุภัณฑ์ แม้ว่าดัชนี AOCC (American Old Corrugated Container) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13%QoQ สู่ 216 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ SCGP ใช้ AOCC เพียง 10% ของเศษกระดาษรีไซเคิลที่ใช้ทั้งหมด SCGP สามารถใช้เศษกระดาษรีไซเคิลภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งราคามีความผันผวนน้อยกว่าและถูกกว่า AOCC โดยบางช่วงอาจจะขึ้นไปถึงกว่า 70% ของปริมาณการใช้ทั้งหมด โดยรวมแล้วคาดว่า EBITDA Margin จะเพิ่มขึ้นจาก 15% ใน 4Q66 สู่ 16% ใน 1Q67
นอกจากนี้ สายธุรกิจเยื่อและกระดาษ (19% ของรายได้รวม) ยังได้รับประโยชน์จากราคาเยื่อกระดาษที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ขาดแคลนอุปทานในอเมริกาใต้ที่ทำให้มีการส่งออกมายังเอเชียน้อยลง ความต้องการที่เพิ่มขึ้นและกฎเกณฑ์ในทวีปอเมริกาใต้ที่เข้มงวดมากขึ้น ทำให้ราคาเยื่อกระดาษใยสั้นและราคาเยื่อเคมีละลายน้ำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นใน 1Q67 นอกจากนี้ความต้องการบรรจุภัณฑ์อาหารก็เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และเทรนด์โลกก็มีการเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ด้วย
กระทบอย่างไร
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น SCGP ปรับขึ้น 10.62% สู่ระดับ 31.25 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 1.06% สู่ระดับ 1,401.11 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ
ราคาหุ้น SCGP ปรับตัวลดลง 13% YTD มาเทรดที่ระดับ -2SD ของ P/E Mean บ่งชี้ว่าปัจจัยลบสะท้อนในราคาหุ้นไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่าปริมาณการขายชอร์ตสำหรับ SCGP ลดลงอย่างมาก ตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) มีการเปิดเผยข้อมูลการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืนเป็นรายหลักทรัพย์ ซึ่งพบว่า SCGP และ SCGP-R มีปริมาณการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน 19.9 ล้านหุ้น (0.46% ของจำนวนหุ้นชำระแล้ว) ณ วันที่ 5 เมษายน 2567 หากโมเมนตัมราคาหุ้นของ SCGP ปรับตัวดีขึ้นสอดคล้องกับผลการดำเนินงานของบริษัท คาดว่าจะเห็นการทำ Short Covering (ซื้อหุ้นคืน) ซึ่งจะผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น
InnovestX Research ยังคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ SCGP โดยให้ราคาเป้าหมาย 40 บาทต่อหุ้น อ้างอิงระดับ -1SD ของ P/E Mean ที่ 25.9 เท่า และคาดว่าการฟื้นตัวของผลประกอบการปี 2567 จะทำให้ราคาหุ้น SCGP มีโมเมนตัมเป็นบวกมากขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้าต่อเนื่อง และความไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ต้นทุนถ่านหินเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญคือ การบริหารจัดการพลังงาน ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ยังอยู่ในระดับสูง (E)
